สินเชื่อรถยนต์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 23 Aug 2024 07:44:44 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “กรุงศรี ออโต้” ลดเป้าสินเชื่อคงค้างเหลือ 4 แสนล้าน แอปฯ “GO” ควง “ททท.” ดันคนไทยขับรถเที่ยว https://positioningmag.com/1487185 Thu, 22 Aug 2024 16:23:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1487185
  • “กรุงศรี ออโต้” ปรับลดเป้าสินเชื่อคงค้างปี’67 ลงจากเดิม 4.66 แสนล้านบาท อาจเหลือเพียง 4 แสนล้านบาท หลังจากยอดขายรถยนต์ครึ่งปีแรกหดตัว -20%
  • ด้านธุรกิจใหม่ (New Business) แอปพลิเคชัน “GO by Krungsri Auto” จับมือกับ “ททท.” ผลักดันฟีเจอร์ “GO Travel” กระตุ้นคนไทยใช้รถขับท่องเที่ยวทางถนน
  • “คงสิน คงคา” ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางธนาคารเตรียมพิจารณาปรับลดเป้าหมายสินเชื่อยานยนต์ในปี 2567 เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกยอดขายตลาดรถยนต์ทั้งตลาดหดตัวถึง -20% และเศรษฐกิจไม่ดีเท่าที่ควร

    โดยสินเชื่อปล่อยใหม่ที่เคยวางเป้าไว้ 219,636 ล้านบาท คาดว่าจะมีการปรับลดลง และจะทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างลดลงเช่นกัน จากเดิมตั้งเป้าไว้ 466,577 ล้านบาท คาดการณ์ใหม่น่าจะลดลงเหลือเพียง 4 แสนล้านบาท

    “คงสิน คงคา” ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ “สมฤดี จิตรจง” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

    อย่างไรก็ตาม คงสินกล่าวว่ายังมีความหวังว่าช่วงที่เหลือของปีอาจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากทางธนาคารร่วมกับสถาบันการเงินอื่นๆ มีการพูดคุยหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่องการปรับผ่อนปรนหลักเกณฑ์มาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ซึ่งหวังว่าจะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้

    ทั้งนี้ ในด้านหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาคาดว่าจะสามารถรักษาระดับให้อยู่ที่ 2.5% ได้

     

    แอปฯ “GO” จับมือ “ททท.” กระตุ้นคนไทยขับรถเที่ยว

    ด้านกลุ่มธุรกิจใหม่ของกรุงศรี ออโต้ คงสินกล่าวว่ามีการอัปเดตฟีเจอร์ในแอปพลิเคชัน “GO by Krungsri Auto” ในชื่อฟีเจอร์ “GO Travel”

    ฟีเจอร์นี้มีการพัฒนาร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มุ่งหมายเพื่อเป็น “บัดดี้ท่องเที่ยว” ให้กับผู้ใช้แอปฯ โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

    กรุงศรี ออโต้
    ตัวอย่างประสบการณ์การใช้งาน GO Travel

    ไฮไลต์อยู่ที่มีการแนะนำเส้นทางสำเร็จรูป 10 เส้นทางที่สามารถขับรถไปเที่ยวได้ง่ายๆ เช้าไปเย็นกลับ, 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน โดยเส้นทางทั้งหมดมีการปักหมุดเชื่อมต่อกับ Google Maps สามารถใช้ระบบ Google CarPlay หรือ Apple CarPlay นำทางได้เลย

    รวมถึงมีการเชื่อมระบบจองที่พักกับ Trip.com และให้แลกสิทธิพิเศษต่างๆ เมื่อไปใช้จ่ายที่ธุรกิจพันธมิตรตามที่แนะนำบนแอปฯ GO by Krungsri Auto ซึ่งขณะนี้มีพันธมิตรแล้วกว่า 100 รายในธุรกิจต่างๆ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม จุดชาร์จอีวี ฯลฯ

    คงสินกล่าวว่า ปัจจุบันแอปฯ GO by Krungsri Auto มีผู้ใช้งานอยู่กว่า 3.5 ล้านราย และตั้งแต่เปิดทดลองใช้ฟีเจอร์ GO Travel ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 จนถึงขณะนี้มีผู้ใช้งานฟีเจอร์นี้สะสมแล้วกว่า 80,000 ราย สะสมยอดใช้จ่ายในชุมชนไปกว่า 3 ล้านบาท

    เป้าหมายภายในสิ้นปี 2567 จะมีการอัปเดตเส้นทางท่องเที่ยวเพิ่มอีก 30 เส้นทาง และต้องการจะเพิ่มผู้ใช้งาน Go Travel เป็น 200,000 คนต่อเดือน

