อเมซอน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 21 Mar 2023 03:13:02 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘Amazon’ โละพนักงานเพิ่มอีก 9,000 คน รวมแล้วกว่า 27,000 คนในช่วง 5 เดือน https://positioningmag.com/1424075 Mon, 20 Mar 2023 22:46:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1424075 นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 จนถึงมกราคม 2023 บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ก็ปลดพนักงานไปแล้วถึง 18,000 คน ซึ่งการลดคนดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อการสร้างสำนักงานใหญ่ใหม่ในส่วนของเฟส 2 ที่ต้องชะลอไปก่อน จนล่าสุด บริษัทได้ออกมายืนยันว่าจะมีการปลดคนเพิ่มอีกถึง 9,000 คน

Andy Jassy CEO Amazon ได้เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเลิกจ้างพนักงานอีก 9,000 คน โดยเป็นการปรับลดเพิ่มเติมจากรอบก่อนหน้าที่มีการปรับลดคนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 18,000 คน ในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่ (พฤศจิกายน-มกราคม 2023) โดยส่วนใหญ่เป็นแผนกค้าปลีก จัดซื้อ และทรัพยากรบุคคลเป็นหลัก

สำหรับการปลดคนระลอกใหม่นี้จะกระทบที่ส่วนของ Amazon Cloud, ทรัพยากรบุคคล, การโฆษณา และธุรกิจสตรีมสดของ Twitch โดยก่อนหน้านี้ Dan Clancy CEO ของ Twitch ได้เคยออกมาเปิดเผยว่า บริษัทได้มีแผนจะลดพนักงานออกจำนวน 400 คน เนื่องจากการเติบโตของผู้ใช้และรายได้ของแพลตฟอร์มไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้

ทั้งนี้ Jassy ได้ระบุว่า สาเหตุที่เขาตัดสินใจเลิกจ้างพนักงานเพิ่มก็เพื่อ ลดต้นทุน พร้อมกับคำนึงถึง ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ของเศรษฐกิจ

“หลักการที่สำคัญของการวางแผนประจำปีของเราในปีนี้คือ ต้องทำให้องค์กรลีนขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เรายังคงสามารถลงทุนอย่างแข็งแกร่ง สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าในระยะยาว ซึ่งเราเชื่อว่าสามารถปรับปรุงชีวิตของลูกค้าและ Amazon โดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญ” Jassy กล่าว

ปัจจุบัน Amazon กำลังอยู่ระหว่างการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท หลังจากที่ช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 บริษัทได้จ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1.6 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2021 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 798,000 คนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562

โดย Jassy ยังพิจารณาภาพรวมกว้าง ๆ ของค่าใช้จ่ายของบริษัท เนื่องจากคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและการเติบโตที่ชะลอตัวในธุรกิจค้าปลีกหลักของบริษัท ทำให้ Amazon ต้องหยุดจ้างพนักงานในองค์กร ตัดโครงการทดลองบางโครงการ และชะลอการขยายคลังสินค้า

Source

]]>
1424075
‘Amazon’ เบรกงานสร้าง “สำนักงานใหญ่” แห่งที่สอง หลังเพิ่งปลดพนักงาน 18,000 คนไปช่วงต้นปี https://positioningmag.com/1421916 Sun, 05 Mar 2023 03:45:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1421916 ย้อนไปปี 2563 บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Amazon มีแผนสร้างสำนักงานใหญ่แห่งที่สอง แต่ล่าสุด บริษัทได้ชะลอการก่อสร้างในเฟสที่สอง หลังจากการปลดพนักงานรอบใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท พร้อมกับแปลนแผนการเปลี่ยนเกี่ยวกับการ Work From Home ของพนักงาน

Amazon กำลังชะลอการเริ่มต้นการก่อสร้าง PenPlace ซึ่งเป็นเฟสสองของการพัฒนาสำนักงานใหญ่ในเวอร์จิเนีย จอห์น โชตต์เลอร์ หัวหน้าฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ของ Amazon กล่าวว่า “บริษัทได้ประเมินแผนการสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจของเรา รวมถึงเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับพนักงาน”

เนื่องจาก Met Park (เฟสแรก) ที่ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน 2 หลัง กำลังจะเปิดทำการในเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีพื้นที่เพื่อรองรับพนักงานมากกว่า 14,000 คน ซึ่งเบื้องค้นคาดว่าตอนเปิดให้เข้าใช้จะมีพนักงานทั้งหมด 8,000 คน ซึ่งยังสามารถจุพนังานได้อีกถึง 6,000 คน ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนรูปแบบของ PenPlace (เฟสสอง) และได้ชะลอการก่อสร้างออกไปก่อน

การเบรกแผนในเฟสสอง หลายคนคาดว่าอาจเป็นเพราะในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการเลิกจ้างพนักงานมากถึง 18,000 คน เพื่อลดต้นทุนสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ และการลดต้นทุนทำให้บริษัทต้องวางแผนทบทวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่

อย่างไรก็ตาม Zach Goldsztejn โฆษกของ Amazon ยืนยันว่า แผนที่ Amazon ต้องการจะพัฒนาสำนักงานใหญ่ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2568 ยังคงดำเนินต่อไปไม่ได้เปลี่ยนแปลง และการหยุดก่อสร้างชั่วคราวไม่ได้บ่งชี้ถึงการปลดพนักงานครั้งล่าสุดของบริษัท

ทั้งนี้ Amazon ยังคงต้องการให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon กล่าวว่า บริษัทจะกำหนดให้พนักงานขององค์กรต้องกลับมาที่สำนักงานอย่างน้อย สามวันต่อสัปดาห์ ซึ่งเปลี่ยนจากนโยบายก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้กำหนดตายตัว โดยการเปลี่ยนแปลงจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคม

“การที่สำนักงานใหญ่แห่งที่สองของ Amazon หยุดชั่วคราวนั้นเป็นสัญลักษณ์ของการหยุดชะงักของบริษัทเทคโนโลยีได้รับผลกระทบทั่วทั้งอุตสาหกรรม” เจฟฟรีย์ ดี. ชุลแมน ศาสตราจารย์ด้านการตลาดจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าว

Source

]]>
1421916
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข่งเดือด! ‘Amazon’ อัดเงินเดือนเพิ่ม ‘เท่าตัว’ หวังดึงดูดคนเข้าบริษัท https://positioningmag.com/1373159 Tue, 08 Feb 2022 06:18:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1373159 Amazon (อเมซอน) บริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังเพิ่มฐานเงินเดือนสูงสุดสำหรับพนักงานในองค์กรจาก 160,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี เป็น 350,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี เนื่องจากตลาดแรงงานในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง บริษัทจึงต้องปรับฐานเงินเดือนเพื่อดึงดูด

Amazon เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับฐานเงินเดือนพนักงานออฟฟิศใหม่สูงสุดที่ 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากเพดานเดิมที่ 160,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว โดยฐานเงินเดือนดังกล่าว ไม่ใช่ค่าตอบแทนทั้งหมด ของบริษัท ซึ่งยังไม่รวม โบนัส นอกเหนือจากการขึ้นค่าจ้างพื้นฐานแล้ว Amazon ยังจะเพิ่มค่าตอบแทนโดยรวมสำหรับงานส่วนใหญ่ทั่วโลกอีกด้วย

“ปีที่ผ่านมาได้เห็นตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้น เพื่อที่จะคงความสามารถในการแข่งขัน เราจำเป็นต้องดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถระดับสูงไว้ เราจึงตัดสินใจที่จะเพิ่มจำนวนแรงงานของเราให้มากขึ้นอย่างมีความหมาย รวมถึงเพิ่มระดับค่าตอบแทนมากกว่าที่เราทำในปีปกติ” โฆษกของ Amazon กล่าว

จากรายงานของ Business Insider ที่อ้างถึงการสำรวจภายใน Amazon พบว่า การเปลี่ยนแปลงขององค์กรเกิดขึ้นเมื่อพนักงานของ Amazon เริ่มลาออกมาขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากพวกเขามองว่า Amazon ให้ค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าตลาด ทำให้ค่าจ้างพื้นฐานได้ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับพนักงานที่ต้องการลาออกจากบริษัท

ยิ่งเมื่อการระบาดของ COVID-19 ทำให้คนงานมีอำนาจในการเรียกร้องผลประโยชน์และการจ่ายเงินที่ดีขึ้น บริษัทจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงต้องเสนอการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อดึงดูด เช่น การจ้างงานทางไกลหรือการทำงานแบบ Hybrid นั่นทำให้ Amazon และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ยอมรับว่าการไม่เสนอผลประโยชน์เหล่านั้นอาจส่งผลเสียต่อความสามารถในการดึงดูดหรือรักษาผู้มีความสามารถไว้

ทั้งนี้ Amazon นั้นไม่ได้ติดอันดับ 1 ใน 7 ของผู้จ้างงานแรงงานด้านวิศวกรรมในปีที่แล้ว ตามข้อมูลของ Levels.fyi ซึ่งติดตามการจ่ายเงินในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีพบว่า ตำแหน่งวิศวกรระดับบนสุดของ Roblox สามารถทำเงินได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่วิศวกรใน Facebook สามารถทำเงินได้มากกว่า 900,000 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวนับรวมค่าตอบแทนทุกรูปแบบ ไม่ใช่แค่เพียงฐานเงินเดือน

Source

]]>
1373159
‘อิตาลี’ สั่งปรับ ‘Amazon’ กว่า 1.28 พันล้านเหรียญฯ ฐานผูกขาดบริการขนส่ง https://positioningmag.com/1366638 Mon, 13 Dec 2021 15:00:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1366638 กลุ่มเฝ้าระวังต่อต้านการผูกขาดของมิลาน ประเทศอิตาลี ได้สั่งปรับ ‘อเมซอน’ (Amazon) เป็นเงิน 1.13 พันล้านยูโร (1.28 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากละเมิดการผูกขาดตลาด ซึ่งถือเป็นบทลงโทษที่ใหญ่ที่สุดของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในยุโรป

ตามแถลงการณ์ของ กลุ่มเฝ้าระวังต่อต้านการผูกขาดของประเทศอิตาลี ระบุว่า อเมซอน ได้ใช้ประโยชน์จากสถานะความเป็น ‘เจ้าตลาด’ ในการสนับสนุนการนำบริการโลจิสติกส์ของตนเอง หรือ Fulfillment by Amazon (FBA) ให้กับร้านค้าผู้ขายบนเว็บไซต์ Amazon.it ใช้

โดยองค์กรระบุว่า อเมซอนจะปิดกั้นสิทธิพิเศษต่าง ๆ กับผู้ขายที่ไม่ได้ใช้งานบริการ FBA โดยจะปิดกั้นการของเห็นของลูกค้า Prime label หรือสมาชิก Amazon Prime ที่มีกว่า 7 ล้านราย ซึ่งร้านที่ใช้ อเมซอนจะช่วยเพิ่มการมองเห็นซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มยอดขาย

“ที่ผู้ขายเลือก FBA ก็เพราะมันมีประสิทธิภาพ สะดวก และแข่งขันได้ในแง่ของราคา”

อย่างไรก็ตาม อเมซอน “ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง” กับการตัดสินใจของผู้กำกับดูแลของอิตาลี และจะอุทธรณ์ โดยระบุว่า FBA เป็นแค่บริการทางเลือก และผู้ขายบุคคลที่ส่วนใหญ่ในอเมซอนไม่ได้ใช้บริการดังกล่าว และ “การปรับนั้นไม่ยุติธรรมและไม่สมส่วน”

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวว่า ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านการแข่งขันของอิตาลีในคดีนี้ภายในกรอบการทำงานของเครือข่ายการแข่งขันของยุโรป เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับการสอบสวนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของอเมซอนอีก 2 คดี

โดยคดีแรกเกิดในเดือนกรกฎาคม 2019 ที่มีการประเมินว่าการใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของอเมซอนจากผู้ค้าปลีกที่ขายในตลาดของตนนั้นละเมิดกฎการแข่งขันของสหภาพยุโรปหรือไม่ คดีที่ 2 เกิดช่วงปลายปี 2020 ที่เน้นไปในส่วนการปฏิบัติต่อผู้ขายในตลาดที่ใช้บริการโลจิสติกส์และการจัดส่งของอเมซอน

Source

]]>
1366638
Amazon ให้พนักงาน ‘Work from Home’ ยาวถึงปี 2022 หลังโควิดกลับมาระบาดอีกครั้ง https://positioningmag.com/1345712 Sat, 07 Aug 2021 15:35:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1345712 หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 รายวันในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง โดยในช่วงวันที่ 2-6 ส.ค. 64 นั้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันทะยานกว่า 1 แสนราย เนื่องจากสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วทำให้สหรัฐฯ ต้องกลับมาแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงกลับมาสวมหน้ากากอีกครั้งแม้จะฉีดวัคซีนครบแล้ว

