ต่อไปตู้ล็อกเกอร์ทั่วไปจะไม่เป็นเพียงตู้เก็บของเท่านั้น แต่จะกลายเป็นทุกสิ่งที่ผู้คนใช้รับ-ส่ง ของ หรือแม้กระทั่งกลายเป็นร้านซักรีด ไอเดียนี้มาจากสตาร์ทอัพ ที่มองตู้ล็อกเกอร์มีประโยชน์มากกว่าการเก็บของ จึงแปรเปลี่ยนเป็นร้านซักอบรีด มีกว่า 150 ตู้ มีผู้ใช้บริการ 30,000 คน ล่าสุดบุกมาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นที่เรียบร้อย และยังเป็นสตาร์ทอัพไทยเพียงหนึ่งเดียวในเวทีโลก SeedStars World
ไอเดียเกิดขึ้นทุกที่ทุกเวลา ขึ้นอยู่กับว่าใครจะไขว่คว้า มุ่งมั่นสร้างให้เป็นธุรกิจ เหมือนอย่าง นิธิพนธ์ ไทยานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท บ๊อกซ์24 จำกัด ได้ไอเดียทำธุรกิจที่เกี่ยวกับตู้ “ล็อกเกอร์” จากช่วงที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น และพบว่า ตามสถานีรถไฟฟ้าจะมีตู้ล็อกเกอร์เต็มไปหมดเพื่อให้คนมารับของได้เอง
เมื่อมาดูในไทยพบว่า คนยุคนี้นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ทำให้ธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนได้รับความนิยม แต่บริการก็ยังมีช่องว่าง เวลาไปส่งของก็ต้องมีคนมารอรับของที่บ้าน ของที่ส่งมาก็ไม่รู้อยู่ขั้นตอนไหน เขาจึงนำปัญหาเหล่านี้ไปพัฒนาให้เป็นธุรกิจ
บริษัท บ๊อกซ์24 ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพราะมองเห็นประโยชน์ของตู้ล็อกเกอร์ที่เป็นมากกว่าตู้ฝากของ เขาจึงวางตำแหน่งผู้นำรายแรกของโลกที่นำตู้ล็อกเกอร์มาผูกโยงกับธุรกิจซักรีด ภายใต้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจรับส่งพัสดุไปรษณีย์ ซื้อสินค้าออนไลน์ รวมถึงรับฝากส่งสิ่งของระยะสั้น–ยาว และรับจ่ายบิลทุกชนิด ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันมีทั้งหมด 150 ตู้ และมีจำนวนลูกค้าอยู่ 30,000 คน เฉลี่ยใช้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ปัจจุบัน วอชบ๊อกซ์ หรือบริการซักอบรีด มีลูกค้าใช้บริการจำนวน 5 – 6 หมื่นชิ้น/เดือน ซึ่งลูกค้าหลักเป็นกลุ่มคนเมือง คนรุ่นใหม่ ที่เพิ่งสร้างครอบครัว พักอาศัยในคอนโดมิเนียม
Business Model วอชบ๊อกซ์ ไม่มีโรงซักผ้าเอง แต่จะเป็นเจ้าของระบบทีทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้บริการกับโรงซักผ้า ทำให้ลูกค้าเมื่อใช้บริการแล้ว สามารถติดตามสถานะสินค้าได้ผ่านสมาร์ทโฟน ส่วนโรงซักผ้าเอง ถ่ายรูปเสื้อผ้า ติดบาร์โค้ดเพื่อเก็บเงิน และนำไปส่งลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และอยู่บนมาตรฐานเดียวกันหมด รวมถึงมีการเชื่อมต่อดับตู้อื่นๆ ผ่านระบบเซิร์ฟเวอร์ เวลานี้ได้มีการจดสิทธิบัตรทั้งในไทย และประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีการจดสิทธิบัตรในประเทศเหล่านี้ด้วย
นอกจากบริการซักผ้าแล้ว บริการนี้ ยังถูกต่อยอดไปยังบริการรับส่งพัสดุ หรือ DropBox ที่เวลานี้มีคู่ค้า Kerry Express , DHL , SCG แมวดำ มีการเชื่อมต่อระบบหลังบ้านของ WashBox24 ก็เพื่อรองรับการจัดส่งหรือรับพัสดุได้ด้วย
ในส่วนบริการ DropBox ไปเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัท ทรัพย์ศรีไทย และ บริษัท Suntec ที่สิงคโปร์ ในส่วนบริการ PayBox จับมือกับเจ้าของตู้บุญเติม เพื่อรับชำระบิล เติมเงินต่างๆ
ด้วยรูปแบบธุรกิจลักษณะนี้ จึงทำให้การขยายธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น โดย WashBox24 จะโฟกัสไปที่การสร้างตู้และระบบหลังบ้านอย่างเดียว จากนั้นจะใช้วิธีจับมือกับพันธมิตรต่อยอดขยายไปสู่บริการอื่นๆ
ทำให้ปัจจุบัน WashBox มีเครือข่าย มีทั้งตู้ล็อกเกอร์ที่ตั้งตามคอนโดต่างๆ สำนักงาน มีบริการรับส่งที่บ้านทั่วกรุงเทพฯ และรับส่งพัสดุ ครอบคลุมซื้อสินค้าออนไลน์ อนาคตจะมีพาร์ตเนอร์อื่นๆ เพิ่มตามมาอีกหลายราย
พร้อมกับการขยายตู้ไปยังรถไฟฟ้า อาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย เครือข่ายของเราที่มีปัจจุบัน และในปีนี้เราก็อยากจะเพิ่มเข้าไปในเซ็กเมนต์ต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า อาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย
นิธิพนธ์ เปรียบธุรกิจ บ๊อกซ์24 ไม่ต่างอะไรจากตู้เอทีเอ็ม ที่ต้องสร้างเครือข่ายตู้ให้ขยายให้มากที่สุด ต้องเป็นเน็ตเวิร์กเอฟเฟกต์ ไปที่ไหนก็เจอตู้ล็อกเกอร์ของบ๊อกซ์24 ไปตอบโจทย์เรื่องความสะดวกให้กับลูกค้า นั่นคือจุดหมายที่เขาจะเดินหน้าต่อไป.