    ด้าน “สมฤดี จิตรจง” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ททท. มีเป้าหมายที่จะผลักดันการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้คนไทยเที่ยวไทย 200 ล้านคนครั้งในปี 2567 และสร้างรายได้แตะ 1.08 ล้านล้านบาท

    โดยเทรนด์มาแรงเทรนด์หนึ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 คือ คนไทยนิยมขับรถยนต์ส่วนตัวท่องเที่ยวสูงมากขึ้น เกิดจากหลายเหตุผล เช่น มีความกังวลเรื่องสุขภาพและโรคติดต่อหากใช้ขนส่งสาธารณะ ต้องการพาสัตว์เลี้ยงไปเที่ยวด้วย

    รวมถึงไฟลต์บินในช่วงหลังโควิด-19 ราคาสูงขึ้นมาก ขณะที่คนไทยจำนวนมากเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเสียค่าใช้จ่ายด้านพลังงานถูกกว่ารถยนต์สันดาป จูงใจให้มีการขับรถเที่ยวมากขึ้น

    เป็นสาเหตุที่ทำให้ ททท. ต้องการผลักดันการขับรถเที่ยวของคนไทย และสนใจร่วมเป็นพันธมิตรกับ “กรุงศรี ออโต้” เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย

    ]]>
    1487185
    AutoX เปิดตัว เงินไชโย ชูกลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง เจาะกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน https://positioningmag.com/1407949 Fri, 11 Nov 2022 14:39:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1407949 AutoX ผู้ให้บริการสินเชื่อที่มีทะเบียนเป็นหลักประกันและวงเงินหมุนเวียน ภายใต้กลุ่ม SCBX ประกาศเดินหน้าบุกตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียน ภายใต้แบรนด์ เงินไชโย นอกจากนี้ยังชูกลยุทธ์ มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง เพื่อสร้างความรับรู้ในตัวแบรนด์ รวมถึงการให้พนักงานแต่ละสาขาเข้าหาลูกค้าในแต่ละพื้นที่ด้วย

    อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโต้ เอกซ์ จำกัด ได้กล่าวถึงการเปิดตัวแบรนด์ เงินไชโย ว่าปัจจุบันคนไทยกว่า 95% สามารถที่จะเข้าถึงบัญชีธนาคารได้ อย่างไรก็ดีกลับมีคนไทยราวๆ 36 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 55% ของคนไทยไม่สามารถที่จะเข้าถึงสินเชื่อได้ และปัญหายิ่งเพิ่มสูงขึ้นในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงทำให้เกิดการเปิดตัวธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนขึ้นมาในปี 2022 นี้ และเริ่มให้บริการแบบ Soft Launch ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

    โดยแบรนด์เงินไชโยได้จุดเด่นไม่ว่าจะเป็น

    • สามารถอนุมัติสินเชื่อภายใน 1 ชั่วโมง
    • สินเชื่อดังกล่าวไม่มีค่าธรรมเนียม วงเงินได้เต็มตามที่อนุมัติ แถมประกันฟรีในทุกสัญญา และไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
    • บัตรเงินไชโย จ่ายต้นเท่าไหร่ กดได้เท่านั้น ไม่กดเงินใช้ไม่คิดดอกเบี้ย ไว้กดใช้ยามฉุกเฉินจริงๆ ได้ แต่ถ้าไม่ชำระหนี้บัตรจะถูกปิดการใช้งาน และสามารถกดเงินได้ทุกตู้ ATM ไม่มีค่าธรรมเนียม
    • สาขาของเงินไชโย นั้นให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ หรือจะใช้บริการผ่าน Application รวมถึงแชตผ่าน Line หรือให้มาบริการถึงบ้านก็ได้

    สำหรับระบบของสาขาเงินไชโยจะแยกออกจากระบบของธนาคารไทยพาณิชย์ และจะปล่อยสินเชื่อมูลค่า 50% ของมูลค่าหลักประกัน เช่น รถจักรยานยนต์มีมูลค่า 20,000 บาท ก็จะปล่อยสินเชื่อแค่ 10,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ผู้บริหารของเงินไชโยยังได้กล่าวว่าระบบของเงินไชโยสามารถที่จะผ่อนชำระเป็นรายวันได้อีกด้วย ซึ่งสามารถลดภาระหนี้ของลูกหนี้ลงได้ด้วย

    นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ เงินไชโย ทาง AutoX ได้นำกลยุทธ์ มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง มาใช้ โดยมีเพลงเพื่อสื่อถึงแบรนด์โดยใช้ภาษาง่ายๆ ดนตรีที่มีจังหวะสนุกครื้นเครงเพื่อที่จะเจาะกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการเดินสายจัดงานคอนเสิร์ตตามจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศ และยังรวมถึงการนำพนักงานที่มีในแต่ละสาขานั้นทำความรู้จักกับคนในพื้นที่ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า

    ปัจจุบันลูกค้าของเงินไชโยแบ่งเป็นสินเชื่อรถจักรยานยนต์ 50% สินเชื่อรถยนต์ 25% และสินเชื่อรถเชิงพาณิชย์ 25%

    สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจหลังจากนี้นั้น ภายในปี 2022 นี้ตั้งเป้าที่จะมีสาขาให้ได้ 1,200 สาขา มียอดสินเชื่อคงค้าง 10,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2025 มีสาขาทั้งหมด 3,000 สาขา มียอดสินเชื่อคงค้าง 70,000 ล้านบาท และตั้งเป้าถึงการนำบริษัทเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2027 ด้วย

    ]]>
    1407949
    ทิศทาง ‘ALPHA X’ โอกาสทองตลาดสินเชื่อ ‘รถหรู’ สินทรัพย์ไลฟ์สไตล์ของ ‘ลูกค้ามั่งคั่ง’ https://positioningmag.com/1376154 Fri, 04 Mar 2022 13:49:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1376154 ลูกค้ามั่งคั่งยังเนื้อหอมเสมอ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ ’ยานพาหนะ’ ก็เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์อันหรูหรา และเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมไปพร้อมกับเทรนด์การลงทุนตามความหลงใหล หรือที่เรียกว่า ‘Passion Investment’

    ตลาดยานยนต์ลักชัวรี่ทั่วโลก มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ หลังบรรดามหาเศรษฐีจำนวนมากมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในช่วงโรคระบาด ธุรกิจต่างๆ หันมาจับตลาดลูกค้ามั่งคั่งที่มีกำลังซื้อสูง และมีแนวโน้มการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

    โดยปัจจุบัน ประเทศไทยมีลูกค้ามั่งคั่งคิดเป็น 1% ของประชากรทั้งหมด หรือประมาณ 700,000 ราย

    ‘ALPHA X’ ลีสซิ่งเช่าซื้อรถหรูน้องใหม่ จากค่ายไทยพาณิชย์เเละมิลเลนเนียม กรุ๊ป ได้มองเห็นศักยภาพของตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูงนี้ เเถมยังเป็น Blue Ocean มีผู้เล่นเเบบครบวงจรอยู่น้อยราย จึงขอตั้งใจบุกตลาดสินเชื่อเพื่อสินทรัพย์ไลฟ์สไตล์ประเภทนี้โดยเฉพาะ โดยประกาศเปิดตัวไปเมื่อเดือนต.ค. ปีที่ผ่านมา เเละได้เริ่มดำเนินธุรกิจในช่วงกลางเดือนม.ค.ปีนี้

    โดย ‘วศิน ไสยวรรณ’ ได้ขึ้นเป็นซีอีโอของ ALPHA X หลังเคยดำรงตำเเหน่งรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การปรับโครงสร้างองค์กรของยานเเม่ SCBX ที่ต้องการปลดล็อกข้อจำกัดเเบงก์ มุ่งสู่ธุรกิจฟินเทคที่หลากหลายยิ่งขึ้น

    โอกาสปล่อยสินเชื่อกลุ่มมั่งคั่ง 

    วศิน ให้ข้อมูลว่า ตลาดสินทรัพย์ลักชัวรี่ในไทยเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche) ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ ปี 2564 มีรถหรูจดทะเบียนรถใหม่ประมาณ 27,000 คัน หรือ 5% ของจำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ และคาดว่าปีนี้จะมีอัตราขยายตัวประมาณ 14%

    “ภาพรวมตลาดรถหรู ทั้งรถเก่าและรถใหม่อยู่ที่ประมาณปีละ 65,000 – 70,000 คัน เเละมีการใช้สินเชื่อโดยเฉลี่ย 70-80% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าการใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินยังเป็นทางเลือกในการเข้าถึงสินทรัพย์ที่ต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้”

    เเม้กลุ่มลูกค้ามั่งคั่งจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเงินมากนัก เเต่ส่วนใหญ่ก็เลือกใช้สินเชื่อ เนื่องจากเป็นการบริหารสินทรัพย์วิธีหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับเเต่ละบุคคล โดยบางคนมองว่าสามารถหมุนเงินก้อนไปลงทุนอย่างอื่นได้ เเทนที่จะมาทุ่มซื้อของชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

    หากดูตลาดสินเชื่อรถยนต์โดยรวม จะมียอดคงค้างอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท ในส่วนนี้แบ่งเป็นกลุ่มรถหรูราว 10-15% มูลค่าตลาดราว 2-3 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่พอสมควรเเละมีฐานลูกค้ากำลังซื้อสูง เครดิตดี

    จึงเป็นโอกาสที่จะนำความเชี่ยวชาญ ความสามารถด้านการเงิน ตลอดจนความเข้าใจ และประสบการณ์ในการบริการกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง มาพัฒนาและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย ทั้ง “รถหรู เรือยอทซ์ ริเวอร์โบ๊ท บิ๊กไบค์” ซึ่งมีบริการต่างๆ ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) ลีสซิ่ง (Leasing) สินเชื่อรีไฟแนนซ์ (Refinance)

    “เรากำลังอยู่ระหว่างขออนุมัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอใบอนุญาต ทำธุรกิจสินเชื่อธุรกิจจำนำทะเบียนรถ คาดว่ากลางปีนี้น่าจะได้รับการอนุมัติ”

    หวังครองมาร์เก็ตเเชร์ 10% สินเชื่อรถหรู 

    กลุ่มเป้าหมาย ‘ALPHA X’ จะมุ่งไปยังกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งที่มี รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งไม่ได้เเค่พิจารณาจากรายได้เท่านั้น เเต่ต้องดูส่วนอื่นๆ ประกอบด้วย โดยในจำนวนกลุ่มคนมั่งคั่งกว่า 700,000 รายในไทย บริษัทหวังจะดึงลูกค้ากลุ่มนี้มาให้ได้ 2,000 ราย

    หากผลตอบรับดีจะทำให้รักษาดูเเลลูกค้าในระยะยาวได้ ซึ่งหวังไว้ว่าลูกค้าเก่ากว่า 50% จะกลับใช้บริการในผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ ของ ALPHA X อย่างต่อเนื่อง

    หลังเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่กลางเดือนม.ค.กระเเสตอบรับค่อนข้างดีเเละเป็นที่พอใจ โดยลูกค้าเข้ามาใช้บริการสินเชื่อแล้วกว่า 200 ล้านบาท ทั้งรถเก่าเเละรถใหม่

    “บริษัทตั้งเป้าตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมสิ้นปีนี้ที่ 5,000 ล้านบาท เเละภายใน 3 ปีจากนี้ ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 10% ของตลาดสินเชื่อยานพาหนะลักชัวรี่ทั้งหมด โดยจะพยายามคุม NPL (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) ให้ต่ำกว่า 1%”

    สำหรับอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ จะเป็นแบบลดต้นลดดอกอยู่ที่ราว 2% วางเงินดาวน์ ราว 30% เเละวงเงินปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยอยู่ที่ 70% โดยเรตราคารถหรูจะที่ 3 ล้านบาทขึ้นไป

    โดยจุดเด่น Key Drives ที่จะทำให้ ALPHA X เเตกต่างจากลีสซิ่งเจ้าอื่นๆ นั้น คือ การเน้นบริการโดยที่ปรึกษาส่วนตัว มี Relationship Manager (RM) ซึ่งมีความรู้ทางด้านการเงินและมีความเข้าใจในแวดวงยานยนต์ คอยให้ข้อมูลเเละรายละเอียดต่างๆ ดูเเลทั้งก่อนเเละหลังการขาย ต่อเนื่องไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ

    นอกจากนี้ จะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการ KYC และอนุมัติสินเชื่อ พร้อมพัฒนาโปรดักต์ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น นำเสนอทางเลือกด้านการเงินและบริการให้หลากหลาย เพื่อเพิ่มบริการใหม่ๆ

    วางไทม์ไลน์ 5 ปี เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ 

    กลยุทธ์ต่อไปของบริษัท ก็คือการ ‘ขยายผู้แทนจำหน่าย’ หรือดีลเลอร์ให้ครอบคลุมเเละเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพราะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหาลูกค้าใหม่ เบื้องต้นจะทยอยร่วมมือกับดีลเลอร์ 100-200 รายในระยะข้างหน้า พร้อมประสานกับ SCB Private Banking เพื่อเสนอทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้า Wealth โดยเฉพาะ

    ขณะเดียวกันก็มีลูกค้าที่เคยใช้บริการเเล้วประทับใจเเละบอกต่อกันเเบบ ‘ปากต่อปาก’ มาจำนวนไม่น้อย ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญในทำกลยุทธ์การตลาด เเละจะมีการโปรโมตเเละประชาสัมพันธ์ในหลากหลายช่องทางต่อไป

