Remote Working – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 14 Jun 2021 11:40:44 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ชาวอเมริกัน ‘ลาออก’ มากสุดในรอบ 20 ปี หมดไฟ-เครียด-เริ่มทบทวนชีวิต ฉุกคิด ‘หางานใหม่’ https://positioningmag.com/1336827 Mon, 14 Jun 2021 11:27:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1336827 ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ยอดว่างงานพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ในอีกมุมหนึ่งก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อย ตัดสินใจลาออกจากงานด้วยตนเอง ส่วนหนึ่งมาจากความตึงเครียด ภาวะหมดไฟในการทำงาน ได้ทบทวนชีวิตเเละเริ่มฉุกคิดใหม่เรื่อง ‘career path’ 

The Wall Street Journal นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจว่า ชาวอเมริกันมีอัตราการลาออกจากงานสูงสุดในรอบ 20 ปี นับเป็นความท้าทายใหม่ของภาคธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า อัตราการลาออกจากงานของชาวอเมริกันในเดือนเม.. อยู่ที่ 2.7% หรือราว 4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2000

จำนวนผู้ที่ลาออกจากงานปรับตัวสูงขึ้น หลังช่วงวิกฤตโรคระบาด เมื่อคนจำนวนมากต้องการความมั่นคงในหน้าที่การงาน ขณะที่ต้องเผชิญกับวิกฤตสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศ”

เทรนด์การเปลี่ยนงานเเละเปลี่ยนอาชีพใหม่ กระตุ้นให้นายจ้างต้องขึ้นค่าแรงและเสนอการเลื่อนตำแหน่ง เพื่อรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้ โดยความต้องการที่จะเปลี่ยนงานใหม่ ชี้ให้เห็นถึงความหวังเพื่อหาโอกาสที่ดีกว่าแม้ว่าจะมีอัตราว่างงานจะสูงขึ้นก็ตาม

เมื่ออัตราการเลิกจ้างสูง ก็ทำให้นายจ้างต้องเสียต้นทุนมากขึ้นเช่นกัน จากการที่ธุรกิจต้องหยุดชะงักลง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ด้านแรงงาน ให้ความเห็นว่า การลาออกส่งสัญญาณว่า ตลาดเเรงงานเริ่มเเข็งเเกร่งขึ้น เนื่องจากผู้คนหันมาสนใจหางานที่เหมาะกับทักษะ ความสนใจของตัวเอง และต้องการมีชีวิตส่วนตัวมากขึ้น

(Photo : Shutterstock)

ยิ่งในปัจจุบันมีหลายปัจจัยส่งเสริมให้มีการ ‘เปลี่ยนงาน’ บ่อยขึ้น ประชาชนจำนวนมากปฏิเสธที่จะกลับมาทำงานตามปกติในระบบเดิม เเละลังเลที่จะทำงานในออฟฟิศเหมือนก่อนช่วงก่อนโรคระบาด แต่พวกเขามีเเนวโน้มจะเลือกทำงานทางไกลที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า

ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงาน เริ่มมองเห็นถึงกระเเสการลาออกนี้ จากสำรวจความเห็นพนักงาน 2,000 คนในช่วงเดือนมีนาคมโดย Prudential Financial พบว่า พนักงานกว่า 1 ใน 4 วางแผนหางานใหม่กับนายจ้างรายอื่นในเร็วๆ นี้

หลายคนตกอยู่ในภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) เนื่องจากภาระงานที่เพิ่มขึ้นและความตึงเครียดจากโควิด-19 ขณะที่บางคนต้องมองหาค่าจ้างที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยการสูญเสียงานของคู่สมรส หรือใช้ช่วงเวลาในปีที่ผ่านมาเพื่อคิดพิจารณาถึงเส้นทางอาชีพและการเปลี่ยนงานใหม่

จากความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนที่รวดเร็วในสหรัฐฯ เเละมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคดีขึ้น ทำให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาฟื้นตัวเร็วขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะงานในภาคการผลิตเเละภาคบริการ จนหลายบริษัทต้องเเย่งชิงเเรงงาน จัดโปรโมชันต่างๆ ให้ผู้สมัคร

