ยุคแห่ง Blog ไม่เพียงแต่เป็นชุมชน ที่นักข่าว นักคิด นักวิชาการ เขียนบทความได้อย่างเสรีแล้ว ยังส่งผลให้ผู้อ่านธรรมดาๆ กลายมาเป็นมาเป็นผู้สร้างสรรค์เนื้อหาจนมีแฟนคลับของตัวเอง
จุดเริ่มของพวกเขาเหล่านี้ มาจากการนำเรื่องราวที่ตัวเองสนใจมาเขียน เหมือนกับบอกเล่าให้เพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องราวเดียวกันมาอ่านกลายเป็นชุมชนย่อยๆ
บางคนก้าวไปมากกว่านั้น กลายเป็น “ดาราใน Blog” ด้วยเนื้อหาที่โดนใจ มีแฟนคลับติดตามมากมาย สร้างโอกาสใหม่ให้กับชีวิต ได้มีสังคมและโอกาสใหม่ๆ จากสังคมบนโลกออนไลน์ ยุค Web2.0 ที่ชื่อว่า “ Blog”
ชื่อจริงของ “จีราภัสร์ อริยบุรุษ” หรือชื่อเล่น “จีน” สาวอาชีพกราฟิกดีไซเนอร์คนหนึ่ง ก็คงไม่เป็นที่รู้จักนัก ต่างลิบลับกับชื่อ “จีบัน” ที่โด่งดังในโลกไซเบอร์ ณ jeban.bloggang.comบันทึกออนไลน์ที่ครองใจสาวๆตั้งแต่วัยมหาวิทยาลัยไปจนถึงวัยทำงานด้วยเรื่องราวและภาพจริงของการแต่งหน้ากับสารพัดเครื่องสำอางและอุปกรณ์ต่างๆ
ย้อนไปเมื่อราวปีเศษๆ ที่ผ่านมา จีราภัสร์พบ “วิกฤต” ในชีวิตผู้หญิง เมื่อไปรักษาสิวที่คลินิกแล้วโดนผลข้างเคียงจนหน้าเป็นรอยไหม้ไปทั่ว ต้องหาทางแต่งหน้ากลบเพื่อออกไปทำงานทุกวันๆ แต่นั่นเองเป็นจุดเริ่มแห่ง “โอกาส”
ด้วยความที่เล่นเว็บบอร์ดมานานถึง 8 ปี จีราภัสร์บอกเล่าแต่ละวันของการเรียนรู้เทคนิคการแต่งหน้าเพื่อกลบร่องรอยต่างๆ ลงเป็นกระทู้อย่างสม่ำเสมอ ผลคือ แต่ละกระทู้ขึ้นสู่กระแสนิยมใน pantip.com จนมีหลายคนแนะนำเธอว่าถ้าไม่อยากให้กระทู้หายไปตามเวลา เธอควรจะเขียน Blog ของตัวเอง
บล็อกที่จีราภัสร์เปิดขึ้น จึงมีไว้บันทึกออนไลน์ของตัวเอง และใส่สีสันกราฟิกที่อ่อนหวานเป็นผู้หญิงให้เข้ากับเรื่องราวและรูปภาพ สร้างเรตติ้งพุ่งไม่หยุดจนถึงราว 2 แสนเพจวิว (Page Viewd) ต่อเดือนในปัจจุบัน หรือแค่ปีกว่าๆ นับจากวันแรกที่เขียน
เรตติ้งระดับนี้ที่เธอทำคนเดียว ไม่แพ้เว็บไซต์ดังๆ หลายแห่งที่ทำโดยบริษัทองค์กรมากมาย และนี่คือพลังของเทคโนโลยี Blog ที่ใครก็มีโอกาสเป็นเจ้าของสื่อยอดฮิตได้
“ก็งงเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเราสวย แต่คงอยู่ที่ความกล้าเอาหน้าอุบาทว์ของตัวเองมาโชว์” จีราภัสร์ตอบเราถึงเหตุผลของความสำเร็จด้วยเสียงหัวเราะกับบุคลิกร่าเริงตามสไตล์ แต่เธอก็อธิบายเสริมอย่างจริงจังต่อไปว่า
“เราเรียนศิลปะมา สามารถเล่าขั้นตอนต่างๆ ได้ละเอียด เป็นคนชอบเล่าชอบคุยแล้ว และเว็บสอนแต่งหน้าที่เป็นภาษาไทยก็ยังไม่ค่อยมี ยิ่งถ้าเน้นแต่งเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้ายิ่งหายาก ไปอ่านเว็บเมืองนอกก็มักจะแนะนำเครื่องสำอางตัวที่ไม่มีขายในไทย”
หลายเดือนก่อน jeban.bloggang.com ของเธอ คว้ารางวัลบล็อกป๊อปปูล่าร์โหวตอันดับ 1 ปี 2006 จาก bloggang.com มาได้ โดยตัดสินจากยอดผู้เข้าชมรวมทั้งปีสูงที่สุดใน bloggang.com ของ Pantip ที่มีผู้มาเปิดบล็อกหลายหมืนคน
ด้วยตัวเลขเรตติ้งระดับเดือนละ 2 แสนครั้ง เธอเริ่มมองหาโอกาสทำเงินจากโฆษณา แต่เพราะ bloggang.com ของ Pantip นั้นห้ามผู้เขียนบล็อกแปะป้ายโฆษณา ความคิดนี้จึงต้องหยุดลง
แม้ว่าโอกาสในการโฆษณา อาจทำได้ในรูปของโฆษณาแฝงหรือ Advertorial เขียนเชียร์สินค้าเครื่องสำอางจะทำได้ แต่จีราภัสร์ปฏิเสธเด็ดขาด เพราะอาจทำให้แฟนคลับของเธอหมดศรัทธา
“การทดลองใช้ต้องมีทั้งคำชมและคำด่า” ซึ่งเธอย้ำว่าหากเธอทิ้งหลักการนี้ไปเขียนเชิงโฆษณาแฝง แฟนๆ ผู้อ่านจะดูออกและหมดศรัทธาเลิกอ่านบล็อกจีบันไปในที่สุด
“ทุกวันนี้ได้แต่ตุ๊กตาของขวัญกับจดหมายขอบคุณ” จีราภัสร์เล่าด้วยเสียงหัวเราะถึงผลตอบแทนที่บริษัทเครื่องสำอางให้เธอนอกจากของลองใช้ฟรี
ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงกำลังสร้างเว็บไซต์ใหม่ jeban.com ไว้รองรับเว็บบล็อกของเธอเองโดยเฉพาะ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องแบนเนอร์โฆษณาแบบต่างๆ ซึ่งนอกจากบล็อกแล้วจะมีระบบเสิร์ชเครื่องสำอางที่แตกต่างการเสิร์ชคำทั่วไป เช่น การเสิร์ชจากสีผิว, แต่งหน้าในโอกาสอะไร?, งบ, ฯลฯ และ จีราภัสร์ก็ได้เพื่อนจากบอร์ด Pantip มาช่วยสร้างโปรแกรมให้
ปัจจุบันเครื่องสำอางที่ส่งสินค้ามาให้จีราภัสร์ลองใช้เสมอๆ คือแบรนด์ RMK, Laura Mereier, Bobbi Brown, Suqqu, Shu Uemura
นอกจากกลุ่มนักศึกษาสาวที่เพิ่งเรียนจบ กำลังหางานทำ หรือทำงานใหม่ๆเริ่มเรียนรู้เรื่องแต่งหน้าจริงจังเป็นผู้อ่านหลัก ในกลุ่มผู้อ่านยังขยายขึ้นไปถึงบรรดาแม่บ้านและทั้งขยายลงมาคือกลุ่มวัยรุ่นที่ยังเรียนหนังสืออยู่
เป็นเวลาราวหนึ่งปีแล้วที่ทุกวันจะมีเมลจากผู้อ่านส่งมาหาเธอเรื่องแต่งหน้าวันละอย่างน้อย 2 ฉบับ
หลายๆ คนเล่าว่า นำเนื้อหาจากหน้าบล็อกของเธอแล้วถือเข้าห้างไปให้พนักงานเคาน์เตอร์หยิบสินค้าให้ตามนั้นเลยทีเดียว ต่างจากพฤติกรรมเดิมๆ ที่พนักงานขายหรือ B.A. จะมีอิทธิพลมากในการแนะนำสินค้าให้ผู้ซื้อ
ที่มากกว่านั้นก็คือ อีเมลหลายฉบับจากชาวต่างชาติที่อ่านไทยไม่ออก แต่ใช้ดูรูปภาพขั้นตอนต่างๆ แล้วประทับใจส่งเมลมาพูดคุยกับเธอ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ซึ่งกลุ่มนี้มาจากการที่เว็บสอนแต่งหน้าของต่างประเทศหลายแห่งได้แนะนำและลงลิงค์มายัง jeban.bloggang.com เอาไว้ด้วย
นอกจากได้กลุ่มผู้อ่านแล้ว บล็อกและเว็บบอร์ดยังทำให้จีราภัสร์ได้สังคมกลุ่มเพื่อนใหม่ๆ จากการพูดคุยในกระทู้, แอด MSN คุยกัน, จนถึงกับตั้งกลุ่ม “แก๊งค์ฮาเร็ม” ซึ่งประกอบไปด้วยสาวๆ กว่า 20 คน ที่อาสามาให้จีราภัสร์ทดสอบเครื่องสำอางและเทคนิคแต่งหน้าแบบต่างๆ
“แก๊งค์ฮาเร็ม” จะนัดกันที่ร้านสตาร์บัคส์สาขาหลังสวนเป็นประจำ เพราะเป็นร้านโปรดของ “สาวก Starbucks” อย่างจีราภัสร์ ซึ่งเธอเลือกสาขานี้เพราะมีเนื้อที่กว้าง เดินทางง่าย ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งสาวผู้จัดการร้านสาขานี้ก็เป็นแฟนบล็อกของเธอด้วยเช่นกัน
ถึงวันนี้จีราภัสร์ออกจากงานประจำมาแล้ว 2 เดือน ด้วยเหตุผลที่ตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนแล้ว และบริษัทที่ทำอยู่ด้วยเกรงว่างานอดิเรกนี้กระทบถึงภาพลักษณ์องค์กร
ทุกวันนี้เธอจึงเลือกที่จะเป็น Freelance นอกจากจะมีออกแบบกราฟิกที่ถนัดแล้ว เธอยังเขียนคอลัมน์สอนแต่งหน้าลงนิตยสารหลายฉบับ รวมถึงบทความกึ่งโฆษณาเครื่องสำอางหลายแบรนด์ในหลายนิตยสารผู้หญิงต่างๆ และเตรียมการเปิด jeban.com ซึ่งเธอนิยามว่าเป็นการพยายาม “พลิก Hobby ให้เป็นรายได้”
แม้จะยังไม่เปิดตัว แต่เอเยนซี่โฆษณาออนไลน์ชื่อดังอย่าง MSN Thailand และผู้ให้บริการคอนเทนต์มือถือดังอย่าง Siam2You ก็มาติดต่อเธอเพื่อจะซื้อเนื้อที่โฆษณาไว้แล้ว
บล็อกจีบันมีเรื่องที่เขียนรองลงไปคือ การตระเวนชิมตามร้านที่บรรยากาศดีดี แต่สิ่งที่สร้างชื่อให้เธอก็คือการแต่งหน้าและแนะนำเครื่องสำอางในที่สุด ซึ่งจีราภัสร์ฝากถึงเพื่อนๆ น้องๆ หรือใครที่เริ่มสนใจเขียน Blog บ้างว่า…
“เขียนเรื่องที่ตัวเองสนใจ ถ้ามีหลายเรื่อง ก็ให้เขียนทุกเรื่องนั่นเลย แล้วนานไปจะรู้เองว่า เรื่องไหนคนตอบรับที่สุด เรื่องไหนเราถนัดที่สุด”
Profile
Name จีราภัสร์ อริยบุรุษ (จิตพิทักษ์)
Age 29 ปี
Education ปริญญาตรี มัณฑนศิลป์ ม.ศิลปากร
Career Highlight
ผ่านงานกราฟิกดีไซเนอร์ (ประจำ) มาแล้ว 8 องค์กร
ปัจจุบัน Freelance Graphic Designer และ Freelance Columnist
Do
1. Update บล็อกบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
2. คิดอะไร ก็เขียนไปเรื่อยๆ ตามจินตนาการของเรา จะกลายเป็นเอกลักษณ์ของบล็อกที่ไม่ซ้ำกับคนอื่น
3. ควรตอบคำถามหรือทักทายมิตรรักแฟนบล็อกที่เข้ามาเยี่ยมชมด้วย
Do’t
1. อย่าก๊อบปี้เรื่องชาวบ้านมาเขียน ถ้าอ้างอิงให้ลงเครดิตผู้เขียนต้นฉบับด้วย
2. อย่าพยายามเลียนแบบภาษาหรือสำนวนจากบล็อกอื่น
3. อย่าใส่รูปที่ใหญ่เกินไป จะทำให้ตารางเลย์เอาต์ของเว็บยืดออก และจะไม่สวย
4. อย่าเล่นสีตัวหนังสือเยอะเกินไป อ่านแล้วเวียนหัว ควรจะมีสีหลักที่เข้ากับ Theme ไม่เกิน 2-3 สีก็พอ