วอลมาร์ท – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 14 Feb 2024 05:37:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Walmart กำลังเจรจาซื้อกิจการ Vizio ผู้ผลิตสมาร์ททีวีในสหรัฐอเมริกา สื่อนอกชี้เป็นอีกช่องทางในการหารายได้จากธุรกิจโฆษณา https://positioningmag.com/1462617 Wed, 14 Feb 2024 05:01:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1462617 วอลมาร์ท (Walmart) กำลังเจรจาซื้อกิจการ Vizio ผู้ผลิตสมาร์ททีวีในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยไม่น้อยกว่า 72,000 ล้านบาท ซึ่งยักษ์ใหญ่ค้าปลีกจะได้ทั้งการขายสมาร์ททีวี และรายได้จากค่าโฆษณา รวมถึงยังเป็นช่องทางโฆษณาให้กับลูกค้าด้วย

Wall Street Journal รายงานข่าว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Walmart ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาซื้อกิจการ Vizio ผู้ผลิตสมาร์ททีวีในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 72,000 ล้านบาท

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ Walmart ต้องซื้อกิจการของ Vizio เนื่องจากต้องการขยายตลาดในการขายสมาร์ททีวีราคาถูกให้ลูกค้า เนื่องจากคู่แข่งอย่าง Amazon หรือแม้แต่ Roku ได้ลงมาขายสมาร์ททีวีในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแรงกดดันให้กับค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องลงมาเล่นเกมดังกล่าวด้วย

ขณะเดียวกัน Vizio เองมีข้อมูลลูกค้าจำนวนมากถึง 18 ล้านราย ทำให้ Walmart สามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากกว่าเดิม และยังรวมถึงรายได้จากโฆษณาที่ได้จากการเผยแพร่บนสมาร์ททีวี

ในปีที่ผ่านมา Insider Intelligence คาดว่ารายได้จากธุรกิจโฆษณาของ Walmart จะมีมากถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่บริษัทได้ตั้งธุรกิจด้านโฆษณาขึ้นมาในปี 2021 เพื่อที่จะดำเนินธุรกิจดังกล่าวภายใต้ชื่อ Walmart Connect

ปัจจุบัน Walmart Connect มีลูกค้าที่เป็นบริษัทขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ บางรายได้ใช้ช่องทางดังกล่าวแทนที่จะลงโฆษณากับบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Apple หรือแม้แต่ Google

อย่างไรก็ดี ดีลดังกล่าว Wall Street Journal ได้รายงานว่ากำลังอยู่ในช่วงการเจรจาเท่านั้น และอาจมีสิทธิ์ที่ดีลดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้

ที่มา – Reuters, The Verge

]]>
1462617
Walmart เตรียมนำระบบ AI แนะนำลูกค้าเวลาซื้อของผ่านแอป ไปจนถึงช่วยจัดทำเอกสารของพนักงานแต่ละสาขา https://positioningmag.com/1458675 Fri, 12 Jan 2024 11:11:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1458675 แม้แต่แบรนด์ค้าปลีกเองก็ยังนำ AI มาใช้ ล่าสุด วอลมาร์ท (Walmart) ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของสหรัฐอเมริกา ก็เป็นอีกบริษัทที่ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งาน เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ทั้งลูกค้า หรือแม้แต่พนักงานของบริษัท

Walmart ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศในงาน CES 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงศักยภาพเทคโนโลยีของหลายธุรกิจ ซึ่งบริษัทได้นำเสนอถึงการนำระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้งานเพื่อช่วยให้ลูกค้าจับจ่ายใช้สอยได้อย่างเพลิดเพลิน ขณะเดียวกันก็ช่วยทำให้พนักงานทำงานเอกสารสะดวกมากขึ้น

Doug McMillon ซึ่งเป็น CEO ของ Walmart ได้กล่าวถึงการนำระบบ AI เข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลูกค้าในการหาสินค้าเวลาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การพิมพ์ประโยค “ต้องการที่จัดปาร์ตี้ยูนิคอร์นภายในบ้านให้กับลูกสาว ให้ช่วยเลือกสินค้าหน่อย” โดยระบบจะแนะนำสินค้าขึ้นมาให้

หรือแม้แต่ระบบ AI ที่นำมาเรียนรู้พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าแต่ละราย ไปจนถึงการนำระบบ AI มาจำลองเสื้อผ้าเสมือนจริง ถ้าหากลูกค้าสนใจที่จะซื้อเสื้อผ้า

ภาพจาก Walmart

ในขณะเดียวกัน Walmart เองได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาช่วยยืนยันว่าลูกค้านั้นจ่ายเงินซื้อสินค้านั้นจริงๆ โดยใช้กล้องถ่ายรถเข็นสินค้า หลังการสแกนใบเสร็จกับระบบ ทดแทนการใช้พนักงานดูใบเสร็จกับสินค้า นอกจากนี้ระบบ AI ที่ Walmart ได้นำมาใช้กับพนักงานของบริษัท เช่น การสรุปรายงาน การจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสินค้า หรือแม้แต่การช่วยคิดไอเดียทำคอนเทนต์เพื่อขายสินค้า

สำหรับระบบ AI ที่นำมาช่วยเวลาค้นหาสินค้า หรือบริการอื่นๆ ทาง Walmart ได้ใช้ระบบ AI จาก Microsoft 

Suresh Kumar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของ Walmart ได้กล่าวว่าในขณะที่การค้าปลีกแบบ Omnichannel นั้นถือว่ามีมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่การค้าปลีกรูปแบบใหม่นี้ได้ถือว่าปรับเปลี่ยนโดยได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง (จากการใช้ AI)

ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของสหรัฐฯ​ ถือเป็นอีกบริษัทที่ได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการซื้อสินค้า ขณะเดียวกันพนักงานของบริษัทก็ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการทำงานเช่นกัน ซึ่งมุมมอง Walmart เองนั้นเริ่มไม่ได้มองถึงการตัดขาดระหว่าง E-Commerce กับการซื้อสินค้าในร้านออกจากกันแต่อย่างใด แต่ทั้ง 2 คือเรื่องเดียวกัน

ที่มา – Engadget, NPR, TechCrunch

]]>
1458675
ไปไกลกว่าค้าปลีก ‘Walmart’ ลุยปั้นสตาร์ทอัพ ‘ฟินเทค’ ให้บริการทางการเงินกับผู้บริโภค https://positioningmag.com/1313802 Tue, 12 Jan 2021 06:55:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313802 ในยุคที่เศรษฐกิจไม่เเน่นอนเเละพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเเปลงตลอดเวลาการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพออีกต่อไป 

Walmart ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่เเห่งอเมริกา ที่มีสาขามากกว่า 4,700 เเห่ง เป็นอีกเจ้าที่มีการขยายการลงทุนธุรกิจไปในน่านน้ำอื่น ทั้งเเบรนด์เเฟชั่น คลินิกสุขภาพต้นทุนต่ำและธุรกิจประกันภัย 

ล่าสุด Walmart จับมือกับ Ribbit Capital บริษัทลงทุนที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นชื่อดังอย่าง Robinhood เตรียมปลุกปั้นสตาร์ทอัพฟินเทค’ (FinTech) บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินของตัวเองขึ้นมา

โดยจะเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ด้านการค้าปลีกของ Walmart เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านฟินเทคของ Ribbit Capital เพื่อส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับลูกค้าและพนักงานของ Walmart

อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ยังไม่ได้เปิดเผยว่าบริษัทใหม่เเห่งนี้จะมีชื่อว่าอะไรหรือจะให้บริการเมื่อใด โดยบอกแต่เพียงว่า “จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นเอกลักษณ์และราคาไม่แพง”

หลังประกาศข่าวนี้ ราคาหุ้นของ Walmart เพิ่มขึ้น 1.5% ทำให้มูลค่าบริษัทของ Walmart ขยับมาอยู่ที่ 416,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

John Furner ซีอีโอของ Walmart ระบุว่า หลายปีที่ผ่านมาลูกค้าหลายล้านคนได้ให้ความไว้วางใจใน Walmart ที่ไม่เพียงจะช่วยประหยัดเงินเมื่อซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยจัดการความต้องการทางการเงินของพวกเขาด้วย

(Photo by Al Bello/Getty Images)

Walmart หันมาสนใจธุรกิจให้บริการทางการเงิน โดยการเริ่มทดลองตลาดด้วยการออก Walmart MoneyCard บัตรเดบิตแบบเติมเงินเพื่อซื้อสินค้าภายในร้าน ชูจุดเด่นหลักๆ อย่างการไม่มีค่าธรรมเนียมเบิกเกินบัญชีหรือรายเดือน และไม่มีข้อกำหนดยอดเงินขั้นต่ำ

นอกจากนี้ ยังมีการเสนอแผนชำระเงินทางเลือกเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโถคที่มีงบจำกัด เช่น Layaway และ Affirm ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคที่อนุญาตให้ลูกค้าซื้อสินค้าออนไลน์ เเละสามารถผ่อนชำระทีหลังได้ 

Bloomberg มองว่า เป้าหมายในธุรกิจฟินเทคของ Walmart คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเช่นเดียวกับที่ Alibaba อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในเอเชีย เป็นทั้งผู้ค้าปลีกออนไลน์และผู้ให้บริการทางการเงินในแพลตฟอร์มเดียวกัน

การขยายไปรุกตลาดฟินเทคอย่างจริงจังของ Walmart ครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในสงครามค้าปลีกยุคใหม่ที่จะเอามาต่อกรกับ Amazon ค้าปลีกออนไลน์ที่เฟื่องฟูขึ้นอย่างมากในวิกฤต COVID-19

 

 

ที่มา : Bloomberg , CNBC , Businesswire

]]>
1313802
Walmart เลิกใช้ “หุ่นยนต์” เช็กสต๊อกสินค้าบนชั้นวาง กลับมาพึ่งพา “แรงงานมนุษย์” https://positioningmag.com/1304267 Tue, 03 Nov 2020 10:38:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1304267 ขณะที่หลายอุตสาหกรรมกำลังนำหุ่นยนต์เข้ามาช่วยงานในธุรกิจมากขึ้น เเต่ Walmart ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของโลก กลับตัดใจสินใจเลิกใช้หุ่นยนต์เช็กสต๊อกสินค้าหลังทดลองใช้มา 3 ปี เเละหันมาพึ่งพาแรงงานคนแทน

The Wall Street Journal รายงานว่า Walmart ห้างสรรพสินค้าของสหรัฐฯ ประกาศยุติสัญญาธุรกิจกับ Bossa Nova Robotics บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์ตรวจสอบสินค้าบนชั้นวาง หลังทดลองใช้งานในหลายสาขา มาตั้งเเต่ปี 2017 ตามเเผนขององค์กรที่ต้องการย้ายการทำงานไปสู่ระบบอัตโนมัติมากขึ้น

โฆษกของทาง Walmart ระบุว่า จนถึงวันสิ้นสุดสัญญา มีหุ่นยนต์ตรวจสอบสินค้าบนชั้นวางในคลังราว 500 ตัว อยู่ตามห้างของ Walmart กว่า 4,700 สาขา โดยทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น ตรวจสอบสต๊อกสินค้า เช็กราคาที่ถูกต้อง เเละให้บริการอื่นๆ เพื่อช่วยลูกค้าหาของบนชั้นวางได้เร็วขึ้น

การตัดสินใจยุติสัญญาการใช้หุ่นยนต์เช็กสต๊อกครั้งนี้ มีขึ้นหลัง Walmart เห็นว่า พนักงานที่เป็นมนุษย์สามารถทำงานนี้ได้ดีและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีต้นทุนที่ถูกกว่าหุ่นยนต์ (ณ ขณะนี้) เเละบางครั้งการที่มีหุ่นยนต์คอยตรวจสอบสินค้า อาจสร้างปฏิกิริยาทางลบต่อลูกค้าที่กำลังเลือกซื้อสินค้าได้

อย่างไรก็ตาม แม้ Walmart จะหันมาเลือกใช้แรงงานคนในการตรวจสอบสต๊อกสินค้า เเต่ก็ยังจะมีพัฒนาการใช้ระบบอัตโนมัติในด้านอื่นๆ ต่อไป

เราพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ตลอดเวลา เเละตอนนี้เราก็ยังใช้หุ่นยนต์ถูพื้นอัตโนมัติอยู่

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Walmart เพิ่งปรับเปลี่ยนห้างในเครือ 4 แห่ง ให้เป็นโมเดลทดลองการค้าปลีกเเบบ
อีคอมเมิร์ซ ทดสอบการใช้เครื่องมือดิจิทัลและกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการสต๊อกสินค้า และรับคำสั่งซื้อออนไลน์

ในไตรมาสที่เเล้ว Walmart ทำรายได้ถึง 1.37 แสนล้านเหรียญสหรัฐ มีการเติบโตในส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซถึง 97% จากอานิสงส์คนอยู่บ้านช่วงวิกฤต COVID-19 ทำให้บริษัทต้องหันมาให้ความสำคัญกับการค้าปลีกเเบบ
เดลิเวอรี่อย่างจริงจัง