    ทั้งนี้ บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด เคยประกาศว่ามีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท ภายใน 1 ปี ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ถือหุ้นในสัดส่วน 50% และเอ็มจีซี-เอเชีย ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท

    หากเป็นไปตามที่มุ่งหวังว่าพอร์ตสินเชื่อของ ALPHA X จะแตะ 2 หมื่นล้านบาท ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้บริษัทอยู่ในจุดคุ้มทุนเเละมีกำไร มีการเติบโตที่เเข็งเเกร่ง ก็มีความเป็นไปได้ที่ 4-5 ปีหลังจากนี้ จะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย…

    ]]>
    1376154
    ก้าวต่อไปของทีเอ็มบีและธนชาต เมื่อรวมกันเป็น ‘ttb’กับเป้าหมายสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย https://positioningmag.com/1331937 Mon, 17 May 2021 11:30:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1331937

    เหลือเวลาอีกเเค่หนึ่งเดือนกว่าๆ ดีลประวัติศาสตร์เเห่งวงการเเบงก์เมืองไทยที่หลายคนจับตามอง อย่างการรวมกิจการของ 2 ธนาคารใหญ่ ‘ทีเอ็มบี’ และ ‘ธนชาต’ สู่การเป็น

    ‘ทีเอ็มบีธนชาต’ หรือ ttb กำลังจะเสร็จสมบูรณ์เเบบ 100% ครบสูตร ‘One Dream, One Team, One Goal’ ในต้นเดือนกรกฎาคมนี้

    การเดินทางครั้งสำคัญของ ttb กับเป้าหมายใหญ่ที่หวังจะช่วยให้คนไทยมี ‘Financial Well-being’ ชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น จะมีทิศทางต่อไปอย่างไร เเผนธุรกิจเเละกลยุทธ์การเข้าถึงลูกค้าในทุกช่วงชีวิต ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เเละการเปลี่ยนเเปลงที่จะเกิดขึ้น ลูกค้าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง วันนี้ Positioning จะพามาหาคำตอบกัน

    ภารกิจใหญ่ของการรวมธนาคารครั้งนี้ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 เป็นการรวมจุดแข็งของสองธนาคารมาไว้ที่เดียว

    เมื่อรวมกันแล้วจะทำให้ธนาคารใหม่ มีขนาดธุรกิจเพิ่มขึ้น ‘เท่าตัว’ โดยมีสินทรัพย์รวมกันเกือบ 2 ล้านล้านบาท ขึ้นเเท่นเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ อันดับ 6 ของไทย มีพนักงานรวมกันมากกว่า 15,000 คน

    “เราไม่ต้องการเป็นเเค่ธนาคารใหม่ เเต่จะสร้างรากฐานองค์กรใหม่ให้มีความเป็นหนึ่งเดียว สู่เป้าหมายเดียวกันคือ การช่วยให้คนไทยมีสุขภาพการเงินที่เเข็งเเรงในระยะยาว นำเสนอโซลูชั่นต่างๆ เพื่อตอบโจทย์คนไทยในทุกช่วงชีวิต” ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าว

    รีเเบรนด์ให้ทันสมัย การ ‘เชื่อมต่อ’ คือหัวใจสำคัญ

    ไม่กี่วันที่ผ่านมาเราคงได้เห็น ‘ภาพลักษณ์ใหม่’ ของ ttb ออกมาให้ตื่นตาตื่นใจกันเเล้ว ทั้งช่องทางการสื่อสารทางออฟไลน์เเละออนไลน์

    จุดเล็กๆ เเต่น่าสนใจคือ เป็นครั้งเเรกของสถาบันการเงินไทยที่เลือกใช้ ชื่อโลโก้ใหม่ เป็นอักษรพิมพ์เล็ก ประกอบด้วยอักษร t ตัวแรกคือ TMB (ทีเอ็มบี) t ตัวที่สองคือ Thanachart (ธนชาต) และอักษร b มาจากคำว่า Bank (ธนาคาร)

    ความหมายของโลโก้ของ ttb สื่อให้เห็นความตั้งใจของธนาคารที่จะใกล้ชิดและเข้าใจผู้คน ซึ่งการเชื่อมประสานกันของตัวอักษรทั้งสามตัว ยังมีความหมายถึง ‘การเชื่อมต่อ’ ของสองธนาคารเพื่อส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่จะช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย


    ส่วนโทนสีของเเบรนด์ จะมี ‘สีฟ้าเเละสีส้ม’ ซึ่งเป็นสีเดิมของทีเอ็มบีและธนชาต ที่สะท้อนถึงการทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นธนาคารที่ทุกคนเข้าใจได้ง่าย ไม่ใช่เรื่องยากหรือเป็นเรื่องที่ไกลตัว

    พร้อมมีการเฉดสีใหม่ อย่างสีฟ้าเฉดใหม่ ‘Confident Blue’ ที่หมายถึงการเปี่ยมไปด้วยพลัง ความคิดสร้างสรรค์ เเละสีส้ม ‘Refreshing Orange’ หมายถึง ความสดใส มีชีวิตชีวา โดยสะท้อนให้เห็นถึง ความก้าวหน้า ความอบอุ่น และความกระตือรือร้นที่จะบริการลูกค้า

    รวมไปถึงเพิ่มสีน้ำเงิน ‘Trusted Navy’ สื่อถึงความมั่นคง น่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ สามารถเป็นที่พึ่งพาให้แก่ทุกคน เหมือนที่เป็นตลอดมา และเพิ่มสีขาว ‘Honest White’ คือ การเป็นตัวแทนของความโปร่งใส การเปิดเผยและซื่อสัตย์ ที่เป็นหลักการที่ธนาคารยึดมั่นอยู่เสมอ โดยจะทยอยเปลี่ยนโฉมสาขา และ ATM เป็นแบรนด์ ttb ทั่วประเทศไทย

    กลยุทธ์สู่ Main Bank : ขยายฐานลูกค้า – รุกดิจิทัล – เสริม

    สกิลพนักงาน

    ในปีนี้ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ได้ลำดับความสำคัญทางธุรกิจที่จะเร่งดำเนินการไว้ 3 เรื่อง ได้เเก่

    1) ขยายฐานลูกค้า ที่เลือกใช้ ttb เป็น ’ธนาคารหลัก’ (Main Bank) ผ่านกลยุทธ์ Financial Well-being solution พัฒนาโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต ผ่าน 4 เสาหลัก คือ

    • ฉลาดออมฉลาดใช้ (Mindful spending & start saving)
    • รอบรู้เรื่องกู้ยืม (Healthy borrowing)
    • ลงทุนเพื่ออนาคต (Investing for future)
    • มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ (Sufficient protection)

    2) สร้างศักยภาพด้าน ‘Digital-first operating model’ บนโมบายแบงก์กิ้งแพลตฟอร์ม ที่เป็นมิตรและรู้ใจตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละคน แต่ละช่วงชีวิต มอบประสบการณ์ที่ดีกว่า สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้า และมีความคล่องตัวที่สูงขึ้นในการขับเคลื่อนนวัตกรรม

    3) สร้างศักยภาพบุคลากร (People development) ให้สอดรับกับยุคดิจิทัล

    “ธนาคารไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะเทคโนโลยี แต่จะให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์และให้ความช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาทางการเงินผ่านพนักงานของธนาคาร โดยใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่มาช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า”

    โดยพนักงานทั้งหมด จะได้รับการพัฒนายกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น (Up-skill) และสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการทำงาน (Re-skill) ที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนทิศทางของธนาคารที่จะสร้าง Humanized digital หรือ รูปแบบการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่เป็นมิตรและรู้ใจ

    สำหรับการ ออกแบบ ‘โซลูชันทางการเงิน’ นั้นจะเน้นให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงชีวิต โดยยกตัวอย่างโซลูชันที่เหมาะสมกับลูกค้า 4 กลุ่ม ดังนี้

    กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเริ่มทำงาน

    เป็นวัยที่ต้องการก่อร่างสร้างตัว เพื่อหา ‘ล้านแรก’ ในชีวิต ttb จะเสนอโซลูชันด้านฉลาดออม ฉลาดใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง พร้อมรับสิทธิประโยชน์รอบด้าน รวมถึงประกันอุบัติเหตุฟรี ที่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงหากเกิดอุบัติเหตุผ่านบัญชี all free และ ออมอย่างมีวินัยเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินผ่านบัญชี no fixed

    กลุ่มลูกค้าที่เริ่มสร้างครอบครัว

    วัยนี้จะเป็นเสาหลักของบ้าน ที่ต้องการชีวิตอิสระในวันข้างหน้า ธนาคารจะเสนอโซลูชันเกี่ยวกับสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ต้องการมีบ้าน มีรถ ที่ใหญ่ขึ้นสำหรับการสร้างครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้คนกลุ่มนี้มีระเบียบวินัยในการผ่อนชำระ พร้อมโซลูชันการรวบหนี้ด้วยทรัพย์สินที่มีอยู่ เพื่อให้ จัดการปลอดหนี้ได้เร็วที่สุด สามารถเริ่มต้นเก็บออม และลงทุนเพื่ออนาคตได้ต่อไป      