โดยร้านอาหารและแฟรนไชส์บางแห่งในสหรัฐฯ ต้อง ‘เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ’ หรือ ‘ให้โบนัสไปจนถึงเเจกสมาร์ทโฟน เพื่อจูงใจให้คนมากลับมาทำงาน แทนการอยู่บ้านและพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

 

ที่มา : WSJ , businessinsider 

]]>
1336827
HSBC ลอง ‘Zoom-free Friday’ งดประชุมทุกวันศุกร์ ลดความเหนื่อยล้าเกินไป เมื่อต้องทำงานที่บ้าน https://positioningmag.com/1331829 Wed, 12 May 2021 11:08:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1331829 สถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง HSBC ปรับกลยุทธ์ทำงานเเบบใหม่ รับเทรนด์ Remote Working ทดลอง Zoom-free Fridayงดประชุมออนไลน์ทุกวันศุกร์เพื่อลดความเครียด ความเหนื่อยล้าเกินไปของพนักงานที่ต้องทำงานจากบ้าน

การมาของโควิด-19 ทำให้หลายองค์กรต้องเปลี่ยนรูปเเบบการทำงาน ลดการใช้ออฟฟิศเเละหันมาประชุมออนไลน์มากขึ้น

HSBC ก็เตรียมลดขนาดพื้นที่สำนักงานลงกว่า 40% ภายหลังการระบาดใหญ่ พร้อมด้วยแผนการลดต้นทุนที่จะปลดพนักงานลงถึง 35,000 ตำเเหน่ง

สำหรับโครงการ Zoom-free Friday งดประชุมออนไลน์ทุกวันศุกร์โดยเฉพาะช่วงบ่ายนั้น จะเริ่มใช้กับพนักงานบางส่วนในสหราชอาณาจักรก่อน เเละให้พนักงานสามารถเอาช่วงเวลานั้นไปทำงานอย่างอื่นได้

ความสำคัญของ Work-life balance ในองค์กร ถูกจุดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ Jonathan Frostick พนักงานระดับผู้จัดการ วัย 45 ปีของ HSBC ทำงานหนักจนป่วยเป็นโรคหัวใจวาย เเละต้องเข้าโรงพยาบาลเเบบกะทันหัน

เขาได้เเชร์เรื่องราวลงใน LinkedIn ส่วนตัว ถึงความเหนื่อยล้าจากการประชุมที่มากเกินไป คิดถึงเเต่เรื่องงานอยู่ตลอดเวลา ขณะที่พักรักษาตัวอยู่นั้น เขาก็คิดขึ้นได้ว่าต่อไปนี้ ฉันจะไม่ใช้เวลาทั้งวันไปกับ Zoom อีกต่อไป

โดยโพสต์ดังกล่าว มีผู้คนมาร่วมเเสดงความคิดเห็นกว่า 11,000 คอมเมนต์ ผู้ใช้เเพลตฟอร์มคนหนึ่ง ระบุว่าบริษัทต่างๆ กดดันให้พนักงานทำงานเกินขีดจำกัด โดยไม่คำนึงถึงความเป็นอยู่เเละชีวิตส่วนตัว

Photo : Shutterstock

การเเพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องถูกจำกัดการเดินทาง หลายบริษัทงดให้พนักงานเดินทางมาที่ออฟฟิศ เเละให้ทำงานเเบบ Remote Working จากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ ในเเต่ละวันเเพลตฟอร์มประชุมออนไลน์อย่าง Zoom , Microsoft Teams , Google Meet ฯลฯ จึงกลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญให้พนักงานสามารถพบปะกันเเละสื่อสารงานต่างๆ ได้

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งก็ทำให้เกิด ‘Zoom fatigue’ หรือความเหนื่อยล้าจากการประชุมผ่าน Zoom โดยพบว่าพนักงานจำนวนมากมีความกังวลเพิ่มขึ้น เมื่อการงานได้รุกล้ำชีวิตส่วนตัวภายในบ้าน

เเม้เเต่ ‘อีริค หยวน’ ผู้ก่อตั้งเเพลตฟอร์ม Zoom ก็เปิดใจว่า เขาเองก็รู้สึกเหนื่อยจากประชุมออนไลน์ที่ไม่มีกำหนดเวลาเเละมากเกินไป