(Photo by Al Bello/Getty Images)

การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของ Walmart จากการเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ในธุรกิจห้างสรรพสินค้า คือการเพิ่มสต๊อกสินค้าให้ทันเวลาเเละทันความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในส่วนออฟไลฟ์เเละออนไลน์ที่กำลังเฟื่องฟู

Doug McMillon ซีอีโอของ Walmart ให้สัมภาษณ์กับทางรายการ Squawk Box ของ CNBC ว่า ปัญหาสินค้าหมดสต๊อกยังคงเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับ Walmart ซึ่งจะมีการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะที่คู่เเข่งในวงการค้าปลีกที่มีหารเเข่งขันกันอย่างดุเดือด กำลังลงทุนในเทคโนโลยีหุ่นยนต์กันอย่างต่อเนื่อง เช่น ห้างดังอย่าง Target ที่เริ่มใช้หุ่นยนต์มาบริหารสินค้าเเละให้บริการลูกค้า รวมถึง Amazon ที่ซื้อกิจการหุ่นยนต์เพื่อนำมาใช้ในการต่อยอดธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานหุ่นยนต์ถึง 2 แสนตัวในการบริหารคลังสินค้า

ด้านรายงาน World Economic Forum ฉบับล่าสุด เปิดเผยว่า การมาของ COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้มีการเปลี่ยนเเปลงทางเทคโนโลยีในสถานที่ทำงาน โดยตำเเหน่งงานของมนุษย์กว่า 85 ล้านตำแหน่งจะถูกทดเเทนด้วย “ระบบอัตโนมัติ” ภายใน 5 ปีข้างหน้า

“กว่า 2 ใน 5 ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ถูกสำรวจ มีแผนจะลดพนักงานลง เนื่องจากการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน”

 

ที่มา : CNBC , BBC 

]]>
1304267
ตระกูล “เจียรวนนท์” ครองอันดับ 21 มหาเศรษฐีโลก ปี 2020 ทรัพย์สิน 9.8 แสนล้าน https://positioningmag.com/1290703 Mon, 03 Aug 2020 07:09:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1290703 บลูมเบิร์ก จัดอันดับมหาเศรีษฐีโลกปี 2020 อันดับ 1 เป็นของตระกูล “วอร์ตัน” เจ้าของกิจการวอลมาร์ท (Walmart) ส่วนตระกูล “เจียรวนนท์” ครองอันดับที่ 21 ทรัพย์สินรวม 982,400 ล้านบาท

ปี 2020 ถือเป็นปีที่มีความท้าทายในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในสถาการณ์การแพร่ระบาดของโรคไว้รัส COVID-19 ที่กระทบต่อหลายธุรกิจทั่วโลก อย่างไรก็ดี หลายตระกูลมหาเศรษฐีทั่วโลก ต้องมีการปรับตัวกับสถานการณ์ที่กระทบการลงทุนใหม่ กระทบต่อธุรกิจในปัจจุบัน และที่สำคัญกระทบต่อพนักงานในองค์กร

การจัดอันดับมหาเศรษฐีโลก เดือนสิงหาคม ปี 2563 โดยบลูมเบิร์ก ระบุว่าในปีนี้ “วอร์ตัน” เจ้าของกิจการวอลมาร์ท (Walmart) ยังครองแชมป์มหาเศรษฐีโลกมีทรัพย์สิน 215 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.8 ล้านล้านบาท ซึ่งถือได้ว่า เป็นตระกูลที่บริหารธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุด มีสาขากว่า 11,000 สาขาทั่วโลก

สำหรับในประเทศไทยก็มีติดโผในอันดับที่ 21 เป็นของตระกูล “เจียรวนนท์” มีทรัพย์สินมูลค่ารวม 30.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 982,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นในประเทศไทย และได้ขยายการลงทุนไปกว่า 22 ประเทศทั่วโลก

โดยล่าสุด ได้ขยายธุรกิจฟาร์มกุ้งไปในประเทศสหรัฐอเมริกา และมีธุรกิจด้านอาหารทั้งในอเมริกาและยุโรป ทำให้รักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เครือซีพี ได้มีธุรกิจที่หลากหลาย อาทิ เกษตร อาหาร ค้าปลีก สื่อสาร และธุรกิจอื่นๆ ในหลายประเทศ โดยมีการนำธงชาติไทยไปติดในทุกสำนักงานที่ไปลงทุน

]]>
1290703