ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของเยาวชนไทย ส่งผลให้เด็กๆ ไม่ได้รับความรู้เท่าที่ควร และถึงแม้ว่าหลายๆ โรงเรียนจะมีสื่อการเรียนการสอนอย่างเพียงพอแล้ว แต่หากอยู่ในสภาพทรุดโทรม ก็อาจทำให้เด็กนักเรียนขาดแรงจูงใจในการเรียน ด้วยเหตุนี้ กลุ่มโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ จึงได้จัดกิจกรรม PRAC & PLAY by Centre Point ขึ้น โดยการนำปฏิทินเก่ามาสร้างสรรค์เป็นสื่อการเรียนการสอนให้เด็กๆ ฝึกอ่านตัวอักษรและคำศัพท์ภาษาอังกฤษในรูปแบบภาพ 3 มิติ ที่มีความสวยงามน่าสนใจ เพื่อมอบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ยังขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนเฉพาะทาง โดยเฉพาะสื่อการเรียนการสอนด้านภาษาอังกฤษ
นางสุวรรณา พุทธประสาท กรรมการบริหาร บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ มีนโยบายในด้านการทำประโยชน์เพื่อสังคมและส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้ดำเนินโครงการซีเอสอาร์ (CSR) ภายใต้ชื่อ Always Care โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การดูแลเรื่องคน และ การดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม สำหรับในปีนี้ กลุ่มโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ ได้จัดกิจกรรม PRAC & PLAY by Centre Point ขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่มุ่งดูแลทั้งเรื่องคนและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน โดยในส่วนของการดูแลเรื่องคนนั้น เป็นการช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ยังขาดแคลนสื่อการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนเหล่านั้นได้มีสื่อการเรียนการสอนที่เอื้อต่อการเข้าถึงความรู้ให้มากที่สุด โดยรูปแบบที่ทำเป็นลักษณะภาพ 3 มิติ ประกอบด้วยภาพวาดการ์ตูนและสีสันที่สวยงาม เป็นการช่วยกระตุ้นความสนใจของนักเรียนมากขึ้นด้วย ส่วนในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อมนั้น เกิดจากการนำปฏิทินเก่าที่ไม่ใช้แล้วมาสร้างสรรค์ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งเป็นการช่วยลดปริมาณขยะและยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง
กิจกรรม PRAC & PLAY by Centre Point ในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากกำลังของทีมงานของกลุ่มโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ เพียงลำพัง แต่ยังได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่ายที่มาร่วมกันทำโครงการดีๆ นี้ให้สำเร็จ ซึ่งหนึ่งในแรงสนับสนุนอันสำคัญคือ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยส่งคณะอาจารย์และนักศึกษามาร่วมออกแบบ รวมทั้งยังมีเยาวชนจิตอาสากว่า 60 ชีวิต ที่แบ่งปันน้ำใจมาร่วมกันแต่งแต้มระบายสีสื่อการเรียนการสอนกว่า 200 ชิ้น ให้สมบูรณ์สวยงามน่าสนใจ มีชีวิตชีวา โดยจิตอาสาดังกล่าวประกอบไปด้วย นักศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ครูและน้องๆ จากมูลนิธิ ณ กิติคุณ รวมทั้ง แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2015
นางสาวศิริโฉม แซ่ภู่ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เยาวชนคนเก่งซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมออกแบบสื่อการเรียนการสอน เอ่ยว่า การทำสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบป๊อปอัพที่เป็นรูปภาพ 3 มิติ มีความยากตรงการประกอบตัวการ์ตูนป๊อปอัพและการจัดวางให้ได้องค์ประกอบที่สมบูรณ์ แต่เรื่องการวาดถือว่าเป็นงานถนัดอยู่แล้ว ซึ่งการวาดคาแรคเตอร์ต่างๆ ก็ใช้ลายเส้นง่ายๆ เห็นแล้วน้องเข้าใจทันทีว่าคือรูปอะไร ส่วนสีก็เน้นสีสันสดใส เพื่อดึงดูดให้น้องๆ เกิดความสนใจและรู้สึกสนุกไปกับการเรียน
ทางด้าน นายสุวรรธน์ เกษเกษม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เผยว่า การได้เป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบสื่อการเรียนสอนของกิจกรรมนี้ นอกจากจะได้ประสบการณ์จากการทำงานแบบมืออาชีพแล้ว ยังได้บุญในการส่งต่อความรู้ให้น้องๆ อีกด้วย ทำให้รู้สึกภูมิใจมากที่สามารถนำความรู้ที่เรียนมาตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 มาสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ให้กับน้องๆ นักเรียนได้
ส่วน นางสาวอนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ หรือ แนท มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2015 กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นนักศึกษาคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้ได้มีโอกาสไปทำกิจกรรมค่ายอาสาหลายครั้ง ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่ต้องใช้ทุนทรัพย์ บางครั้งต้องทำเสื้อขายเพื่อหาทุนซื้อสิ่งของไปบริจาค แต่กิจกรรมนี้ทำให้รู้ว่าความจริงแล้วหากเราจะช่วยเหลือน้องๆ ที่ขาดโอกาส ไม่จำเป็นต้องมีกำลังทรัพย์มากมาย แค่มีหนึ่งสมองกับสองมือก็เพียงพอแล้ว มองหาของเหลือใช้รอบตัวแล้วนำมาทำให้เกิดคุณค่า ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยน้องๆ ได้
“รู้สึกมีความสุขที่ได้มีส่วนร่วมในการระบายสีสื่อการเรียนการสอน ซึ่งถือว่าเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจมาก เพราะเกิดจากการร่วมมือร่วมใจของหลายๆ คน อยากให้น้องๆ ที่ได้รับสื่อการเรียนการสอนนี้ไป ตั้งใจศึกษาหาความรู้จากสื่อการเรียนการสอนเหล่านี้อย่างเต็มที่ และรักษาเอาไว้ให้ดีเพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ นี้จากรุ่นสู่รุ่นไปเรื่อยๆ” แนท อนิพรณ์ กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.นพคุณ บำรุงพงศ์ ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 7 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเป็นตัวแทนเดินทางมารับสื่อการเรียนการสอนจากเซนเตอร์ พอยต์ กล่าวว่า ตอนนี้สิ่งที่นักเรียนยังขาดแคลนคือสื่อการเรียนการสอนเฉพาะทาง เช่น ภาษาที่ 2 ภาษาที่ 3 ซึ่งต้องให้ผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นผู้ทำขึ้น ดังนั้น การที่กลุ่มโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ ประดิษฐ์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษขึ้นมา นับว่ามีประโยชน์กับเด็กๆ มาก นอกจากจะได้ความรู้ภาษาอังกฤษแล้ว ยังส่งเสริมทักษะทางด้านศิลปะ การประดิษฐ์และออกแบบให้กับเด็กๆ ด้วย ซึ่งเมื่อเด็กๆ เห็นแล้วก็จะเกิดจินตนาการจนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับวิชาอื่นๆ ได้
“ต้องขอขอบคุณคณะจิตอาสาทุกคนที่เห็นความสำคัญของการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ที่ผ่านมานักเรียนของเราได้รับโอกาสทางการศึกษาจนได้เป็นแพทย์และจบปริญญาเอกหลายคน เป็นไปได้ว่าสื่อการเรียนการสอนที่ท่านมอบให้กับเราในวันนี้ อาจจะถูกส่งไปอยู่ในมือของเด็กที่จะเติบโตขึ้นเป็นแพทย์หรือเป็นดอกเตอร์ในอนาคตก็ได้” พ.ต.อ.นพคุณ กล่าว
แม้ว่า PRAC & PLAY by Centre Point จะเป็นเพียงกิจกรรมเล็กๆ แต่ได้จุดประกายให้คนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของการแบ่งปันความรู้และโอกาสให้กับเด็กๆ ผู้ขาดแคลน ซึ่งกิจกรรมนี้ ทำให้เห็นแล้วว่าทุนทรัพย์ไม่ใช่อุปสรรค ขอเพียงเรามีหนึ่งสมองกับสองมือ น้ำใจหยดเล็กๆ หลายหยดรวมกัน ก่อเกิดเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่อันจะผลักดันให้เด็กๆ ที่ยังขาดโอกาสสามารถเติบโตไปเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในวันข้างหน้าได้