ย้อนไปในปลายเดือนพฤษภาคม Amazon แจ้งพนักงานว่าจะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากสำหรับพนักงานในโกดังที่ได้รับวัคซีนครบชุด โดยคำสั่งดังกล่าวมาจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนไม่ต้องสวมหน้ากากได้

แต่จากการระบาดระลอกใหม่ของสายพันธุ์เดลตาทำให้ Amazon อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องเลื่อนวันกลับเข้าทำงานในออฟฟิศยาวไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2022 จากเดิมที่มีกำหนดในการกลับเข้าออฟฟิศในวันที่ 7 กันยายน และเมื่อกลับมาทำงานในออฟฟิศอีกครั้ง พนักงานจะต้องสวมหน้ากากภายในสำนักงาน เว้นแต่จะได้แสดงหลักฐานว่าได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว

บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลายแห่งถือเป็นกลุ่มบริษัทแรก ๆ ที่ปิดสำนักงานในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว และได้กำหนดว่าจะกลับมาทำงานในออฟฟิศอีกครั้งในเดือนกันยายน แต่ปัจจุบันบริษัทเหล่านี้กำลังชะลอแผนดังกล่าวเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับตัวแปรเดลตาที่ระบาดเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Google ประกาศว่าจะเลื่อนวันกลับมาทำงานที่สำนักงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนถึงวันที่ 18 ตุลาคม ในขณะที่ Uber ระบุว่าจะไม่เปิดสำนักงานอีกครั้งจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม Tim Cook CEO ของ Apple ก็ยืนยันเช่นกันว่าบริษัทจะชะลอการเปิดจากเดือนกันยายนไปอีกอย่างน้อยหนึ่งเดือน ส่วน Microsoft คาดว่าจะไม่กลับเข้ามาทำงานวันที่ 4 ตุลาคม

อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Lyft วางแผนที่จะกลับมาทำงานที่ออฟฟิศอีกครั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2022

Source

]]>
1345712
ยักษ์อีคอมเมิร์ซ ‘Amazon’ เตรียมจ้างพนักงานเพิ่ม 10,000 ตำเเหน่งใน UK รับเศรษฐกิจฟื้น https://positioningmag.com/1332375 Sun, 16 May 2021 08:48:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1332375 ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่าง ‘Amazon’ วางเเผนจะจ้างพนักงานเพิ่ม 10,000 ตำเเหน่งในสหราชอาณาจักร หลังประกาศจ้างพนักงานส่งของและพนักงานคลังสินค้ากว่า 75,000 คนในสหรัฐฯ และแคนาดา เชื่อมั่นลงทุนหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้น

โดยตำแหน่งงานใหม่ของ Amazon ที่จะเปิดรับสมัครในสหราชอาณาจักรนั้น จะรวมถึงพนักงานประจำคลังสินค้า 4 แห่งใหม่และพนักงานประจำสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน, แมนเชสเตอร์, เอดินเบอระ และแคมบริดจ์ รวมไปตำแหน่งงานไอทีใน Amazon Web Services ซึ่งเป็นส่วนธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งของ Amazon ด้วย

อย่างไรก็ตาม Amazon ปฏิเสธที่จะระบุถึงจำนวนการเพิ่มตำแหน่งใหม่ ในส่วนพนักงานขับรถจัดส่งและพนักงานคลังสินค้า หลังมีการประท้วงเรื่องค่าเเรงต่ำและคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ไม่ดีนัก

สำหรับค่าเเรงในการทำงานของ Amazon ในสหราชอาณาจักร จะเริ่มต้นที่ 10.80 ปอนด์ ต่อชั่วโมง (ราว 477 บาท) ในพื้นที่กรุงลอนดอน และ 9.70 ปอนด์ต่อชั่วโมงในส่วนอื่นๆ

โดยตั้งเป้าว่าพนักงานทั้งหมดในสหราชอาณาจักรจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 5.5 หมื่นราย ได้ภายในสิ้นปี 2021 ซึ่งจะทำให้ Amazon บริษัทกลายเป็นหนึ่งเป็นในบริษัทข้ามชาติที่มีพนักงานมากที่สุดในอังกฤษ เหมือนยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอื่น ๆ ของสหรัฐฯ อย่าง Google, Microsoft, Facebook และ Apple

