ขณะที่หลายอุตสาหกรรมกำลังนำ “หุ่นยนต์” เข้ามาช่วยงานในธุรกิจมากขึ้น เเต่ Walmart ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของโลก กลับตัดใจสินใจเลิกใช้ “หุ่นยนต์เช็กสต๊อกสินค้า” หลังทดลองใช้มา 3 ปี เเละหันมาพึ่งพา “แรงงานคน” แทน
The Wall Street Journal รายงานว่า Walmart ห้างสรรพสินค้าของสหรัฐฯ ประกาศยุติสัญญาธุรกิจกับ Bossa Nova Robotics บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์ตรวจสอบสินค้าบนชั้นวาง หลังทดลองใช้งานในหลายสาขา มาตั้งเเต่ปี 2017 ตามเเผนขององค์กรที่ต้องการย้ายการทำงานไปสู่ระบบอัตโนมัติมากขึ้น
โฆษกของทาง Walmart ระบุว่า จนถึงวันสิ้นสุดสัญญา มีหุ่นยนต์ตรวจสอบสินค้าบนชั้นวางในคลังราว 500 ตัว อยู่ตามห้างของ Walmart กว่า 4,700 สาขา โดยทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น ตรวจสอบสต๊อกสินค้า เช็กราคาที่ถูกต้อง เเละให้บริการอื่นๆ เพื่อช่วยลูกค้าหาของบนชั้นวางได้เร็วขึ้น
การตัดสินใจยุติสัญญาการใช้หุ่นยนต์เช็กสต๊อกครั้งนี้ มีขึ้นหลัง Walmart เห็นว่า พนักงานที่เป็นมนุษย์สามารถทำงานนี้ได้ดีและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีต้นทุนที่ถูกกว่าหุ่นยนต์ (ณ ขณะนี้) เเละบางครั้งการที่มีหุ่นยนต์คอยตรวจสอบสินค้า อาจสร้างปฏิกิริยาทางลบต่อลูกค้าที่กำลังเลือกซื้อสินค้าได้
อย่างไรก็ตาม แม้ Walmart จะหันมาเลือกใช้แรงงานคนในการตรวจสอบสต๊อกสินค้า เเต่ก็ยังจะมีพัฒนาการใช้ระบบอัตโนมัติในด้านอื่นๆ ต่อไป
“เราพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ตลอดเวลา เเละตอนนี้เราก็ยังใช้หุ่นยนต์ถูพื้นอัตโนมัติอยู่”
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Walmart เพิ่งปรับเปลี่ยนห้างในเครือ 4 แห่ง ให้เป็นโมเดลทดลองการค้าปลีกเเบบ
อีคอมเมิร์ซ ทดสอบการใช้เครื่องมือดิจิทัลและกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการสต๊อกสินค้า และรับคำสั่งซื้อออนไลน์
ในไตรมาสที่เเล้ว Walmart ทำรายได้ถึง 1.37 แสนล้านเหรียญสหรัฐ มีการเติบโตในส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซถึง 97% จากอานิสงส์คนอยู่บ้านช่วงวิกฤต COVID-19 ทำให้บริษัทต้องหันมาให้ความสำคัญกับการค้าปลีกเเบบ
เดลิเวอรี่อย่างจริงจัง
การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของ Walmart จากการเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ในธุรกิจห้างสรรพสินค้า คือการเพิ่มสต๊อกสินค้าให้ทันเวลาเเละทันความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในส่วนออฟไลฟ์เเละออนไลน์ที่กำลังเฟื่องฟู
Doug McMillon ซีอีโอของ Walmart ให้สัมภาษณ์กับทางรายการ Squawk Box ของ CNBC ว่า ปัญหาสินค้าหมดสต๊อกยังคงเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับ Walmart ซึ่งจะมีการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ซูเปอร์ฯ ลอยฟ้า! Walmart ทดลองใช้ “โดรน” ส่งสินค้าจากห้างฯ ตรงถึงหน้าบ้าน
- ‘Walmart’ ซุ่มเปิดตัว ‘ธุรกิจประกัน’ เดินหน้าลุยตลาดสุขภาพเต็มตัว
ขณะที่คู่เเข่งในวงการค้าปลีกที่มีหารเเข่งขันกันอย่างดุเดือด กำลังลงทุนในเทคโนโลยีหุ่นยนต์กันอย่างต่อเนื่อง เช่น ห้างดังอย่าง Target ที่เริ่มใช้หุ่นยนต์มาบริหารสินค้าเเละให้บริการลูกค้า รวมถึง Amazon ที่ซื้อกิจการหุ่นยนต์เพื่อนำมาใช้ในการต่อยอดธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานหุ่นยนต์ถึง 2 แสนตัวในการบริหารคลังสินค้า
ด้านรายงาน World Economic Forum ฉบับล่าสุด เปิดเผยว่า การมาของ COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้มีการเปลี่ยนเเปลงทางเทคโนโลยีในสถานที่ทำงาน โดยตำเเหน่งงานของมนุษย์กว่า 85 ล้านตำแหน่งจะถูกทดเเทนด้วย “ระบบอัตโนมัติ” ภายใน 5 ปีข้างหน้า
“กว่า 2 ใน 5 ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ถูกสำรวจ มีแผนจะลดพนักงานลง เนื่องจากการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน”