Arthur Cheong ผู้ก่อตั้ง DeFiance Capital กองทุนคริปโตเคอร์เรนซีในสิงคโปร์ และเพิ่งตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมไซเบอร์เมื่อไม่นานมานี้ เตือนว่า บริษัทคริปโตฯ ทั้งหลายต้องเพิ่มความระมัดระวังในการทำงานทางไกลเป็นพิเศษ เเละควรมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานสำหรับการทำธุรกรรมคริปโตฯ โดยเฉพาะ พร้อมเพิกถอนการอนุมัติโทเคนที่ไม่จำเป็น

“เป็นเรื่องสำคัญที่อุตสาหกรรมนี้จะต้องตระหนักว่า เรากำลังตกเป็นเป้าหมายขององค์กรอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ซึ่งมีไหวพริบและความซับซ้อนอย่างมาก” Cheong โพสต์ใน Twitter

มีรายงานว่าเกาหลีเหนือ มีความเคลื่อนไหวด้านการเพิ่มการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ‘Lazarus’ กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ เป็นผู้จารกรรมเงินคริปโตฯ มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ จากบล็อกเชนโรนิน บริดจ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ให้บริการเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง ‘Axie Infinity’ 

Bloomberg ระบุว่า อาชญากรรมไซเบอร์ เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ ที่กำลังดิ้นรนจากภาวะตกต่ำ หลังได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรจากนานาชาติกับการเดินหน้าทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

• เกม ‘Axie Infinity’ ถูกแฮ็กเกอร์ขโมย Crypto มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์!
• IMF เปิดรายงาน ประเทศที่มีการคอร์รัปชันสูง มักนิยมเทรดคริปโตฯ มาก

ที่มา : Bloomberg 

โดยก่อนหน้านี้ Binance ได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบมาเเล้วจากบาห์เรนและดูไบมาเเล้ว

ซึ่งการอนุมัติตามหลักการจาก Abu Dhabi Global Market (ADGM) ครั้งนี้ จะทำให้ Binance สามารถดำเนินการเป็น ’นายหน้า–ตัวแทนจำหน่าย’ ในสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ได้ เเละคาดว่าต่อไปจะสามารถดำเนินการในฐานะบริษัทที่ได้รับอนุญาตอย่างเต็มที่

ADGM ยังแสดงเจตจำนงที่จะให้การอนุมัติด้านกฎระเบียบที่คล้ายคลึงกันกับบริษัทท้องถิ่นและบริษัทด้านคริปโตเคอร์เรนซี่ระดับโลกอื่นๆ เพื่อทำให้อาบูดาบีเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์เสมือนและเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

โดย Dhaher bin Dhaher ซีอีโอของ ADGM เเสดงความยินดีกับการออกใบอนุญาติดังกล่าว เเละสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือ Binance ในการที่จะพยายามจัดตั้งสาขาของบริษัทในกรุงอาบูดาบีด้วย

ที่ผ่านมา Binance มีการดำเนินงานโดยอิสระจากกฎระเบียบในท้องถิ่น เเต่อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก บริษัทจึงเริ่มเปลี่ยนแนวทางมาประนีประนอมมากขึ้น

นอกจาก Binance แล้ว แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังอีกเจ้าอย่าง FTX ก็เพิ่งได้รับใบอนุญาตในการดำเนินงานในดูไบ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ กำลังสนใจที่จะเข้ามาทำธุรกิจในตะวันออกกลางมากขึ้น หลังภูมิภาคนี้เริ่มลดมาตรการควบคุมลงเเละเปิดประตูรับกระเเสคริปโตเคอร์เรนซี

• ลือ! ‘Meta’ เล็งออกคริปโตชื่อ ‘Zuck Bucks’ สำหรับใช้ใน ‘Metaverse’ และ ‘ปล่อยกู้’
• ‘สหราชอาณาจักร’ ปักเป้าเป็น ‘ผู้นำโลกคริปโต’ พร้อมเตรียมสร้าง NFT ของตัวเอง
• ผลสำรวจเผย ผู้ครอบครอง ‘คริปโต’ เกือบครึ่ง เพิ่งเข้าซื้อ ‘ครั้งแรก’ ในปี 2021

ที่มา : CNBC , cointelegraph 

Bloomberg รายงานว่า เทมาเส็ก พร้อมทีมผู้ถือหุ้นเดิมอย่าง Sequoia China , Pantera Capital และ Tiger Global Management ได้ร่วมระดมเงินลงทุนมูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.4 พันล้านบาท) ให้กับ Amber Group

Amber Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยกลุ่มอดีตพนักงานจาก Morgan Stanley มีมูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้น ‘สามเท่า’ ตั้งแต่กลางปี ​​2021 ขึ้นเป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น หลังระดมทุนซีรีส์ B ซึ่งได้รับเงินทุน 100 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทถูกประเมินมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านดอลลาร์

สิงคโปร์ นับเป็นหนึ่งในตลาดสตาร์ทอัพด้านคริปโตเคอร์เรนซีที่โดดเด่นที่สุดของเอเชีย โดยเทมาเส็กและบริษัทในเครือได้เริ่มเข้าลงทุนในภาคธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา

หลังได้รับเงินทุนก้อนใหญ่ Amber Group มีเเผนจะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ เพิ่มการจ้างงานในยุโรปและอเมริกา เข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์และขยายตลาดของแอปพลิเคชันที่เปิดตัวทั่วโลกไปเมื่อปีที่แล้ว

Michael Wu ซีอีโอของ Amber เปิดเผยว่า “จะมีการระดมทุนอีกรอบในช่วงปลายปีนี้ ก่อนจะเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ที่น่าจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดในครึ่งหลังของปี 2023 โดยมีแนวโน้มว่าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ” 

การร่วมลงทุนในคริปโตฯ ของเทมาเส็ก รอบล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากที่ ทางการสิงคโปร์พยายามปราบปรามการเก็งกำไรในคริปโตฯ เเต่ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการเข้ามามีส่วนร่วมของนักลงทุนสถาบัน

ในเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสิงคโปร์ แจ้งให้บริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมคริปโตฯ ให้ลดการทำการตลาดต่อสาธารณชนทั่วไป เนื่องจากโทเคนดิจิทัล มีความเสี่ยงเเละความผันผวนสูง

ทั้งนี้ มีบริษัทกว่า 180 แห่งได้ยื่นขอใบอนุญาตเพื่อดำเนินธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซีในสิงคโปร์ เเต่มีเพียง 5 บริษัทเท่านั้นที่ได้รับการอนุมัติ

• เทรนด์นี้มาเเรง พนักงานทั่วโลก เลือกรับค่าจ้างเป็น ‘คริปโต’ มากขึ้น
• รู้จัก “ลูกบาศก์ทังสเตน” ของสะสมเศรษฐีคริปโต เมื่อมนุษย์ยังโหยหาสิ่งที่จับต้องได้

ที่มา : Bloomberg , Forkast