Tag: โอมิครอน
“จีน” เริ่มปฏิบัติการ “ล็อกดาวน์” ระลอกใหม่ หลังโอมิครอนพังกำแพง Zero-Covid สำเร็จ
“จีน” เป็นหนึ่งในประเทศที่ยังยกการ์ดสูงตามนโยบาย Zero-Covid เคสผู้ติดเชื้อต้องเป็นศูนย์ แต่ล่าสุดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งแพร่ระบาดได้เร็ว ทำให้จีนมีเคสผู้ติดเชื้อภายในประเทศสูงที่สุดในรอบ 2 ปี รัฐบาลสั่ง “ล็อกดาวน์” หลายเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึง “เซี่ยงไฮ้” ซึ่งเป็นมหานครขนาดใหญ่
รัฐบาลอังกฤษ เตรียมยกเลิกมาตรการคุมโควิดทั้งหมด ผู้ติดเชื้อไม่บังคับกักตัว
‘นายกอังกฤษ’ เตรียมยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ทั้งหมด รวมไปถึงผู้ที่ติดเชื้อจะไม่ถูกบังคับให้กักตัว ตามแผนการอยู่ร่วมกับโควิด โดยจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
‘บอริส จอห์นสัน’ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุถึงการจะยกเลิกมาตรการทางกฎหมายเพื่อควบคุมโควิดทั้งหมด โดยจะทำให้ประชาชนต้องป้องกันตัวเอง โดยไม่มีกฎหมายมาจำกัดเสรีภาพอีกต่อไป
“โควิดจะไม่หายไปในทันที เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับไวรัสนี้ และป้องกันตัวเองต่อไปโดยไม่จำกัดเสรีภาพของเรา”
เมื่อปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา อังกฤษได้เริ่มทยอยยกเลิกมาตรการ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิดหลายอย่าง โดยปลดล็อกมาตรการต่างๆ เช่น ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ปิด เเละไม่จำเป็นต้องใช้ ’วัคซีนพาสปอร์ต’ ในการเข้าใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ อีกต่อไป ขณะที่ผู้โดยสารที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะ...
‘WHO’ ย้ำโควิดจะไม่มีวันเป็น ‘โรคประจำถิ่น’ โดยจะยังคงสถานะ ‘โรคระบาด’ เสมอ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าเชื้อโควิดรุ่นต่อไปหรือ BA.2 จะติดต่อได้ง่ายกว่าโอมิครอน (Omicron : BA.1) โดยตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่าการแพร่ระบาดมีจำนวนผู้ป่วยโรคเพิ่มขึ้นเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย WHO ได้ออกมาย้ำว่า COVID-19 จะไม่กลายเป็นโรคประจำถิ่น (endemic one) และจะยังเป็นโรคระบาด (epidemic virus)
สหรัฐฯ พบ เชื้อโควิด ‘BA.2’ สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน ระบาดไวกว่าเดิม ‘1.5 เท่า’
ผู้ติดเชื้อ COVID-19 เกือบครึ่งหนึ่งในสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่าติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน (BA.1) ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าเดิม 1.5 เท่า แต่เท่าที่ค้นพบ BA.2 ยังไม่มีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีน
‘twindemic’ การกลับมาของไข้หวัดใหญ่ในยุโรป กับโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อ
‘ไข้หวัดใหญ่’ คัมเเบ็กกลับมาระบาดหนักในยุโรปด้วยอัตราที่เร็วกว่าที่คาดในช่วงฤดูหนาว สร้างความกังวลว่าจะต้องเผชิญกับ ‘twindemic’ การแพร่ระบาดของโรคแบบทวีคูณที่ยาวนานกว่าปกติ เมื่อโควิดยังยืดเยื้อเเละไข้หวัดใหญ่ก็กลับมาอีกครั้ง
การล็อกดาวน์ สวมหน้ากาก และการเว้นระยะห่างทางสังคม กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในยุโรป ท่ามกลางการระบาดของช่วงโควิด-19 ทำให้ ‘ไข้หวัดใหญ่’ ที่มักจะมาในช่วงฤดูหนาวแทบไม่มีการระบาดเลยในปีก่อน
โดยไวรัสไข้หวัดใหญ่มีอัตราการคร่าชีวิตผู้คนไปทั่วโลกกว่า 650,000 คนต่อปีตามตัวเลขของสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปีนี้ต่างออกไป เมื่อประเทศต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ลง หลังมีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลาย
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา ไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้กลับมาแพร่ระบาดในยุโรปในอัตราสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้...
