หากใครอยากไปลงทุนประเทศจีน ต้องไม่พลาดผลวิจัยนี้จาก “โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์” ประจำประเทศจีน ซึ่งระบุว่าอีก 10 ปีข้างผู้สูงอายุของจีนในวัยเกิน 50 ปี จะเพิ่มขึ้นถึง 37% และในปี 2015 ยอดใช้จ่ายต่อคนจะเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า อยู่ที่มากกว่า 4,000 เหรียญสหรัฐต่อคน
สำหรับสื่อที่นิยมใช้ในเมืองใหญ่ระดับเกรดเอ พบว่า 85% มีการใช้อีเมลในการติดต่อสื่อสารกัน ส่วนในเมืองรองๆ และชนบท การสื่อสารแบบพูดคุยกันในกลุ่มยังเป็นที่นิยมมากที่สุด และทีวีมีอิทธิพลสูง โดยเฉพาะสถานี CCTV
เป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าตลาดเมืองจีนยังสดใสอีกมาก หากใครรู้ข้อมูล และเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจโอกาสก็จะมาถึงก่อนใคร โดยเฉพาะจากกลุ่มวัยทอง ที่สามารถสร้างรายได้ให้จริงๆ อย่างที่มีการพูดกันในแวดวงโฆษณาว่าทั้งโนเกียและซัมซุง ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลก ต่างแข่งกันทำตลาดทั้งในกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน และผู้หญิง นอกเหนือจากนี้แล้วจึงไม่ควรมองข้ามตลาดผู้สูงอายุ ที่ต้องการมือถือที่ใช้ง่าย และราคาไม่แพง
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจท้องถิ่นของจีนก็ได้พยายามเจาะตลาดนี้แล้ว ด้วยการเน้นคุณสมบัติการใช้งานง่าย และดีไซน์ไม่หวือหวา มีทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดูแลสุขภาพ เช่น แบรนด์ SAMJING, Nao Bai Jin ส่วนแบรนด์ต่างชาติก็มีบ้าง เช่น อุปกรณ์เครื่องช่วยฟัง ของ Siemens, ReSound, StarKey, AST แต่ก็ยังถือว่าไม่มาก และโอกาสสำหรับแบรนด์ข้ามชาติก็ยังมีอยู่
อายุ 50+ ยังกระตุ้นให้วงการเอเจนซี่คึกคัก อย่างเช่น Kim Walker อดีตผู้บริหารของเอเยนซี่ชื่อดังระดับโลก ก็มาตั้งบริษัทที่ปรึกษาชื่อ Silver เพื่อเน้นเจาะกลุ่มผู้สูงวัยโดยเฉพาะ
สำหรับบ้านเราที่มีหลายสินค้าเน้น 40+ อยู่แล้ว หากใครอยากลองหาช่องว่างการตลาด ด้วยการลองหันมาศึกษากลุ่ม 50+ ดูบ้าง รับรองได้ว่าไม่เสียเปล่า เพราะต่อไปนี้วัยทองจะเป็น Target ใหม่ที่ใครๆ ก็อยากเอาใจ