วิจัยพบ “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ส่งรายได้บริษัทเพิ่ม 8% ลดภาวะ ‘burn out’ ในหมู่พนักงาน

ภาพจาก Shutterstock
วิจัยชิ้นใหม่ที่ทำการศึกษาพบว่า “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ประสบความสำเร็จในโครงการนำร่อง โดยทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 8% ในระยะเวลา 6 เดือนที่ทดลอง รวมถึงทำให้พนักงานเกิดภาวะ ‘burn out’ น้อยลง ลดความอ่อนเพลีย ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น

องค์กรไม่แสวงหากำไรในนิวซีแลนด์ชื่อ “4 Day Week Global” เปิดเผยข้อมูลการวิจัยใหม่ซึ่งทดลองในบริษัทจำนวน 33 แห่ง รวมพนักงาน 969 คน โดยบริษัทที่เข้าร่วมกระจายกันไปใน 6 ประเทศ คือ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ และแคนาดา บริษัทเหล่านี้ได้ทดลองใช้นโยบาย “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” เป็นเวลา 6 เดือน

งานวิจัยพบว่า สัปดาห์ทำงานที่สั้นลงนั้น “สร้างความสำเร็จอย่างเด่นชัดในทุกมิติ”

“บริษัทรู้สึกพึงพอใจอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำงาน ผลการดำเนินงาน และประสบการณ์โดยรวม และทำให้เกือบทุกบริษัทเตรียมแผนการหรือวางนโยบายเพื่อจะจัดตารางทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์แล้ว” รายงานการวิจัยระบุ “รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการทดลอง จำนวนวันลาป่วยหรือลาหยุดของพนักงานลดลง อัตราการลาออกลดลงเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมากแล้วในช่วงที่เกิด ‘Great Resignation’ (การลาออกขนานใหญ่ในโลกตะวันตก) พนักงานยังคงกระตือรือร้นในการทำงานเช่นเดิม”

ในช่วงการทดลอง รายได้ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้น 8.14% โดยเฉลี่ย และถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รายได้เพิ่มขึ้นถึง 37.55%

ในมุมของพนักงาน ผลดียิ่งมีความสำคัญ เพราะ 67% ของพนักงานรู้สึกว่าลดภาวะ ‘burn out’ (หมดไฟในการทำงาน) หลังทดลองทำงาน 4 วัน และเมื่อมีวันพักผ่อนเพิ่มขึ้น 1 วัน ทำให้มีเวลาออกกำลังกายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 23 นาทีต่อสัปดาห์ ปัญหาการนอนหลับของพนักงานยังลดลง 8% ด้วย

มากไปกว่านั้น แม้ว่าแต่ละสัปดาห์จะมีวันทำงานน้อยลง ผู้เข้าร่วมทดลองกลับไม่รู้สึกว่ามีภาระงานเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

ผู้เข้าร่วมทดลองยังตอบแบบสอบถามในรายงานด้วยว่า พวกเขารู้สึกว่าการมีชั่วโมงทำงานสั้นลงในแต่ละสัปดาห์ “เปรียบเสมือนได้รายได้เพิ่มขึ้น 25% ทันที” อีกรายหนึ่งกล่าวว่า “การทดลองนี้มหัศจรรย์มาก เพราะทำให้ฉันได้วันหยุดหรือเวลาหยุดเพิ่ม ด้วยบทบาทหน้าที่การงานนี้ทำให้ที่ผ่านมาไม่สามารถจะหยุดได้ง่ายๆ เมื่อมีโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่จะหยุดเพิ่มแบบนี้ทำให้ไลฟ์สไตล์ของฉันเปลี่ยนไปอย่างมาก”

การทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ก็ยังคงเป็นวัตรปฏิบัติหลักในสหรัฐฯ แต่บางบริษัทก็เริ่มทดลองสัปดาห์การทำงานที่สั้นลงบ้างแล้ว และบริษัทที่ทดลองก็พบว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก

การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์เริ่มได้รับความสนใจจากสภาคองเกรสด้วยเช่นกัน มาร์ก ทาคาโนะ ส.ส.รัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มผลักดัน “กฎหมายทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์” ไปเมื่อปีก่อน และได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มสหภาพแรงงาน

สำหรับบริษัทในเอเชีย แนวคิดการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ โดย Center for Creative Leadership สำรวจผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิก 2,170 ราย พบว่ามีเพียง 2% ที่ยอมรับได้กับการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ แม้แต่การให้ Work from Anywhere ได้ก็ยังเป็นแนวคิดของบริษัทส่วนน้อย ในไทยเองมีบริษัทที่ยอมรับการทำงานแบบรีโมตจากนอกบริษัทเพียง 16% เท่านั้น (อ่านข้อมูลจากการสำรวจต่อที่นี่)

Source