นอกจากนี้ Amazon วางเเผนจะทุ่มงบประมาณราว 10 ล้านปอนด์ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า เพื่อใช้ฝึกอบรมทักษะใหม่ๆ ให้พนักงานในสหราชอาณาจักรราว 5,000 คน เพื่อเสริมความสามารถในการประกอบอาชีพทั้งในเเละนอกองค์กร พร้อมร่วมงานกับหอการค้าอังกฤษและธุรกิจในท้องถิ่น เพื่อเเก้ปัญหาการขาดแคลนทักษะในส่วนภูมิภาค

เรามีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังการระบาดใหญ่ ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญในภาคการค้าปลีกของเรา

เเม้ว่า Amazon จะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สร้างงานมากมายในสหราชอาณาจักร แต่บริษัทก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงภาษีที่จ่ายโดยบริษัทจ่ายจ่ายภาษีเเค่ 293 ล้านปอนด์ในปี 2019 จากยอดขายมีมากถึง 1.37 หมื่นล้านปอนด์

 

 

ที่มา : CNBC , BBC

]]>
1332375
Amazon ลุยบริการส่งสินค้าด้วย “โดรน Prime Air” หลังได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ https://positioningmag.com/1294983 Tue, 01 Sep 2020 11:38:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1294983 ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon เดินหน้าพัฒนาการจัดส่งพัสดุด้วย “โดรน” เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ล่าสุดได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ให้เริ่มใช้โดรน Prime Air บินส่งสินค้าได้เป็นที่เรียบร้อย

Amazon ถือเป็นบริษัทเอกชน รายที่ 3 ในสหรัฐฯ ที่ได้รับการอนุญาตดังกล่าว ต่อจาก UPS และ Wing บริษัทลูกของ Alphabet โดยจะมีสิทธิพิเศษเพื่อส่งสินค้าให้กับผู้ใช้บริการอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเเละสามารถใช้โดรนบรรทุกสิ่งของได้ แม้จะอยู่นอกระยะสายตาของผู้ปฏิบัติงาน

Amazon บอกว่า จากนี้จะเริ่มทดสอบการจัดส่งพัสดุให้ลูกค้า ซึ่งจะต้องผ่านการอบรมอย่างเข้มงวดเเละมีการส่งรายงานหลักฐานอย่างละเอียดถึงการดำเนินการจัดส่งด้วยโดรน รวมถึงในขั้นตอนการสาธิตเทคโนโลยีต่อเจ้าหน้าที่ FAA ด้วย

การได้รับอนุญาตครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ Prime Air ซึ่งบริษัทจะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีต่อไป เพื่อให้ได้บริการโดรนส่งสินค้าที่สมบูรณ์เเบบยิ่งขึ้น เเละครอบคลุมถึงลูกค้าทั่วโลกในอนาคต โดยพร้อมจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ FAA และหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เพื่อให้สำเร็จตามพันธกิจของเราที่จะส่งสินค้าให้ถึงลูกค้าภายใน 30 นาที” David Carbon รองประธานธุรกิจ Prime Air ของ Amazon ระบุในเเถลงการณ์

อย่างไรก็ตาม Amazon เปิดเผยว่า ตอนนี้ฝูงบิน Prime Air ยังไม่พร้อมที่จะนำมาให้บริการจัดส่งพัสดุขนาดต่างๆ ได้ในทันที เเต่ทางบริษัทกำลังเร่งทดสอบการบินเเละเทคโนโลยีกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างเร็วที่สุด

สำหรับบริการ Prime Air เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิก Prime ให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยปีที่ผ่านมา Amazon ได้ทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลดระยะเวลาการจัดส่งสินค้าจากสองวันเป็นหนึ่งวัน

โดย Amazon เริ่มทดสอบโดรนส่งของมาตั้งเเต่ปี 2013 ตามเป้าหมายว่าจะจัดส่งพัสดุไปถึงบ้านของลูกค้าให้ได้ภายใน 30 นาที หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งได้เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ในปี 2019 ที่สามารถขนพัสดุน้ำหนักน้อยกว่า 5 ปอนด์ ไปส่งของให้ลูกค้าได้ใน 30 นาที และสามารถบินได้ถึง 15 ไมล์

 

ที่มา : CNBC , japantoday

 

]]>
1294983
Jeff Bezos เจ้าพ่อ Amazon ขายหุ้น 1 ล้านหุ้น ท่ามกลางกระเเส “ผูกขาด” ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ https://positioningmag.com/1291383 Thu, 06 Aug 2020 12:18:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1291383 Jeff Bezos ซีอีโอของยักษ์ค้าปลีก Amazon มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก แจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ว่าได้ขายหุ้นของบริษัท จำนวน 1 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 3.1 พันล้านเหรียญ (ราว 9.6 หมื่นล้านบาท) หลังถูกวิจารณ์ว่าผูกขาดในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 