ก่อนหน้านี้ Citibank ได้ออกนโยบาย ‘ห้ามประชุมทุกวันศุกร์’ เพราะความไม่ชัดเจนของเส้นแบ่งระหว่างที่บ้านกับที่ทำงาน รวมถึงบริษัทหลายแห่งก็มีนโยบาย ‘จำกัดเวลาประชุมออนไลน์’ ออกมาเช่นเดียวกัน

ด้านทางเลือกการทำงานเเบบ ‘ไฮบริด’ ออฟฟิศผสมออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย อย่าง KPMG บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบัญชี ก็อนุญาตให้พนักงานกว่า 16,000 คน สามารถ ‘เลิกก่อนเวลา’ ได้หนึ่งวันต่อสัปดาห์

 

ที่มา : BBC , Telegraph

]]>
1331829
Zoom ดาวรุ่งจากโควิด ยอดขายพุ่ง 326% มองปีนี้โตได้อีก ‘ทำงานที่ไหนก็ได้’ คือเทรนด์เเห่งอนาคต https://positioningmag.com/1321639 Wed, 03 Mar 2021 06:20:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1321639 เเอปพลิเคชันวิดีโอคอล ‘Zoom’ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เเจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม ในช่วงวิกฤตโรคระบาด เมื่อผู้คนต้องทำงานทางไกล เเละเรียนออนไลน์ในช่วงล็อกดาวน์ กลายเป็นหนึ่งในวิถีชีวิตใหม่ที่จะดำเนินต่อไปเเม้ผ่านพ้น COVID-19

โดยในปี 2020 บริษัททำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 326% สู่ระดับ 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีผลกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 671.5 ล้านดอลลาร์ จากเพียง 21.7 ล้านดอลลาร์ในปี 2019 หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 เท่า

Zoom Video Communications Inc. เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 4/2020 (..2020 – ..2021) มีรายได้อยู่ที่ 882.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 369% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 69.7% เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 3/2020 ซึ่งอยู่ที่ 66.7%

‘Zoom’ ดังเป็นพลุเเตกชั่วข้ามคืน กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่หลายองค์กรเลือกใช้สำหรับสื่อสารทางไกลระหว่างการทำงาน ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้

นผีที่ผ่านมา การเเข่งขันเพื่อชิงตลาดของแอปพลิเคชันประชุมทางไกล เรียกได้ว่าถึงขั้นดุเดือดเมื่อ Zoom ต้องเจอคู่แข่งรายใหญ่ที่ก่อตั้งมานานอย่าง WebEx ของ Cisco, Google Hangouts และ Microsoft Teams 

อีริค หยวนผู้ก่อตั้ง Zoom ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง Zoom บอกว่า ตัวเลขยอดขายไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก นับเป็นปีที่มีสิ่งที่คาดไม่ถึง เกิดขึ้นมากมาย

เเม้ตอนนี้สถานการณ์โรคระบาดจะกลับดีมาดีขึ้น เเละมีการกระจายวัคซีนทั่วโลก เเต่เขาเชื่อว่า Zoom จะเติบโตได้ต่อเนื่อง ถึงจะไม่พุ่งเท่ากับปีก่อนก็ตาม การทำงานของ Zoom เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

อีริคมองว่าการ ‘ทำงานที่ไหนก็ได้’ เเบบ Remote Working จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเทรนด์เเห่งอนาคต และแพลตฟอร์มของบริษัทจะยังคงตอบสนองกับเทรนด์นี้ เเละเตรียมความพร้อมให้กับผู้ใช้บริการต่อไป

โดยในปี 2021 บริษัทตั้งเป้าจะเติบโตมากกว่า 40% เพื่อทำยอดขายให้เเตะระดับ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้อัตราการเติบโตจะไม่มากเท่ากับปี 2020 ที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ เเต่เชื่อว่าจะเป็นการเติบโตที่มั่นคงเเละยั่งยืนมากขึ้น

ต้องติดตามดูว่า Zoom จะมีกลยุทธ์เเละฟีเจอร์ใหม่ๆ อะไรออกมาดึงดูดลูกค้าในปีนี้ เมื่อผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ พร้อมๆ กับที่บริษัทเทคเจ้าใหญ่ต่างเร่งเครื่องพัฒนาเเพลตฟอร์มวิดีโอคอล เพื่อเเข่งขันในตลาดนี้อย่างเต็มรูปเเบบ

 

]]>
1321639