กฎเหล็ก BNK48 เป็นไอดอลต้องเป๊ะ  เพราะชีวิตจริงไม่มีคุกกี้เสี่ยงทาย

BNK48 (บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต) วงน้องสาวอันดับที่ 5 ของ AKB48 เป็นกลุ่มไอดอลหญิงของประเทศไทย ที่มาภายใต้แนวคิดที่ว่า “ไอดอลที่คุณสามารถไปพบได้” ตั้งแต่เดบิวต์เมื่อปี 2017 ก็ปัง ดังเป็นพลุแตก ขึ้นท็อปเพลงทุกชาร์ตและเป็นที่พูดถึงแพร่หลายด้วยพลังโอตะ (แฟนคลับ) ของพวกเธอ จนทำให้บรรดาผลิตภัณฑ์สินค้าและสารพัดแบรนด์ต้องยืมพลังพวกเธอมาใช้ในการตลาดกันอย่างพึ่บพั่บ 

แต่สิ่งที่เป็นที่พูดถึงไม่น้อยกว่าความน่ารักของไอดอลแต่ละคนก็คือ กฎระเบียบต่างๆ ที่ทางต้นสังกัดบัญญัติไว้อย่างชัดเจน ซึ่งมีเพียง 5 ข้อ แต่ทุกข้อต้องเป๊ะ ไม่มีการยกเว้น ดังต่อไปนี้

1. สมาชิกทุกคนต้องย้ายมาอยู่ในกรุงเทพฯ ระบุไว้ชัดเจนตั้งแต่ตอนสมัคร โดยทีมงานจะเป็นคนช่วยหาที่พักให้ เพื่อความสะดวกในการทำงาน

2. ห้ามถูกเนื้อต้องตัว และห้ามเซลฟี่กับแฟนคลับ โดยเฉพาะ “การจับมือ” เพราะจะมีการขายบัตรในอีเวนต์การจับมืออย่างเป็นทางการ และขายรูปถ่าย ถ้าจับมือถ่ายรูปได้ทั่วไป ย่อมีผลต่อมูลค่าของบัตรและรูปถ่ายของพวกเธอเองที่ดูเป็นของหายากเสียจริง

3. เคร่งครัดการใช้สื่อโซเชียลทุกช่องทาง พอเริ่มเป็นสมาชิก BNK48 ทุกคนต้อง Set Zero สื่อโซเชียลทุกช่องทางเดิมของตน และต้องตั้งใหม่พร้อมกัน เพื่อให้ทุกคนเริ่มพร้อมกันภายใต้การใช้ชื่อ BNK48 อย่างเป็นทางการ

4. ไม่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง หรือสื่อลามกอนาจารใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทางต้นสังกัดต้องการสื่อให้เห็นว่า วงมีภาพลักษณ์ของการเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ สดใส จึงกันเรื่องพวกนี้ออกไปให้ไกลที่สุด อย่างกรณีของ ปัณณ์ ที่เคยถูกผับชื่อดังแห่งหนึ่งเอารูปน้องไปขึ้นเพื่อเป็นการโฆษณาผับ ก็เคยเกิดเป็นดราม่าใหญ่โตมาแล้ว

5. งานของวงถือว่าสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะตารางซ้อม ตารางงานของวงค่อนข้างแน่นมาก ทำให้ส่วนใหญ่เลือกการศึกษานอกระบบ หรือปรับตารางเรียนของตนเองเพื่อไม่ให้ตรงกับตารางซ้อม แต่ก็มีเมมเบอร์บางคนที่บริหารเวลาของตนเองได้ดีทั้งการเรียนและการงานของวง

นอกบัญญัติ 5 ประการที่กำหนดไว้ชัดเจนในสัญญาและทุกคนต้องปฏิบัติตาม ดูเหมือนว่าจะบางกฎที่หลายคนคงเคยได้ยินๆ กันมาบ้าง และดูโหดไม่แพ้กัน ที่แม้ทางตัวเมมเบอร์และต้นสังกัดต่างพร่ำบอกว่า ไม่บังคับใช้บทลงโทษอะไรที่เป็นทางการ หรือเรียกง่ายๆ ว่ากฎดังต่อไปนี้ เป็นแค่สัญญาใจเท่านั้น นั่นก็คือ

1. ห้ามศัลยกรรม ด้วยความที่ภาพลักษณ์ของวงต้องการเน้นความเป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ตอบโจทย์ความชอบของโอตะหลายๆ กลุ่ม จึงไม่นิยมให้หน้าตาเป็นไปตามสมัยนิยมเหมือนๆ กัน อย่าง ปูเป้ ที่มีปัญหาเรื่องของฟัน ก็มีหลายคนเชียร์ให้น้องไปจัดฟัน แต่น้องก็ได้โพสต์หน้าสื่อโซเชียลของตนเป็นนัยๆ ว่า ถ้าจัดฟันก็คงเหมือนคนอื่นๆ จึงอยากเก็บไว้เป็นเอกลักษณ์ของตนเองมากกว่า

2. การห้ามรับของขวัญจากแฟนคลับที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 บาท ซึ่งการรับของที่บรรดาโอตะพร้อมเปย์ให้เมมเบอร์ในราคาที่สูงมากเกินไปอาจทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดี เพราะคนเราคิดกันไปได้ต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะการนำเรื่องเงินมาผูกกับความชื่นชอบ แต่สำหรับโอตะที่อยากจะเปย์โอชิตัวเองมากๆ ทางบริษัทก็จัดไว้ให้เปย์หลากหลายช่องทางให้อยู่แล้ว อาทิ ของที่ระลึกต่างๆ บัตรจับมือ อัลบั้ม รูปถ่าย หรือแม้กระทั่งการไลฟ์ Voov ที่สามารถส่งของขวัญให้โอชิของตนได้โดยตรง ฯลฯ

3. ห้ามมีแฟน เป็นกฎที่ดูจะไม่เข้าใจวัยรุ่นที่สุดแล้ว เลยถือเป็นกฎเหล็กแสนโหดแสนหิน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเล็กๆ แต่ว่าทุกคนก็รับทราบโดยพร้อมเพรียงกันตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญาเข้าวง แม้ว่าจะไม่ได้ห้ามอย่างเด็ดขาด หรือมีบทลงโทษที่ชัดเจน

สมาชิกทุกรายไม่ว่าที่ไหน ถ้าฝ่าฝืนกฎห้ามมีแฟน มักจะโดนลงโทษกันไปตามระเบียบ เช่นเดียวกับกรณีของ แคน นายิกา ศรีเนียน สมาชิก BNK48 ที่กลายเป็นละครบทใหม่ในโซเชียลตอนนี้ เพราะแม้จะออกมายอมรับผิดแต่โดยดีกรณีที่มีคนโชว์หลักฐานรูปถ่ายว่าไปทานข้าวกับแฟน โดยเธอพูดตบท้ายชัดเจนว่า “จะไม่นิ่งเฉยกับบุคคลที่มีเจตนาไม่ดีกับแคน”

ในแฟนเพจอย่างเป็นทางการของ BNK48 ก็ได้มีการโพสต์บทลงโทษในการทำผิดกฎของสาวแคนเกี่ยวกับการห้ามมีแฟนจากต้นสังกัดออกมาแล้ว โดยระบุว่า จะทำการพักงานนักร้องหญิงเป็นเวลา 1 เดือนต่อการทำผิดกฎดังกล่าว ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้ (8 พฤษภาคม 2561) เป็นต้นไป

นอกจากกรณีของแคนลองมาดูว่า ที่ผ่านมีสมาชิกคนใด กลายเป็นประเด็นร้อนในการละเมิดกฎข้อนี้กันบ้าง

มินามิ มิเนกิชิ รายนี้สมาชิกวง AKB48 วงรุ่นพี่ที่เป็นข่าวช็อกวงการมาครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีสื่อถ่ายภาพเธอตอนขึ้นไปคอนโดพร้อมกันกับผู้ชาย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทางต้นสังกัดและชาวโอตะรับไม่ได้ ถึงกับประณามและต่อว่าอย่างรุนแรง เธอจึงออกมาอัดคลิปขอโทษในขณะที่ผมบนศีรษะของเธอถูกโกนเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการสำนึกผิดและขอให้ทุกคนอภัยให้กับเธอเพราะเธอก็ยังอยากอยู่ในวงต่อไป

เมษา จีนะวิจารณะ สมาชิก BNK48 เริ่มจากที่เธอโดนชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่า เป็นโอตะ กล่าวหาว่าเธอมีแฟนพร้อมงัดหลักฐานมาโชว์มากมายตอนต้นกุมภาพันธ์ 2560 แต่เรื่องก็เงียบไป

จนกระทั่งเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาเปิดเผยทำนองเดียวกันอีก พร้อมให้เมษาออกมาตอบให้ชัดเจนว่ามีแฟนจริงหรือไม่ จนถึงขั้นที่ จ๊อบ ชิไฮนิน หรือ จ๊อบซัง ผู้จัดการวง BNK48 ต้องออกมาขอให้เหล่าโอตะใจเย็นๆ เพราะกำลังปรึกษาทนายอยู่

