ยุคนี้ค้าปลีกต้องขยับมา “เดลิเวอรี่” ยักษ์ใหญ่ร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นอย่าง 7-Eleven รุกหนัก “บริการส่งถึงบ้าน” เน้นรวดเร็วส่งถึงใน 30 นาที ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปช่วง COVID-19 เเข่งกับอีคอมเมิร์ซใหญ่อย่าง Amazon และ Rakuten ที่ครองตลาดอยู่
ช่วงที่ผ่านมา คนไทยอาจจะคุ้นกับบริการสั่งสินค้าจากร้าน 7-Eleven มาส่งถึงหน้าบ้านกันแล้ว เเต่ในญี่ปุ่นเพิ่งจะนำร่องให้บริการอย่างจริงจัง โดยในสิ้นปีนี้ 7-Eleven จะทดลองเปิดให้บริการนี้กับ 100 สาขาในกรุงโตเกียว ก่อนจะขยายไปให้ได้ 1,000 สาขา ภายในปี 2021
7-Eleven ญี่ปุ่นจะชูจุดเด่นด้วยสินค้าที่หลากหลาย เเละตั้งเป้าจะ “จัดส่งเร็วที่สุดใน 30 นาที” เพื่อท้าทายคู่เเข่งสำคัญอย่าง Amazon Japan
บริการจัดส่งถึงบ้าน ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมากในช่วงการเเพร่ระบาดของ COVID-19 โดย 7-Eleven เเละเครือข่ายร้านสะดวกซื้อต่างๆมองว่าเป็นหนทางใหม่ที่จะพาธุรกิจเติบโตต่อไปได้ ในสังคมที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก
ปัจจุบัน 7-Eleven มีสาขากว่า 50,000 ร้านค้าในญี่ปุ่น กำลังเผชิญความท้าทายจากยอดขายที่ลดลง ซึ่งสร้างความกังวลให้กับผู้ที่อยู่ในตลาดมูลค่า 12 ล้านล้านเยน (ราว 3.5 ล้านล้านบาท) ไม่น้อย
ท่ามกลางจุด “อิ่มตัว” ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เทรนด์การซื้อของออนไลน์กำลังก้าวเข้ามาครองใจชาวญี่ปุ่น โดยมีเจ้าใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon และ Rakuten เป็นผู้ครองตลาด ทำให้ร้านสะดวกซื้อดั้งเดิมอย่าง 7-Eleven จึงต้องปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับเทคโนโลยีออนไลน์ เพื่อสู้กับคู่เเข่งในตลาดอีคอมเมิร์ซ
สำหรับบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านของ 7-Eleven จะเน้นไปที่การนำเสนอสินค้ากว่า 3,000 รายการ ทั้งอาหารและของใช้ประจำวันที่วางขายในสาขา ให้สามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ได้ เบื้องต้นจะดำเนินการส่งให้ได้ในช่วง 2 ชั่วโมง อนาคตจะส่งให้เร็วที่สุดใน 30 นาที ซึ่งจะจัดส่งโดยบริษัทโลจิสติกส์ของ Seino Holdings
ปกติการสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะส่งเร็วที่สุดในวันถัดไป และจะสิ้นสุดในเวลา 21.00 น. นี่จึงเป็นโอกาสของ 7-Eleven จะสร้างความได้เปรียบกว่าอีคอมเมิร์ซเจ้าอื่น ด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วกว่า ใกล้บ้านกว่า และรับคำสั่งซื้อจนถึงช่วงดึกได้
โดย 7-Eleven ได้เริ่มทดสอบบริการใหม่ดังกล่าวกับสาขา 39 แห่งในโตเกียว เปิดรับคำสั่งซื้อทางออนไลน์ในช่วงเวลา 09.00-22.00 น. สำหรับการจัดส่งไปยังสถานที่ในรัศมี 500 เมตรจากร้านค้า เบื้องต้นจะคิดค่าธรรมเนียมการจัดส่งระหว่าง 110-550 เยน ตามช่วงเวลาของวัน เเละจะส่งฟรีสำหรับการสั่งซื้อตั้งแต่ 3,000 เยนขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขอื่นๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 7-Eleven ก็ยังคงมีความท้าทายเรื่องการขาดเเคลนเเรงงานอย่างหนักด้วย
ด้านบรรดาร้านสะดวกซื้ออื่น ๆ ในญี่ปุ่นอย่าง Lawson ก็ได้เริ่มจัดส่งอาหารถึงบ้านโดยใช้บริการ Uber Eats เเล้ว
ที่ผ่านมา Seven & i Holdings ซึ่งเป็นบริษัท แม่ของ 7-Eleven มีความพยายามจะเปิดคำสั่งซื้อทางออนไลน์ที่ให้ลูกค้าสามารถไปรับของได้ที่สาขา เเต่บริการดังกล่าวไม่ได้รับความนิยมมากนัก จนกระทั่งเกิดวิกฤต COVID-19 ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของกินของใช้ จากร้านสะดวกซื้อทางออนไลน์มากขึ้นในชีวิตประจำวัน
ที่มา : Nikkei Asian Review