แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ซุปไก่สกัด ฉีกตำราการจับกลุ่มเป้าหมายตามเดโมกราฟิกโดยสิ้นเชิง (Demographic) ไม่ต้องเสียเวลาคัสโตไมซ์ ทำโฆษณาเพื่อเจาะทีละกลุ่มเป้าหมาย เมื่อได้ครอบครัวพรีเซ็นเตอร์อย่างตระกูลวรรธนะสิน ที่มีคนดังครบทั้ง 3 รุ่น 3 เจนเนอเรชั่น ตั้งแต่รุ่นปู่ถึงรุ่นหลาน โดยมีรุ่นลูกเป็นตัวเชื่อม ที่ต่างมีดีและดังกันคนละทาง จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
ประจวบกับการที่แบรนด์เพิ่งมีการปรับเปลี่ยนการบริหารและทำธุรกิจ จากบริษัทเซเรบอส มาเป็นภายใต้การดูแลของบริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัด บวกกับได้พันธมิตรใหม่ด้านโลจิสติกส์อย่าง บริษัท เดอเบล จำกัด และบริษัท ซิโน–แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด มาเป็นผู้กระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น ทำให้ปี 2560 ที่ผ่านมาจากเดิมที่กระจายอยู่ประมาณ 30,000 กว่าร้านค้าเป็น 100,000 ร้านค้าในปีนี้ ก็ยิ่งทำให้แบรนด์กระจายผลิตภัณฑ์ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างไกลและหลากหลายขึ้นด้วย
พิสูจน์ได้จากยอดขายรวมปีที่ผ่านมาที่บริษัทฯ มียอดขายรวมเติบโต 7% โดยมีรายได้บริษัทรวมกว่า 11,000 ล้านบาท จากสัดส่วนการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนัลเทรด 70/30 ตามลำดับ โดยใช้ทีมงานขายและทีมการตลาดในส่วนขอบริษัทฯ ประมาณ 200 คน และจ้างเอาต์ซอร์สเพิ่มอีก 800 คน รวมประมาณ 1,000 คนเพื่อดูแลการทำตลาดเชิงรุกให้ครอบคลุมทั้งประเทศพร้อม ๆ กับช่วยขายสินค้าใหม่ที่บริษัทเปิดตัวสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
เลือกครอบครัว J-DNA เป็นพรีเซ็นเตอร์ครบช่วงอายุ
นันทนา ขาวปลื้ม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการกลยุทธ์การขาย ตลาดอินโดจีน บริษัทเป๊ปซี่ โค เอเชีย แปซิฟิก และนักว่ายน้ำทีมชาติ ออกมาบอกเล่าถึงการตลาดล่าสุดในปีนี้ ที่แบรนด์ซุปไก่เตรียมใช้งบการตลาด 145 ล้านบาท เลือกเปิดตัวแคมเปญ “แบรนด์ซุปไก่สกัด เคล็ดลับความสำเร็จที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น” ซึ่งได้พรีเซ็นเตอร์อย่างครอบครัว “วรรธนะสิน” ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ รุ่นคุณพ่อ และรุ่นลูก
ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษ เจริญ วรรธนะสิน คุณพ่อของ เจ–เจตริน วรรธนะสิน ซึ่งเป็นคุณพ่อของ เจ้านาย–จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน ครอบครัวตัวจริงที่ดื่มแบรนด์ซุปไก่สกัด และส่งต่อพฤติกรรมการดื่มแบรนด์จากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนประสบความสำเร็จในแบบของตัวเองที่ไม่เหมือนกัน
ที่สำคัญ ศ.พิเศษ เจริญ และ เจ–เจตริน ต่างก็เคยเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของแบรนด์ซุปไก่สกัดมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532
ผลงานของ ศ.พิเศษ เจริญ ที่รู้จักกันได้จากกีฬาแบดมินตันในฐานะอดีตนายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ และเป็นแชมป์ในการแข่งขันแบดมินตันในรายการดังระดับโลกหลายรายการ
ส่วน เจ–เจตริน วรรธนะสิน เป็นศิลปินชื่อดังจากยุค 90 ที่ยังคงโด่งดังและมีผลงานมาถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีผลงานด้านกีฬาเจ็ตสกี ระดับที่คว้าแชมป์โลกมาแล้ว รวมถึงเคยคว้าถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้สำเร็จ ปัจจุบันเปิดค่ายเพลงของตัวเองในนาม “เจมีดี” (Jaymidi)
ด้านลูกชาย “เจ้านาย–จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน” นอกจากเริ่มก้าวสู่อาชีพนักร้องตามรอยพ่อ ส่งซิงงเกิลแรก “คนละชั้น” ที่ทำสถิติยอดวิวในยูทูปถึงหลักล้านในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ปัจจุบันก็เริ่มกลายเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่หลายแบรนด์ถามหาเพราะความสดใสและความสามารถที่แสดงให้เห็นควบคู่ไปขณะยังมีสถานะเป็นนักเรียนอังกฤษ
คน 3 รุ่นของตระกูลวรรธนะสิน มารวมอยู่ในภาพยนตร์โฆษณาเดียวกัน ที่แบรนด์จะเน้นสื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านโฆษณาทีวี ในชื่อเรื่อง “เคล็ดลับความสำเร็จ ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น” ที่แสดงโดยพ่อลูกคนเก่ง เจ–เจตริน วรรธนะสิน เจ้านาย–จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน นอกจากนี้ยังมีโฆษณาผ่านสื่อTransit สื่อ OOH ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อขยายและสร้างการรับรู้ให้แก่คนทั่วประเทศ
การปล่อยหมัดเด็ดของแบรนด์แบบเปรี้ยงเดียวเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบครอบจักรวาลเช่นนี้ เป็นแนวคิดใหม่แบบรวมยอด ที่ต้องการส่งแบรนด์ให้เป็น Mass Product มากขึ้น หลังจากที่ แบรนด์ ซันโทรี่ เพิ่งได้ผู้บริหารอย่าง นันทนา เข้ามาดูแลบริหารได้ประมาณ 1 ปีโดยเธอมีประสบการณ์กับบริษัทต่างชาติมานาน
ขณะที่ อรญา หอมเศรษฐี ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ที่เข้ามาดูแลเรื่องการตลาดโดยตรง และเพิ่งเข้ามาร่วมงานกับบริษัทเมื่อต้นปี 2561 ผ่าน ก็มีประสบการณ์จากตลาดอาหารและเครื่องดื่มในตลาดมาส เช่นที่ โออิชิ เป๊ปซี่ มาร์ส ฯลฯ มาแล้วเช่นกัน
อีกทั้งทีมการตลาดยืนยันว่า ปีนี้นโยบายรุกตลาดขอแบรนด์จะให้ความสำคัญเรื่องการปรับภาพลักษร์และการวางโพสิชันนิ่งของสินค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสุขภาพ และการขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น โฆษณาเดียวที่เข้าถึงคนทีเดียว 2-3 เจนเนอเรชั่นแบบนี้ ก็คงจะตอบโจทย์นโยบายได้ตรงทีเดียว.