จนถึงเดือนมกราคมปีนี้ที่ผ่านมา ในไอจีสตอรี่ (IG Story) ของเมษา ได้โพสต์ภาพชายคนหนึ่งที่นอนบนเตียงคล้ายๆ ร้านนวด แล้วลบคลิปออกทีหลัง แต่แต่ช้ากว่าชาวเน็ตที่มือไวกดโหลดไว้อย่างรวดเร็ว งานนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากการผิดพลาดลงผิดแอคเคานต์ ท้ายที่สุดต้นสังกัดจึงลงโทษประกาศพักงานเมษาไปเป็นระยะเวลา 1 เดือน

ส่วนกรณีล่าสุดของ แคน BNK48 หลังจากที่จบข่าวของเมษาไป เหล่าโอตะก็โล่งใจเพราะถือว่ามีการลงโทษที่ชัดเจน แต่ก็ไม่วาย ที่แคนก็ก่อเหตุซ้ำในกรณีเดิม “แคน” ซึ่งมีภาพลักษณ์ของนักกิจกรรม จิตอาสา แม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ในช่วงแรก แต่ก็เคยติดเซ็มบัตสึ (ตัวจริง) และมีฐานแฟนคลับไม่น้อยที่ชื่นชมในเสียงร้องของเธอ จนมีคะแนนให้เธอได้เป็นตัวจริงในทีม BIII (บีทรี) ที่จะแสดงในเธียร์เตอร์อีกด้วย

แต่พอล่าสุด เมื่อมีภาพแคนไปกินข้าวกับผู้ชายสองต่อสองในไอจี นอกจากต้นสังกัดก็ออกมาพักงาน 1 เดือนตามระเบียบ พร้อมทั้งเปลี่ยนตัวให้ เปี่ยมรินรดา อินทร์ไธสง เป็นตัวจริงในทีมบีทรีแทนแคนอีกด้วย

เรียกได้ว่า งานนี้เป็นโชว์เคสที่ทำให้เสียศูนย์ไปตามๆ กัน เพียงเพราะละเมิดกฎเหล็ก เอ้ย… สัญญาทางใจกับทางต้นสังกัดที่ยกแพลตฟอร์มแทบจะ 100% มาใช้ ซึ่งทางญี่ปุ่นก็เคร่งครัดเรื่องพวกนี้เอามากๆ เพราะสมาชิกของวงเยอะมาก และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในกลุ่มสมาชิกรุ่นต่อๆ ไป การปกครองคนหมู่มากก็เลยต้องมีกฎเหล็กที่เข้มข้นประมาณนี้

ทั้งนี้ เพราะสำหรับไอดอล ภาพลักษณ์ของเมมเบอร์ในวงทุกคนสำคัญมากๆ ต่อการทำการตลาดของต้นสังกัด ซึ่งข้อนี้โอตะเข้าใจและยอมรับดี เพราะในเรื่องของเพลงเอยที่ยกมาจากทางญี่ปุ่นและเปลี่ยนเนื้อให้เป็นไทยชนิดที่ว่าถ้าไม่ใช่ BNK48 ร้องก็คงไม่รอดแน่ๆ

หรือจะเป็นการเต้นที่เป็นประเด็นดราม่าตลอดเวลาว่าไม่พร้อมสักที โดยให้เหตุผลว่า เพราะทุกคนจะได้เห็นความพยายามและพัฒนาการของเมมเบอร์อย่างต่อเนื่อง หรือเพราะที่จริงแล้วเพลงกับการเต้นไม่ใช่จุดขายหลักของ BNK48 เหมือนนักร้องวงอื่นทั่วๆ ไป แต่เน้นขายภาพลักษณ์เด็กสาวสดใสบริสุทธิ์ที่พยายามตามฝัน โดยมีเหล่าโอตะเป็นผู้ช่วยทั้งการสนับสนุนในทุกช่องทางของเมมเบอร์ และทางต้นสังกัดคอยตามเชียร์และทุ่มเทเพื่อไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบ

ดังนั้น ถ้ามองดีๆ กฎแต่ละข้อก็ดูเหมือนจะออกมาอำนวยให้กับกลุ่มโอตะเหมือนกัน เพราะถ้าหากความนิยมลดลง หรือโอตะเฮน (เลิกชอบ) ออกจากวงไป แล้วต้นสังกัดจะขายใคร จริงมั้ย?

กฎเหล็กสำหรับสมาชิก จึงเป็นเหมือนตัวช่วยที่จะรักษาความชอบของโอตะไว้ให้นานที่สุด ขณะเดียวกันก็ถือเป็นสิ่งที่จะช่วยรักษามาตรฐานของวงหรือแบรนด์ไว้ให้ได้นานที่สุดไปพร้อมกัน.