‘WHO’ เตือน ‘โอมิครอน’ ไม่ใช่สายพันธุ์สุดท้าย หลังผู้ติดเชื้อเพิ่ม 20% ในสัปดาห์เดียว
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาพูดถึงการระบาดใหญ่ว่าจะไม่สิ้นสุด เนื่องจากการติดเชื้อในระดับสูงทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่สายพันธุ์ใหม่เมื่อไวรัสกลายพันธุ์ แม้ว่าการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) จะเริ่มดีขึ้นในบางประเทศ
‘WHO’ คาด ประชากรยุโรป 50% จะติด ‘โอมิครอน’ ในอีก 2 เดือน
Dr. Hans Kluge ผู้อำนวยการ WHO ประจำภูมิภาคยุโรป อ้างข้อมูลจาก Institute for Health Metrics and Evaluation ในซีแอตเทิล ว่า ประชากรมากกว่า 50% ในยุโรปจะติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่แพร่ระบาดในวงกว้างในช่วงสองเดือนข้างหน้า ขณะที่เอเชียกลางจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน
‘AirAsia’ ฟัน ‘โอมิครอน’ ก็หยุดการเดินทางไม่ได้ คาดตลาดกลับสู่ก่อนการระบาดภายใน 6 เดือนหลังพรมแดนเปิด
ตั้งเเต่มีวัคซีนป้องกัน COVID-19 อุตสาหกรรมการบินก็เหมือนจะกลับมาสดใสอีกครั้ง แต่ก็สดใสได้ไม่นานโลกก็เจอกับ COVID-19 สายพันธุ์ โอมิครอน (Omicron) ที่ปัจจุบันแทบจะแทนที่สายพันธุ์เดลตา (Delta) ที่เคยเป็นสายพันธุ์หลักไปก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม CEO ของ AirAsia (แอร์เอเชีย) ก็มองว่าอุตสาหกรรมการบินจะยังไปได้ แม้โอมิครอนจะระบาดก็ตาม
“จีน” ปูพรมตรวจชาวเทียนจิน 14 ล้านคน หลังพบผู้ติด “โอมิครอน” เพิ่มขึ้นกว่า 20 คน
เมืองเทียนจินแนะประชาชนเกือบ 14 ล้านคนกักตัวอยู่บ้านระหว่างที่ทางการทำการตรวจโควิดครั้งใหญ่ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ซึ่งในจำนวนนี้มีสองคนที่ติดโอมิครอน
ทิศทางธุรกิจร้านอาหาร มีหวัง ‘ฟื้นตัว’ ปี 65 เเต่ต้องระวังโอมิครอน-ต้นทุนวัตถุดิบพุ่งสูง
ธุรกิจอาหารเมืองไทย มีหวังพลิกกลับมาฟื้นตัว 5.0% - 9.9% ในปีนี้ เเต่ยังโตกระจุกเฉพาะประเภท ร้านมีชื่อเสียง ขายในห้างฯ จะเริ่มฟื้นตัวก่อน สตรีทฟู้ดเเข่งดุ เจ้าใหญ่กระโจนลงตลาดเพียบ การระบาดของโอมิครอน-ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่เเพงขึ้น ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ
แนวโน้ม ‘ธุรกิจร้านอาหาร’ ในปี 2565 ยังเป็นปีที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากตลาดยังมีปัจจัยเสี่ยงของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และสายพันธุ์อื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่กลับมาฟื้นตัวดี
เเต่ก็ยังคงมี ‘ปัจจัยบวก’ จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค...