เจาะตลาดแดนมังกรยามนี้ต้องเอาใจผู้หญิง

หากพูดถึงประเทศจีนในตอนนี้ สิ่งที่คนคิดถึงเป็นอันดับแรกมักจะเป็น “โอลิมปิคเกมส์ 2008” หรือ “Beijing 2008” ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นกุศโลบายในการสร้างงานและรายได้ระยะยาวของจีน

เนื่องจากในเวลานี้มังกรยักษ์กำลังได้รับแรงกดดันจากนานาชาติให้ลดความได้เปรียบทางการค้าหลังจากที่เศรษฐกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด จนแซงหน้าอังกฤษมาเป็นอันดับ 4 ของโลก หรือเติบโตราว 11.4% ในปี 2007 อีกทั้งกำลังจะเลื่อนขั้นแซงหน้าเยอรมนีที่อยู่ในอันดับ 3ในไม่ช้า ทำให้จีนก็ต้อง “เบรก” เศรษฐกิจอันร้อนแรงของตัวเองหันมาปรับกลยุทธ์ขนานใหญ่ รวมทั้งนโยบายลดการส่งออกและเพิ่มการนำเข้าจากประเทศอื่นๆ

เป็นที่มาของงานสัมมนาเรื่อง “เจาะตลาดแดนมังกร ก่อนโอลิมปิคเกมส์ 2008” จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อ 15 มีนาคม 2551 โดยมี 2 ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของจีน ดร.อักษรศรี พานิชศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และดร.สักกรินทร์ นิยมศิลป์ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ธนาคารกสิกรไทย มาอัพเดตข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในจีน ในฐานะที่จีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 3 ของประเทศไทย

ตลาดผู้บริโภคจีนเติบโตเร็ว ผู้หญิงกำลังจะครองเมือง ฐานผู้บริโภคที่นักการตลาดสนใจเสมอมักจะเป็น “ชนชั้นกลาง” เนื่องจากเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ซึ่งประเทศจีนก็เช่นกันมีจำนวนชนชั้นกลางอย่างน้อย 80 ล้านคนจาก 1,300 ล้านคน (ข้อมูลบางแห่งบอกว่ามีมากถึง 300 ล้านคน) ซึ่งขณะนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากการที่เศรษฐกิจจีนก้าวหน้าพรวดๆ หลายปีที่ผ่านมา

คนชั้นกลางเหล่านี้นิยมเรียนบริหารธุรกิจ หรือ MBA ชอบสินค้าฟุ่มเฟือยจากต่างประเทศ จดจำแบรนด์และรายละเอียดได้ดี กล้าลองสินค้าใหม่ๆ นอกจากนี้ประชากรผู้หญิงกำลังจะเป็น “ชนกลุ่มน้อยที่มีพลัง” อันมีผลมาจากนโยบาย “ลูกคนเดียว” ทำให้ประชากรหญิงมีจำนวนน้อยลงไปทุกที ทว่าพวกเธอก็ก้าวออกไปทำงานนอกบ้านมีบทบาทในโลกธุรกิจ จึงมีรายได้และมีกำลังซื้อมากขึ้น แถมไม่ยอมแต่งงานมีครอบครัวง่ายๆ ทำเอาหนุ่มจีนต้องเอาใจสาวคนรักสุดฤทธิ์ ผู้หญิงจึงมีแนวโน้มเป็น “ผู้ซื้อและกำหนดแนวโน้มการซื้อ” ที่สำคัญในอนาคต

สินค้าประเภทแฟชั่นไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับและเครื่องประทินโฉมจึงประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในตลาดเมืองจีน เรียกได้ว่าสินค้าแบรนด์เนมระดับโลกไปเปิดตัวในเมืองจีนน่าจะครบทุกยี่ห้อแล้ว กลายเป็นที่ใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของสาวจีน เนื่องจากพวกเธอรักสวยรักงาม ทั้งนี้ เฉดสียอดนิยมของสาวจีนล้วนแล้วแต่จัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็นสีของเครื่องสำอางหรือเสื้อผ้า ก็ขอให้ “แรง” ไว้ก่อน พวกเธอล้วนภูมิใจที่ได้แข่งขันประชันความโดดเด่นสดแปร๋น ทั้งยังสนใจสะสมอัญมณีประดับเรือนร่างที่สามารถตอบสนองได้ทั้งความสวยงามและมูลค่า

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่คนไทยถนัด ดังนั้น คนไทยต้องไม่พลาดโอกาสทองในปี 2008 ที่เริ่มต้นเดือนแรกตลาดส่งออกไปยังจีนก็สดใสแล้ว อีกทั้งผู้บริโภคชาวจีนกำลังอ้าแขนรับสินค้าใหม่ๆ ขอเพียงเสิร์ฟให้ตรงใจและเข้าให้ถูกช่องเท่านั้น

พฤติกรรมเด่นของคนจีนในแต่ละวัย
กลุ่ม/พฤติกรรมเด่น
วัยหนุ่มสาวในเขตเมือง อายุ 18 – 34 ปี มีการศึกษา หัวทันสมัย ชอบการเปลี่ยนแปลง รู้จักแบรนด์ต่างชาติค่อนข้างดี สนใจเครื่องประดับ อัญมณี เครื่องสำอาง โทรศัพท์มือถือและสื่อทันสมัย
วัยเด็ก/ลูกคนเดียว มีอิทธิพลต่อครอบครัวทั้งด้านการศึกษา การแต่งกาย คอมพิวเตอร์ สินค้าที่มีของแถม
วัยกลางคน อายุ 45 – 55 ปี มีประสบการณ์ก่อนและหลังจีนปฏิรูปเศรษฐกิจ อาจเคยทำงานในรัฐวิสาหกิจ บางส่วนมีทัศนคติแบบอนุรักษนิยม ไม่ชอบลองของใหม่ ค่อนข้างประหยัด ตัดสินใจซื้อจากราคา
วัยสูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป มีจำนวนประมาณ 10% ของประชากรจีนทั้งหมด บริโภคแบบประหยัดเรียบง่าย เน้นการใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ ยังชีพด้วยเงินบำนาญจากรัฐ