    กลุ่มลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากหน้าที่การงาน

    กลุ่มนี้ต้องการมีชีวิตที่มั่นคงและเกษียณอย่างไร้กังวล ธนาคารจึงจะเน้นการให้ความรู้ด้านการลงทุน จัดทัพตามความเสี่ยง ต่อยอดความมั่งคั่ง ผ่านผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และ ttb smart port พอร์ตการลงทุน ที่ตอบทุกโจทย์การลงทุนครบวงจร โดยมืออาชีพ

    กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง

    วัยนี้กำลังจะเตรียมเข้าสู่วัยเกษียณ เเละอยากใช้ชีวิตได้ตามใจ ‘สุขภาพเป็นหนึ่ง ลูกหลานสบาย’ ธนาคารพร้อมส่งมอบโซลูชันด้านประกันชีวิตและการลงทุนที่มอบความอุ่นใจ ในการรักษาความมั่งคั่ง พร้อมดูแลสุขภาพ และวางแผนส่งต่อมรดกให้กับทายาท


    ttb DRIVE ต้องเป็นให้ได้มากกว่า ‘สินเชื่อรถยนต์’

    วิกฤตโควิด-19 สะเทือนทุกหย่อมหญ้า ในปีที่ผ่านมา ttb ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งรายย่อยและธุรกิจไปกว่า 750,000 ราย และในช่วงเวลานี้ ได้เตรียมมาตรการอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้

    ‘สินเชื่อรถยนต์’ ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ตัวชูโรงของ ttb โดยธนาคารได้ช่วยเหลือลูกค้าและคู่ค้าผ่านโครงการ “ตั้งหลัก” ซึ่งช่วยลูกค้าผ่อนหนักเป็นเบาได้กว่า 600,000 ราย และมอบประกันคุ้มครองโควิด-19 ให้แก่บริษัทคู่ค้าทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วกว่า 3,000 รายทั่วประเทศตลอดปีที่ผ่านมา

    ส่วนความเคลื่อนไหวต่อไปในปีนี้ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของธนาคาร จะนำเสนอออกมาภายใต้แบรนด์ ‘ttb DRIVE’ ด้วยความตั้งใจที่จะเป็น “มากกว่าสินเชื่อรถ… เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น”

    โดย ttb DRIVE พร้อมช่วยลูกค้าเคลียร์ทุกอุปสรรคทางการเงิน รวมหนี้ ลดภาระ เพิ่มสภาพคล่องด้วย “รถแลกเงินเคลียร์หนี้” และมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่รักษาวินัยทางการเงินเป็นอย่างดีผ่านโครงการ “จ่ายดีมีคืน” อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยโปรแกรม auto-approve ผนวกกับ scoring model พร้อมเจ้าหน้าที่ ttb DRIVE agent ให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

    นอกจากนี้ได้เปิดตัว “DRIVE Connect Platform” ทำตลาดออนไลน์ผ่านทาง Facebook ให้กับกลุ่ม ดีลเลอร์รถมือสอง และยังมีระบบ “Cross-area Booking” สามารถรองรับการซื้อขายรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วผ่านช่องทางออนไลน์ ลดข้อจำกัดด้านพื้นที่ให้แก่คู่ค้า

    พร้อมยกระดับศักยภาพทีมงาน ttb DRIVE เพื่อการทำงานในยุคดิจิทัล ผ่าน DRIVE Academy  เพื่อสร้างบริการที่ดีให้กับลูกค้าและคู่ค้าทุกราย

    หนุนเงินทุน เสริมดิจิทัลขับเคลื่อน SMEs – ธุรกิจใหญ่

    การเติบโตของธุรกิจรายย่อยไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ttb จึงวางเเผนออกสร้างโซลูชันการเงิน เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นของลูกค้าธุรกิจ ดังต่อไปนี้

    มอบแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมและเพียงพอ

    เน้นการสนับสนุน SMEs ที่อยู่ในซัพพลายเชนของธุรกิจขนาดใหญ่ให้ได้รับวงเงินที่เพียงพอบนเงื่อนไขที่เหมาะสมผ่าน “สินเชื่อเพื่อเครือข่ายธุรกิจ ทีทีบี (ttb supply chain solutions)” และช่วยเสริมสภาพคล่องในภาวะวิกฤตด้วยโครงการช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอี (Special Loan) และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset warehousing) ที่สอดคล้องนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย

    ช่วยบริหารธุรกิจ ด้วย ttb business one

    มอบโซลูชันและบริการที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจ ด้วย “ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ทีทีบี บิสซิเนสวัน (ttb business one)” ที่เป็นมากกว่าเครื่องมือการทำธุรกรรมออนไลน์

    ช่วยให้ทำธุรกรรมได้ครบตั้งแต่เรื่องสินเชื่อ จนถึงธุรกรรมต่างประเทศ มีรายงานครบถ้วน เรียกดูง่าย และนำไปต่อยอดทำรายงานเชิงวิเคราะห์ได้ สามารถเชื่อมต่อกับระบบของพันธมิตรและลูกค้า เช่น ERP POS และอีกหนึ่งดิจิทัลโซลูชันที่ช่วยลดเรื่องการใช้เงินสดและเอกสารอย่างเต็มรูปแบบก็คือ “ระบบบริหารการเรียกเก็บเงิน ทีทีบี (ttb digital invoice management)”

    “เป็นการนำโซลูชันของธนาคารมาเชื่อมต่อกับระบบการเรียกเก็บเงินของลูกค้าธุรกิจ ลดการใช้เงินสดและเอกสาร ลดเวลาดำเนินการ และค่าใช้จ่ายเรื่องคน”

    มอบชีวิตทางการเงินที่ดีให้แก่พนักงานและคู่ค้า

    มีบริการที่น่าสนใจอย่าง “การจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน ทีทีบี เพย์โรลพลัส (ttb payroll plus)” รวมไปถึงบริการและผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารความเสี่ยงและด้านประกัน อย่างเช่น “ประกันสินเชื่อธุรกิจ ทีทีบี วันไลฟ์ (ttb one life business insurance)” เป็นต้น


    ttb ยุคใหม่…ลูกค้าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ?

    สำหรับในช่วงเวลานี้ลูกค้าทีเอ็มบีเเละธนชาต สามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ได้ ‘เช่นเดิม’ และยังสามารถใช้ช่องทางของ ttb ได้อีกด้วย

    ลูกค้าทีเอ็มบีเดิม สามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการได้เหมือนเดิมภายใต้แบรนด์ใหม่ โดยธนาคารกำลังอยู่ระหว่างการทยอยเปลี่ยนช่องทางบริการจาก ทีเอ็มบี เป็น ttb

    ลูกค้าธนชาตเดิม หลังการรวมระบบในเดือนก.ค.สำเร็จ ผลิตภัณฑ์และบริการเดิมจะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด รวมไปถึง ‘สิทธิประโยชน์’ ที่เพิ่มขึ้น

    โดยลูกค้าธนชาตจะได้รับจดหมายแจ้งรายละเอียด ซึ่งจะมี ‘QR Code’ ให้สแกนเข้าไปดูข้อมูลเฉพาะของแต่ละบุคคล อย่างเลขที่บัญชีเงินฝากและเลขที่สัญญาสินเชื่อ เพื่อไว้ใช้ทำธุรกรรมตั้งเเต่วันจันทร์ที่ 5 ก.ค. เป็นต้นไป

    “จดหมายนี้จะทยอยส่งออกไปหาลูกค้าตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป เพื่อให้ลูกค้าเตรียมตัวล่วงหน้า”

    หากได้รับจดหมายเรียบร้อยเเล้ว ลูกค้าสามารถสเเกน ‘ดาวน์โหลดไฟล์ pdf’  เพื่อเก็บรายละเอียดผลิตภัณฑ์เเละบริการของตัวเองไว้ใช้อ้างอิงได้ หรือสามารถตรวจสอบข้อมูล หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ผ่านแอป touch ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. เป็นต้นไป

    กรณีที่ผ่านไปซักพักเเต่ยังไม่ได้รับจดหมาย ลูกค้าธนชาตสามารถติดต่อไปยัง ttb contact center โทร.1428 หรือติดต่อที่สาขา ttb ได้ทั่วประเทศ

     “ธนาคารขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะนำไปสู่การยกระดับประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”

    การเดินทางของ 2 ธนาคารใหญ่ที่มีอายุยาวนานหลายทศวรรษ สู่การรวมพลังกันเป็น ‘หนึ่งเดียว’ ก้าวไปพร้อมๆ กับฐานลูกค้ามากกว่า 10 ล้านรายในครั้งนี้ จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ เข้ามาช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยได้อย่างไรอีกบ้าง…ต้องติดตาม

    ]]>
    1331937