ปิดเมือง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 12 Apr 2020 11:46:41 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สิงคโปร์ ห้ามครูใช้ Zoom ในการเรียนการสอน หลังโดนเเฮกเกอร์ป่วน ปล่อยภาพไม่เหมาะสม https://positioningmag.com/1272859 Sun, 12 Apr 2020 10:08:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272859 กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ห้ามครูใช้ Zoom เเอปพลิเคชันประชุมผ่านวิดีโอที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนี้ สำหรับการเรียนการสอนของโรงเรียนที่บ้านหรือโฮมสคูลอย่างเป็นทางการ หลังเกิดเหตุไม่เหมาะสม

สื่อท้องถิ่น รายงานว่า สัปดาห์เเรกของการเรียนที่บ้านในช่วงมาตรการปิดเมืองของสิงคโปร์ เกิดกรณีมีภาพอนาจาร ปรากฎขึ้นบนหน้าจอเเละชายเเปลกหน้าเเสดงความเห็นลามก ระหว่างการสตรีมคาบเรียนวิชาภูมิศาสตร์ ที่มีนักเรียนหญิงกำลังเรียนอยู่

บริษัท Zoom Video Communications Inc กำลังประสบปัญหาเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการใช้เเอปพลิเคชัน Zoom หลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว โดยจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 200 ล้านคน ตั้งแต่เดือน มี.ค. เมื่อผู้คนทั่วโลกต้องเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต สำนักงานและโรงเรียนทั่วโลก หันมาทำงานเเบบ Work from Home หรือเรียนจากบ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

“สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมาก” Aaron Loh เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของกระทรวงศึกษาธิการระบุ พร้อมจะมีการเเจ้งตำรวจให้ดำเนินการสืบสวนต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว

“เพื่อเป็นการป้องกันไว้ล่วงหน้า ครูของเราทุกคนจะต้องระงับการใช้งาน Zoom จนกว่าปัญหาความปลอดภัยจะหมดไป”

โดยทางการสิงคโปร์ เเนะนำให้ครูผู้สอนกำหนดให้นักเรียนต้องล็อกอินอย่างปลอดภัยทุกครั้งก่อนเข้าห้องเรียนออนไลน์ เเละห้ามเเชร์ลิงก์ให้กับบุคคลอื่น

ด้าน Janine Pelosi หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Zoom ระบุคำเเถลงขอโทษในอีเมลว่า บริษัทเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเละจะมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องมือการศึกษาบนเเพลตฟอร์มที่ปลอดภัยต่อไป

ก่อนหน้านี้ ไต้หวันและเยอรมนี มีคำสั่งห้ามใช้ Zoom ในหน่วยงานรัฐเเละการเรียนออนไลน์ไปแล้ว ขณะที่กูเกิลก็ประกาศห้ามใช้เเอปฯ นี้ กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในองค์กร มาตั้งเเต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม : ไต้หวัน สั่งห้ามหน่วยงานรัฐ ประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom จากความกังวลเรื่องความปลอดภัย

Zoom กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้ในเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เช่น ไม่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ซึ่งอาจจะทำให้โดนดักฟังหรือสอดเเนมข้อมูล รวมถึงการกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลให้ต้องผ่านประเทศจีน อีกทั้งยังมีปัญหา Zoom-bombing ที่มี “แขกไม่ได้รับเชิญ” ปรากฏตัวออกมาระหว่างการประชุมออนไลน์ เป็นต้น

สำหรับการแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้ ทาง Zoom ได้เปิดตัวแผน 90 วัน เพื่อยกระดับความปลอดภัยเเละความเป็นส่วนตัว เเละได้ดึงตัว Alex Stamos อดีตหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Facebook มาร่วมงานในฐานะที่ปรึกษา

ทั้งนี้ การเเข่งขันเพื่อชิงตลาดของแอปพลิเคชันประชุมทางไกลกำลังดุเดือด เมื่อ Zoom ต้องเจอคู่แข่งรายใหญ่ที่ก่อตั้งมานานอย่าง WebEx ของ Cisco, Google Hangouts และ Microsoft Teams เเต่ด้วยความที่ Zoom
ใช้งานง่ายจึงทำให้เข้าถึงผู้คนได้มากกว่าในช่วงวิกฤต COVID-19 โดย Zoom ได้กลายมาเป็นหนึ่งในแอปฯ ที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดบน App Store

ที่มา : Reuters , BBC 

 

]]>
1272859
COVID-19 ทุบเศรษฐกิจไทย คนว่างงานอาจพุ่ง 5 ล้านคน KKP ปรับลดจีดีพีปีนี้ ดิ่งลึก -6.8% https://positioningmag.com/1271841 Sun, 05 Apr 2020 10:18:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1271841 KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ปรับลดคาดการณ์อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ปี 2020 ลงอีกครั้งจากเดิม -2.4% เป็น -6.8% คนว่างงานอาจพุ่งถึง 5 ล้านคน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงขึ้น และมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้หดตัวลึกและยาวนานยิ่งขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้ โดย KKP สรุปปัจจัยสำคัญที่ฉุดเศรษฐกิจไทย ไว้ 3 ด้าน ดังนี้

1. เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงกว่าที่เคยคาดไว้ จากตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้างมากขึ้น ทำให้หลายประเทศมีการประกาศมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของ Bank of America ล่าสุดปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศหลักลงอย่างหนัก โดยเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะติดลบถึง 6% สหภาพยุโรปติดลบที่ 7.6% และเศรษฐกิจจีนคาดจะขยายตัวได้เพียง 1.2% ทำให้เศรษฐกิจโลกโดยรวมจะหดตัวถึง 2.7% จากการประมาณการครั้งก่อนที่คาดขยายตัว 0.3% ซึ่งจะเป็นการหดตัวที่รุนแรงยิ่งกว่าในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2009

2. มาตรการปิดเมืองและ social distancing ที่เข้มข้นขึ้น รัฐบาลไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ มีการประกาศปิดร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ต่างๆ เป็นวงกว้าง รวมถึงล่าสุดมีการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคสินค้าและบริการภายในประเทศมากกว่าที่เคยประเมินไว้

3. การประกาศปิดการเข้าออกระหว่างประเทศ รวมทั้งการประกาศปิดเมืองในหลายจังหวั เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดข้ามจังหวัด จะส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและภายในประเทศได้รับผลกระทบหนักขึ้นไปอีกจากที่เคยคาดไว้ในการประเมินครั้งก่อน

เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก COVID-19 นี้จะทำให้เกิดภาวะการว่างงานเป็นวงกว้าง โดยภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ โรงแรมและร้านอาหาร ภาคการค้า และภาคการขนส่ง มีการจ้างงานรวมถึง 10.1 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของการจ้างงานรวมทั้งประเทศ และในจำนวนนี้เป็นการจ้างงานนอกระบบถึง 5.6 ล้านคน หรือ 55%

ดังนั้น ผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อธุรกิจเหล่านี้จะส่งผลให้แรงงานจำนวนมากต้องถูกเลิกจ้างหรือถูกขอให้หยุดงานชั่วคราว นอกจากนี้ ภาคธุรกิจอื่นๆ เช่น ภาคการผลิต ภาคการก่อสร้าง และบริการอื่นๆ ก็จะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงด้วยเช่นกัน

“อาจมีการว่างงานสูงถึง 5 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน 13% ในช่วงกลางปีนี้ ก่อนที่สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี” KKP Research ระบุ

แม้ว่าที่ผ่านมาภาครัฐได้มีมาตรการด้านโยบายการคลังและการเงินออกมาเพื่อตอบสนองกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ KKP Research มองว่ายังมีความจำเป็นที่ต้องมีมาตรการเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนใน 3 ด้านใหญ่ ได้เเก่

1. ทบทวนและจัดสรรงบประมาณอย่างเร่งด่วนให้กับงานด้านสาธารณสุข เพื่อสร้างความสามารถในการตรวจ สอบสวนความเชื่อมโยง คัดแยก และรักษาผู้ติดเชื้อ และจัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมและมีคุณภาพให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้การควบคุมการระบาดของโรคทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. มีมาตรการทางการคลังระยะสั้นเพื่อเยียวยา และลดภาระของผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการต่างๆ ของรัฐ รวมไปถึงเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรองรับแรงงานในระยะต่อไป

3.จัดเตรียมมาตรการด้านการเงินเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในระบบการเงิน เช่น เตรียมมาตรการรองรับปัญหาการขาดสภาพคล่องในตลาดการเงิน มาตรการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และมาตรการผลักดันสภาพคล่องในระบบการเงินช่วยเหลือธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้

