เฮย์ กรุ๊ป คาดการณ์ ปี 2551 อัตราเงินเดือนของไทยจะเพิ่มร้อยละ 7

กรุ๊ป คาดการณ์ว่าอัตราเงินเดือนของประเทศไทยในปี 2551 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 โดยเฉลี่ย เทียบกับร้อยละ 6.9 ในปี 2550 เงินบาทที่แข็งค่าจะทำให้อัตราเงินเดือนในภาคการผลิตเพิ่มสูงขึ้นเพียงร้อยละ 5.6 ต่อไป ขณะที่พนักงานของบริษัทน้ำมันและก๊าซอัตราเงินเดือนจะสูงขึ้นร้อยละ 8.5

เฮย์ กรุ๊ป บริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจระดับโลกที่มีสำนักงาน 88 แห่งใน 47 ประเทศ ได้ทำการสำรวจบริษัท 117 แห่งในประเทศไทยที่มีการจ้างงานถึงเกือบ 100,000 ตำแหน่ง การสำรวจเพื่อคาดการณ์นี้มีขึ้นระหว่างเดือนกันยายนปี 2549ถึงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยบริษัทต่างๆ มาจากภาคธุรกิจชั้นนำ 9 ประเภท และมีขนาดตั้งแต่พนักงานน้อยกว่า 50 คนไปจนถึงมากกว่า 2,000 คน ร้อยละ 80 ของบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทต่างชาติ และร้อยละ 20 เป็นบริษัทชั้นนำของไทย อย่างไรก็ตาม การสำรวจนี้ไม่ได้รวมภาครัฐไว้ด้วย

ผู้บริหารของเฮย์ กรุ๊ป ได้เปิดเผยผลการคาดการณ์นี้ต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้บริหารที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 100 คนในระหว่างการประชุม Hay Group Reward Information Services Annual Forum ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน

นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่าย Reward Information Services ของเฮย์ กรุ๊ป กล่าวต่อผู้เข้ารับฟังว่า ช่องว่างของค่าตอบแทนระหว่างผู้ใช้แรงงานกับผู้บริหารกำลังเพิ่มมากขึ้น อัตราเงินเดือนของผู้ใช้แรงงานคาดว่าจะสูงขึ้นร้อยละ 6.7 ในปี 2551 เทียบกับร้อยละ 7.1 สำหรับผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงมีปัญหาในการลดช่องว่างของค่าตอบแทนระหว่างผู้ใช้แรงงานกับผู้บริหาร

นายบุญเลิศได้กล่าวต่อผู้เข้ารับฟังว่า มีความเป็นไปได้ที่ GDP ของประเทศไทยจะดีดตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 4.8 ในปี 2551 จากเดิมที่ร้อยละ 4.5 และอัตราเงินเฟ้อจะคงตัวอยู่ที่ร้อยละ 2 ส่วนอัตราการว่างงานจะลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 1.7 เป็นร้อยละ 1.6 รายงานฉบับนี้คาดการณ์ว่าอัตราการแลกเปลี่ยนเงินบาทจะเปลี่ยนจาก 34.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 2550 เป็น 33.6 บาทในปีหน้า ซึ่งสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นสำหรับภาคการส่งออก

ภาคธุรกิจบางภาคจะมีผลกำไรดีขึ้นเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ ธุรกิจบริการทางการเงินและธุรกิจน้ำมันและก๊าซค่อนข้างจะมีรายได้ดีขึ้น อุตสาหกรรมการผลิตและค้าปลีกจะอยู่ในอันดับถัดมา รายงานฉบับนี้คาดการณ์ว่าฐานเงินเดือนจะสูงขึ้นร้อยละ 8.5 ในธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ร้อยละ 7.4 ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 6.4 ในธุรกิจค้าปลีก ร้อยละ 6 ในธุรกิจเคมีภัณฑ์ และเพียงร้อยละ 5 ในอุตสาหกรรมการผลิต

“เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ภาคการส่งออกของอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยอ่อนแอลง และภาคธุรกิจค้าปลีกก็ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงในปีนี้” นายบุญเลิศกล่าว

ขณะที่อัตราเงินเดือนจะสูงขึ้นในปี 2551 แต่การจ่ายเงินโบนัสคาดว่าจะลดลงเหลือ 2.6 เดือนจาก 2.8 เดือนในปี 2550 และ 3.3 เดือน ซึ่งสูงมากในปี 2549

จากข้อมูลในปี 2550 ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลพยายามมากขึ้นที่จะรักษาพนักงานไว้ อัตราการลาออกของพนักงานในปีนี้สูงขึ้นเป็นร้อยละ 9.3 เทียบกับร้อยละ 7.9 ในปี 2549 ในปีนี้ธุรกิจค้าปลีกมีอัตราการลาออกของพนักงานที่ร้อยละ 16.6 ซึ่งเกือบเป็นสองเท่าของร้อยละ 9.5 ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจน้ำมันและก๊าซ (ร้อยละ 7) อุตสาหกรรมการผลิต (ร้อยละ 5.8) และธุรกิจเคมีภัณฑ์ (ร้อยละ 4.1)

สำหรับอัตราเงินเดือนเริ่มต้น การสำรวจของเฮย์ กรุ๊ปพบว่าระดับการรับพนักงานจบใหม่เข้าทำงานมีความแตกต่างในแต่ละภาค อัตราเงินเดือนเริ่มต้นสำหรับผู้มีปริญญาในประเทศไทยมีตั้งแต่ 14,268 บาทในธุรกิจธนาคาร ไปจนถึง 19,173 บาทในธุรกิจวิศวกรรม

เกี่ยวกับเฮย์ กรุ๊ป
บริษัท เฮย์ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกที่ทำงานร่วมกับผู้นำองค์กรในการผลักดันกลยุทธ์มาสู่การปฏิบัติ เราพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจูงใจพวกเขาเหล่านั้นให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ ด้วยสาขา 88 สาขาใน 47 ประเทศ เราทำงานร่วมกับลูกค้ากว่า 7,000 คนทั่วโลก ลูกค้าของเราประกอบด้วยองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนในหลากหลายอุตสาหกรรม และแน่นอนว่ามีความท้าทายทางธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป เรามุ่งเน้นการสร้างความเปลี่ยนแปลงและผลักดันให้องค์กรเหล่านั้นตระหนักถึงศักยภาพที่มีอยู่ของตนเอง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทเฮย์ กรุ๊ป โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.haygroup.com

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:

คุณบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ

ผู้จัดการฝ่ายบริการข้อมูลอัตราค่าจ้างและสวัสดิการ ประจำประเทศไทย

โทร: 02 677 7515

อีเมล์: Boonlerd_viboonkiat@haygroup.com