โดยการขายหุ้นครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนเทรดหุ้นที่กำหนดขึ้นโดย SEC ซึ่งอนุญาตให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สามารถขายหุ้นล่วงหน้า เพื่อป้องกันการเกิดข่าวลือจากพวกวงใน

ก่อนหน้านี้ Bezos ได้ขายหุ้น Amazon ไปแล้วเป็นมูลค่า 4.1 พันล้านเหรียญ ทำให้ตั้งเเต่ต้นปีนี้ เขาขายหุ้นไปแล้วเป็นเงินสูงถึง 7.2 พันล้านเหรียญ

เเต่ก็ถือเป็นเเค่เสี้ยวหนึ่งของทั้งหมดเท่านั้น เพราะผู้ก่อตั้ง Amazon ยังคงถือหุ้นใหญ่ในบริษัทอยู่กว่า 54 ล้านหุ้น มูลค่ารวมกว่า 1.7 แสนล้านเหรียญ ทำให้เขายังเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกต่อไป เเละยิ่งรวยขึ้นไปอีกจากอานิสงส์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่บูมขึ้นในช่วงวิกฤต COVID-19

โดย Amazon เผยประกอบการในไตรมาสที่ 2/2020 เมื่อช่วงเดือน ก..ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 8.8 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากในไตรมาส 1/2020 ซึ่งอยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านเหรียญ เเละหุ้นของ Amazon มีราคาเพิ่มขึ้นมากถึง 73% ในปีนี้ ตามรายงานของ Bloomberg

(Photo by Sean Gallup/Getty Images)

มหาเศรษฐีรวยที่สุดในโลก เคยบอกว่า เขามีแผนจะขายหุ้นทุกปี เป็นมูลค่าปีละ 1 พันล้านเหรียญ เพื่อนำเงินไปลงทุนใน Blue Origin บริษัทด้านการพัฒนาจรวดและการขนส่งอวกาศที่เขาก่อตั้งขึ้น

สำหรับความเคลื่อนไหวในการเทขายหุ้นครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลัง Bezos ในฐานะผู้บริหาร Amazon พร้อมด้วยผู้บริหารของ 3 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง Facebook , Apple เเละ Alphabet ได้ขึ้นให้การกับคณะอนุกรรมาธิการด้านการต่อต้านการผูกขาดทางธุรกิจแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Bezos ถูกกล่าวหาว่า ผูกขาดในธุรกิจอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ ด้วยการครองสัดส่วนทางธุรกิจสูงถึง 75%

ในช่วงการะบาดใหญ่ มีมหาเศรษฐีระดับโลกหลายคนรวยขึ้นโดยทรัพย์สินของบรรดาอภิมหาเศรษฐีสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึง Jeff Bezos เเละ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Facebook รวมกันพุ่งทะยานกว่า 19% นับตั้งแต่ COVID-19 เข้าโจมตีอเมริกา โดยมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 5.65 เเสนล้านเหรียญ สวนทางกับคนธรรมดาทั่วไปที่เคยมียอดยื่นขอรับสวัสดิการคนว่างงานสูงสุดกว่า 42.6 ล้านคน

 

ที่มา : bloomberg, Reuters

]]>
1291383
เศรษฐีรวยสุดในโลก Jeff Bezos บริจาค 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งกองทุนสู้ปัญหาสภาพอากาศ https://positioningmag.com/1264902 Tue, 18 Feb 2020 09:58:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1264902 มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก Jeff Bezos ประกาศบริจาคเงินกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.1 แสนล้านบาท) จัดตั้งกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ชื่อว่า Bezos Earth Fund เพื่อช่วยศึกษาปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเเละภาวะโลกร้อน

Jeff Bezos ซีอีโอของบริษัทค้าปลีก Amazon และเจ้าของสื่อใหญ่อย่าง Washington Post เปิดเผยผ่าน
อินสตาเเกรมว่า “การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อโลกใบนี้”

โดยเขาพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน บริษัทขนาดใหญ่หรือเล็ก หรือหน่วยงานระดับสากลเพื่อศึกษาหนทางที่มีอยู่และหาหนทางใหม่เพื่อต่อสู้กับผลกระทบอันรุนแรงของปัญหานี้

สำหรับเงินทุนกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ก้อนนี้ จะนำไปใช้เพื่อช่วยสนับสนุนงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์
นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม และกลุ่ม NGO ซึ่งจะเริ่มอนุมัติเงินได้ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีนี้เป็นต้นไป

ปัจจุบัน Jeff Bezos มีทรัพย์สินรวมกว่า 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 4.06 ล้านล้านบาท) การบริจาคครั้งนี้ นับเป็นเงินราว 7.7% ของเขา

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีที่ติดอันดับโลกหลายคนอย่าง Warren Buffett , Bill Gate เเละ Michael Bloomberg การบริจาคของ Bezos ที่ผ่านมายังถือว่าน้อย โดยการบริจาคครั้งที่ใหญ่ที่สุดก่อนหน้านี้คือการช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากไร้เเละโรงเรียน ราว 2 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือน ก.ย. ปี 2018

Bezos ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังเขาปฎิเสธไม่เข้าร่วมโครงการ The Giving Pledge หรือพันธสัญญาที่จะมอบเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม

เมื่อปีที่เเล้ว Bezos ประกาศว่าบริษัท Amazon พร้อมจะสนับสนุนเป้าหมายของข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ให้เร็วขึ้นกว่าแผนที่วางไว้ 10 ปี รวมทั้งเพื่อบรรลุแผนทำให้โลกปลอดคาร์บอนภายในปี 2040 ใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100% ภายในปี 2030 และใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อขนส่งสินค้า 100,000 คันภายในปี 2030

อ่านเพิ่มเติม : Amazon เริ่มใช้ “รถสามล้อไฟฟ้า” ส่งสินค้าในอินเดีย ตั้งเป้าถึงหมื่นคันในปี 2025

ก่อนหน้านี้ พนักงานของ Amazon หลายคนเรียกร้องให้บริษัทมีส่วนร่วมเชิงรุกมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมายเรื่องการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ พร้อมขู่จะประท้วงหยุดงานเเละจะให้ความเห็นต่อสื่อสาธารณะด้วย

 

ที่มา : BBC , businessinsider

]]>
1264902
Amazon เริ่มใช้ “รถสามล้อไฟฟ้า” ส่งสินค้าในอินเดีย ตั้งเป้าถึงหมื่นคันในปี 2025 https://positioningmag.com/1261696 Thu, 23 Jan 2020 11:11:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1261696 Amazon ไม่หวั่นศึกอีคอมเมิร์ซในอินเดีย เดินเกมลงทุนต่อ เเม้มหาเศรษฐี Mukesh Ambani ผู้ร่ำรวยที่สุดในเอเชียจะเปิดตัว “JioMart” ลงสนามเเข่งธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ท้องถิ่น

อ่านเพิ่มเติม : ศึกเดือดอีคอมเมิร์ซ “อินเดีย” เศรษฐีผู้รวยที่สุดในเอเชีย เปิดตัว JioMart ท้าชิง Amazon

ล่าสุด Jeff Bezos ซีอีโอของ Amazon ลงพื้นที่ทัวร์อินเดียด้วยตนเอง พร้อมประกาศจะใช้ “รถส่งของพลังงานไฟฟ้า” โดยตั้งเป้าใช้มากถึง 10,000 คันภายในปี 2025 นี้

สำหรับรถส่งของไฟฟ้าของ Amazon นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระหว่างการดำเนินการจัดส่ง โดยได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตในประเทศหลายรายเพื่อออกแบบเเละผลิตขึ้นมา
ซึ่งในจำนวนรถไฟฟ้ากว่า 10,000 คันนี้จะมีทั้งรถสามล้อและสี่ล้อ

Amazon จะเริ่มทดลองใช้ “รถส่งของไฟฟ้า” ในปีนี้ที่เมืองต่างๆ ของอินเดีย 20 เมืองเช่น Delhi NCR, Bangalore, Hyderabad, Ahmedabad, Pune, Nagpur และ Coimbatore

ความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นำไปสู่เทคโนโลยีขั้นสูง ส่วนประกอบมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่ทันสมัย

Amazon ระบุว่า นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในประเทศและสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ ช่วยให้บริษัทวางวิสัยทัศน์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดียจนเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา

 

ที่มา : 10,000 Electric Vehicles in our delivery fleet by 2025

]]>
1261696