]]>
1271841
ต่ำสุดนับจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ! EIC หั่นเป้าจีดีพีไทย -5.6% ส่งออกทรุด ปิดเมืองกระทบบริโภค https://positioningmag.com/1271508 Fri, 03 Apr 2020 05:21:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1271508 ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 2020 เป็นหดตัวที่
–5.6% จากคาดการณ์เดิมที่ -0.3% นับว่าต่ำสุดนับจากวิกฤตต้มยำกุ้งปี 1998 ด้านส่งออกยังเจอสรสุมหนัก คาดปีนี้หดตัวที่ -12.9%

โดยมีสาเหตุหลัก ๆ จากเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอยจากการเเพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาตรการปิดเมืองของไทย และจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มลดลงมากและฟื้นตัวช้า ซึ่งสรุปได้ 4 ข้อ ดังนี้

1) เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยจากการหยุดลงแบบฉับพลันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (sudden stop) เป็นผลจากปัญหาโควิด-19 และมาตรการปิดเมืองของหลายประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยมีแนวโน้มหดตัวมากที่ -12.9% ในปีนี้

2) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีแนวโน้มจะลดลงมากและฟื้นตัวล่าช้ากว่าที่คาด โดยจะลดมาอยู่ที่ 13.1 ล้านคนในปีนี้ หรือหดตัวที่ -67% จากปีก่อนหน้า เป็นผลจากความกังวลของนักท่องเที่ยวต่อการเดินทางระหว่างประเทศตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนและการรักษาโรคที่ได้ผล และจากรายได้ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกในปีนี้

3) การประกาศปิดเมืองในหลายส่วนของไทย ซึ่งแม้เป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นในการควบคุมการระบาดของโรค แต่จะส่งผลให้การบริโภคสินค้าและบริการของภาคครัวเรือนโดยรวมลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบที่เพิ่มเติมจากความกังวลของผู้บริโภคต่อธุรกรรมที่มีลักษณะ face-to-face ในช่วงโรคระบาดอยู่แล้ว

4) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลังที่คาดว่าจะมีออกมาเพิ่มเติม จะมีส่วนสำคัญในการช่วยบรรเทาผลกระทบของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย โดย EIC ได้เพิ่มสมมติฐานของเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการออก พรก. กู้ฉุกเฉิน จำนวน 200,000 ล้านบาทไว้ในการประมาณรอบนี้ด้วย

เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่รุนแรงเพิ่มขึ้นมาก ประกอบกับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดของหลายประเทศ ทำให้ EIC คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และมีแนวโน้มหดตัวที่ -2.1% ในปี 2020 ต่ำกว่าช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008-09

จากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจโลกที่มีมากกว่าคาด สะท้อนจากข้อมูลเร็วอย่างดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐ ยูโรโซน และญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมที่ลดลงเหลือ 40.5, 31.4 และ 35.8 ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงหรือต่ำกว่าช่วงวิกฤตการเงินปี 2008

นอกจากนี้ มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดของหลายประเทศ ยังส่งผลโดยตรงต่อการหยุดชะงักอย่างฉับพลันของกิจกรรมเศรษฐกิจ (sudden stop) ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักต่อภาคเศรษฐกิจจริง (real sector) ในหลายประเทศทั่วโลก

ดังนั้น EIC จึงประเมินว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่สภาวะถดถอย (global recession) โดยจะหดตัวที่ -2.1% ทั้งนี้ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกประกอบกับปัญหาด้าน supply disruption ที่จะมีเพิ่มขึ้น จากการหยุดชะงักด้านการผลิตของหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงการลดลงอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมันในตลาดโลก จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย โดย EIC ได้ปรับลดประมาณการมูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ เป็นหดตัวที่ -12.9% จากเดิมที่คาดไว้ที่ -5.8%

คาดนักท่องเที่ยวลดฮวบ -67% ฟื้นตัวช้า 

ด้านสถานการณ์ท่องเที่ยว EIC ได้ปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2020 ลดลงเหลือเพียง 13.1 ล้านคน (เดิมคาด 27.7 ล้านคน) หรือหดตัว -67% จากปีก่อน โดยเป็นผลจากมาตรการปิดประเทศของประเทศต่าง ๆ เพื่อควบคุมการระบาดของ โควิด-19 ประกอบกับความกังวลของนักท่องเที่ยวต่อการเดินทางระหว่างประเทศทำให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่าน 5 สนามบินหลัก (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่) ในช่วงวันที่ 1-28 มีนาคม หดตัวที่ -78%YOY และในช่วง 1-2 วันล่าสุดหดตัวเกือบ 100%YOY

เมื่อมองไปข้างหน้าในช่วงที่เหลือของปี EIC ประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะหดตัวรุนแรงที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 2 เนื่องจากเป็นช่วงที่ประเทศส่วนใหญ่จะมีมาตรการปิดประเทศอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรค และแม้หลังจากนั้น มาตรการอาจเริ่มถูกผ่อนคลายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ความกังวลของนักท่องเที่ยวต่อการเดินทางระหว่างประเทศตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนหรือการรักษาโรคที่ได้ผล

ประกอบกับรายได้ของนักท่องเที่ยวที่จะลดลงตามภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก จะทำให้การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นไปอย่างช้า ๆ โดยคาดว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวในเดือนธันวาคมจะกลับมาได้เพียงประมาณ 50% ของเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ปิดเมืองกระทบการบริโภค 

การประกาศปิดเมือง (lockdown) ในหลายเมืองสำคัญของไทย ประกอบกับความตื่นกลัวด้านการระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการบริโภคสินค้าและบริการในภาพรวม มาตรการปิดเมืองเป็นมาตรการ social distancing ที่จำเป็นที่ประเทศส่วนใหญ่นำมาใช้เพื่อ flattening the curve ของการระบาด ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียของชีวิตผู้คนและการสูญเสียทางเศรษฐกิจในภาพรวม แต่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดย EIC ประเมินจากหลายงานศึกษาในต่างประเทศ พบว่า ในช่วงการ lockdown ระหว่างการเกิดโรคระบาด สินค้าที่จะมียอดขายเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าหมวดอาหาร สินค้าหมวดการทำความสะอาด ยา และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ รวมถึงการใช้บริการอินเทอร์เน็ตตามการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ การทำงานที่บ้าน และกิจกรรมสันทนาการออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น เช่น ดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมส์ เป็นต้น

ขณะที่สินค้าและบริการที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบทางลบค่อนข้างมาก คือ การเดินทาง ท่องเที่ยว งานนิทรรศการ โรงแรมและร้านอาหาร การคมนาคมขนส่ง กิจกรรมสันทนาการ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องแต่งกาย โดยแม้จะมีบางสินค้าที่ได้รับประโยชน์ แต่ในภาพรวม การบริโภคมีแนวโน้มลดลงมากกว่า

ทั้งนี้ หากช่วงเวลาที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามความกังวลต่อธุรกรรมในลักษณะ face-to-face และจากมาตรการปิดเมือง มีระยะเวลา 1 เดือน การบริโภคภาคเอกชนจะลดลงและทำให้ GDP ไทยปี 2020 หายไปประมาณ -0.6 percentage point

“เชื่อว่าในระยะต่อไป ภาครัฐจะเร่งดำเนินการออกมาตรการการคลังเพื่อชดเชยรายได้ให้กับแรงงานและผู้ประกอบการที่ตกงานหรือสูญเสียรายได้จากโควิด-19 ทั้งในส่วนการโอนเงินให้กับผู้ถูกกระทบจำนวน 3 ล้านคนที่ประกาศไปแล้ว และการเพิ่มวงเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกกระทบได้มากขึ้น ผ่านการออก พ.ร.ก. กู้เงินฉุกเฉิน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการอัดฉีดเงินให้ถึงมือของผู้เดือดร้อนได้ตรงจุดและประคับประคองเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วขึ้น”

ทั้งนี้ EIC ได้ใส่สมมติฐานวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านการออก พ.ร.ก. กู้เงินฉุกเฉินจำนวน 200,000 ล้านบาทในการประมาณการเศรษฐกิจรอบนี้แล้วด้วย

 

]]>
1271508
อิตาลีสั่ง “ปิดประเทศ” ให้ประชาชนอยู่ในบ้าน-ห้ามชุมนุม หลังยอดติดเชื้อ COVID-19 พุ่ง https://positioningmag.com/1267707 Tue, 10 Mar 2020 13:34:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1267707 รัฐบาลอิตาลี ยกระดับมาตรการปิดเมืองเป็น “ปิดทั่วประเทศ” เพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) หลังยอดผู้เสียชีวิตเเละติดเชื้อพุ่งขึ้นสูงมาก เเละกลายเป็นประเทศที่มีการระบาดหนักที่สุดรองจากจีน

สำหรับการประกาศปิดประเทศชั่วคราวครั้งนี้ จะมีมาตรการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวดทั่วทุกพื้นที่ครอบคลุมประชากรกว่า 60 ล้านคน เป็นการขยายพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิมที่มีมาตรการคุมเข้มเฉพาะพื้นที่การเเพร่ระบาดทางภาคเหนือเท่านั้น

นายกรัฐมนตรี Giuseppe Conte กล่าวว่า ประชาชนทั่วประเทศราว 60 ล้านชีวิตไม่ควรเดินทางออกนอกบ้าน เว้นแต่มีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องเดินทางไปทำงานหรือมีปัญหาด้านสุขภาพเเละเหตุฉุกเฉินเท่านั้น นอกจากนี้ยังสั่งห้ามการจัดเเข่งขันกีฬาเเละกิจกรรมการชุมนุมสาธารณะต่าง ๆ โดยมาตรการนี้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. 2020 ไปจนถึง 3 เม.ย. 2020

“อนาคตของอิตาลีอยู่ในมือเรา ซึ่งพวกเราจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นกว่าเดิม”

ด้านโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ต้องยุติการเรียนการสอนไปจนถึง 3 เม.ย เช่นกัน รวมถึงร้านอาหารเเละสถานบันเทิงต่าง ๆ ทั่วประเทศยังถูกสั่งให้ปิดร้านก่อนเวลา 6 โมงเย็น ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดในอิตาลีกำลังอยู่ในขั้นวิกฤตทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้ว 9,172 คน และมีผู้เสียชีวิต 463 คน ถือเป็นการระบาดที่รุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน

รายงานระบุว่า หลังมีคำสั่งจากรัฐบาลในการปิดประเทศชั่วคราว ผู้คนในอิตาลีได้แห่กักตุนอาหารและสินค้าจำเป็นตามซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้มีคนต่อแถวซื้อของจำนวนมาก ขณะที่โรงพยาบาลหลายเเห่งต้องเรียกตัวแพทย์ที่เกษียณไปแล้วกลับมาช่วยงานด้วย

 

ที่มา : CNBC 

]]>
1267707
ตามติดภารกิจอาสา “ช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยง” นับหมื่นตัวที่กำลังอดตาย หลังปิดเมืองอู่ฮั่น https://positioningmag.com/1263674 Fri, 07 Feb 2020 17:45:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1263674 สัตว์เลี้ยงนับหมื่นตัวในเมืองอู่ฮั่นกำลังตกอยู่ในภาวะอดอยาก เมื่อเจ้าของไม่สามารถกลับบ้านมาเลี้ยงดูได้ หลังการ “ปิดเมือง” เพื่อสกัดกั้นการเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน

สัตวเเพทย์ ผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่ง ผู้เป็นสมาชิกในกลุ่มอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ที่มีชื่อว่า Wuhan Pet Life Online ซึ่งตอนนี้สามารถช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงได้เเล้วกว่า 2,000 ตัวรอบเมืองอูฮั่น นับตั้งเเต่วันที่ 23 มกราคม เป็นต้นมา เขาเล่าว่า

“ตอนนี้มีประมาณ 10 กลุ่มที่อาสาทำงานเหมือนพวกเรา โดยจะเข้าไปช่วยชีวิตเหล่าสัตว์เลี้ยงก่อนที่มันจะขาดอาหารเเละตายเพราะความกระหาย เพราะต้องอยู่ในบ้านที่ไม่มีทั้งอาหารเเละน้ำ เนื่องจากเจ้าของไม่สามารถกลับบ้านได้”

Photo : Wuhan Pet Life Online, SCMP

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น บอกว่าประชาชนกว่า 5 ล้านคน เดินทางออกจากเมืองก่อนที่จะมีคำสั่งระงับการเดินทางเพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสดังกล่าว

ขณะที่ “กลุ่มแมวพื้นบ้านของอู่ฮั่น” (Wuhan Indigenous Cats) ซึ่งเป็นกลุ่มเเรกที่อาสาให้ความช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงหลังคำสั่งปิดเมือง เริ่มต้นโดยการสื่อสารด้วย QQ แพลตฟอร์มออนไลน์ของ Tencent ตอนนี้มีสมาชิกเเล้วกว่า 5,000 คน

Ewan ผู้นำของกลุ่มนี้ เปิดเผยว่า ได้ช่วยเหลือไปแล้วราว 500 ครัวเรือน และยังมีอีกมากกว่า 400 ครัวเรือนที่ต้องดำเนินการ โดยเหล่าอาสาสมัครขจะนำแมวไปยังพื้นที่ต่างๆ ตามความต้องการของเจ้าของ ซึ่งบางตัวก็ถูกนำไปยังบ้านเพื่อนของเจ้าของหรือคลินิกสัตว์เลี้ยง

Photo : Wuhan Pet Life Online, SCMP

ด้านสมาคมคุ้มครองสัตว์เล็กอู่ฮั่น เริ่มเรียกร้องให้ทางการจีนเข้าช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น

“อาสาสมัครของเราราว 60 คนได้ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงจากบ้านเรือนต่างๆ กว่า 500 หลังแล้ว และยังมีบ้านอีกกว่า 700 หลังที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการให้การช่วยเหลือ ซึ่งทางกลุ่มได้พิจารณาลำดับการช่วยเหลือตามความเร่งด่วน เเละหลายครั้งก็พบว่าสายเกินไป เพราะสัตว์เลี้ยงได้ตายไปเเล้วก่อนที่เราจะเข้าไปช่วยเหลือ” Du Fan ประธานสมาคมระบุ

จากประชากรอู่ฮั่นทั้งหมด 11 ล้านคน ในจำนวนนี้ราว 3-6 แสนคนมีสัตว์เลี้ยง โดยคาดว่าตอนนี้ยังมีสัตว์เลี้ยงที่ติดอยู่ในเมืองอู่ฮั่นหลายหมื่นตัว

โดยคนที่ขอความช่วยเหลือมายังสมาคม ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เข้ามาทำงานในเมืองอู่ฮั่นเเละเมืองใกล้เคียง ซึ่งพวกเขาได้เดินทางไปยังพื้นที่อื่นก่อนจะมีคำสั่งปิดเมือง ไม่มีญาติหรือเพื่อนในอู่ฮั่นเพื่อช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้

“สัตว์เลี้ยงจำนวนมากเริ่มอดตายจากการขาดอาหารและน้ำ อีกทั้งซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยยังนำไปสู่ปัญหาสุขอนามัยที่น่ากังวลด้วย”

Photo : Wuhan Pet Life Online, SCMP

กลุ่มอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ Wuhan Pet Life Online ยังได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง

“เจ้าของบางคนก็ให้รหัสประตูเข้าบ้านกับเรามาเลย บางคนก็อนุญาตให้นำช่างกุญเเจมาเปิดประตูได้ เเละในกรณีฉุกเฉิน เราอาจต้องเข้าไปในบ้านโดยทำลายประตูหรือปีนเข้าไปในหน้าต่างที่เปิดอยู่ โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่มีอุบัติเหตุระหว่างการพยายามช่วยชีวิต” สัตวแพทย์ของกลุ่มกล่าว

“สัตว์เลี้ยงบางตัวที่เราพบนั้นอ่อนแอมาก เนื่องจากถูกขังอยู่ในบ้านโดยไม่มีอาหารหรือน้ำเป็นเวลานาน บางตัวแสดงอาการบาดเจ็บทางจิตใจ ตื่นกลัวผู้คนเมื่อเราเข้าไปในบ้านเพื่อช่วยเหลือ ผมคิดว่ายังมีสัตว์เลี้ยงที่ติดอยู่ในอู่ฮั่นเป็นอีกเป็นหมื่นๆ ตัว”

โดยเหล่าสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการช่วยเหลือ จะถูกนำไปดูเเลที่้บ้านของอาสาสมัครหรือบางตัวก็ยังให้อยู่ที่บ้านเดิมได้ ซึ่งจะมีอาสาสมัครนำส่งอาหารเเละน้ำให้เป็นประจำ ซึ่งสัตวแพทย์ของกลุ่มบอกว่า ที่บ้านของเขาตอนนี้มีสัตว์เลี้ยงอยู่ถึง 100 ตัวเเล้ว

อย่างไรก็ตาม เขตที่อยู่อาศัยจำนวนมากห้ามไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน ก็ทำให้การช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงของกลุ่มอาสาสมัครทำได้ยากขึ้นไปด้วย ทางกลุ่มจึงเรียกร้องให้รัฐเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

 

ที่มา :
Coronavirus: race to save Wuhan’s starving pets as owners unable to return to homes

]]>
1263674