Thanatkit
ต้องยอมรับว่า “กระแสอีสปอร์ต” กำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก ส่งผลให้ “เกม” ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งใน Movement ที่หลายๆ ธุรกิจกำลังให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่เว้นแม้แต่ “Facebook” โซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานเกิน 1 พันล้านคนทั่วโลก ก็ขอมีส่วนเอี่ยวในเรื่องนี้ ด้วยการจัดตั้ง “Facebook Gaming Creator” เมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา
ใจความสำคัญของการจัดตั้ง คือ เพื่อดูแลภาพรวมในเรื่องเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปั้นและดึงเกมเมอร์ หรือจะเรียกว่า “เกมแคสเตอร์” ก็ได้ ซึ่งก็คือคนที่โชว์ภาพวิดีโอของเกมขณะที่ตัวเองเล่น ให้คนอื่นดูพร้อมกับคำบรรยายตามแบบฉบับตัวเอง
ในอดีตมักจะทำเป็นวิดีโอแล้วอัพโหลดลง Youtube แต่หลังจากที่ Facebook เปิดให้ไลฟ์สดได้แล้ว ทำให้เกมแคสเตอร์หลายรายเริ่มหันมาไลฟ์สตรีมเกมผ่าน Facebook มากขึ้น ซึ่งในที่สุดได้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจของ Facebook จึงลงมาลุยอย่างจริงจังเสียเลย
สำหรับในทวีปเอเชีย “เมืองไทย” ถูก Facebook เลือกปักหมุดเป็นแห่งแรก เปิดตัวโครงการ Gaming Creator เมื่อเดือนมิถุนายน โดย สเตฟเฟน ชุน ผู้อำนวยการฝ่ายพันธมิตรเกมประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Facebook ให้เหตุผลว่า
“ที่เลือกไทยเนื่องจากเห็น Organic Growth จากชุมชนผู้เล่นเกม ซึ่งมีการไลฟ์สตรีมเกมเยอะมากบน Facebook ทำให้สนใจ จนต้องตั้งทีมที่เข้ามารองรับเกมแคสเตอร์กลุ่มนี้”
พายุการเติบโตตลาดเกมเมืองไทย “รุนแรงมาก”
ความน่าสนใจของเมืองไทยมาจากข้อมูลที่ ต่อบุญ พ่วงมหา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อและโฆษณา บริษัท ทรู มีเดีย โซลูชั่นส์ จำกัด ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์ และเข้าร่วมในงานแถลงข่าวในครั้งนี้บอกว่า จากที่จับทิศทางตลาดเกมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่า “มีพายุของการเติบโตที่รุนแรงมาก”
ภาพรวมตลาดเกมในไทยวันนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20-30% ต่อปี ถ้านับในอาเซียนด้วยกันในแง่ของมูลค่า ไทยจะเป็นเบอร์ 2 รองจากอินโดนีเซีย ส่วนเอเชียเป็นเบอร์ 8 แต่ถ้านับรวมทั้งโลกจะอยู่อันดับที่ 20 โดยเมืองไทยมีผู้เล่มเกมราว 20 ล้านคน เกือบ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศแล้ว
สิ่งทำให้ตลาดเติบโตอย่างก้าวกระโดด มาจากคนที่เล่นเกมส่วนใหญ่อยู่ใน Gen Y หรือ Gen Z ซึ่งตอบการคอนเทนต์เกมที่สูงมาก จากการเข้ามาของสมาร์ทโฟนทำให้การเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น
รวมไปถึงคอนเทนต์เกมไม่ได้มาจากพับบลิชเชอร์ฝั่งเดียวอีกต่อไป หากตอนนี้มีทั้งอินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ และ เกมแคสเตอร์ เข้ามามากยิ่งขึ้น
อีกอย่างคือ กระอีสปอร์ตที่ได้รับการตอบรับจากภาครัฐ การเล่นเกมไม่ได้เป็นแค่การเอนเตอร์เทน หากสามารถกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ ซึ่งพอมีคนเล่น คนติดตามมากเรื่อยๆ ก็กระตุ้นให้ชุมชนนี้คึกคักมากขึ้น
“ชัดเจนว่าเทรนด์นี้มีแต่ขึ้น เราประเมินตลาดเกมเมืองไทยอีก 3-4 ปีข้างหน้า จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ทุกปีแน่นอน”
เกมแคสเตอร์เข้าร่วมแล้ว 10,000 ราย
เบื้องต้น Facebook Gaming Creator ในเมืองไทย จะเน้นใน 3 ส่วนด้วยกันได้แก่
1.การให้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยเรื่องการทำไลฟ์สตรีม มี “Facebook Stars” ฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ชมสามารถสนับสนุนเกมแคสเตอร์ที่ชื่นชอบ ด้วยการส่ง Stars ที่บางอย่างจะมีค่าใช้จ่ายที่ตัดผ่านบัตรเครดิต อีกทั้งยังมีโหมด Substation ซึ่งต้องเสียเงินเพื่อดูคลิปวิดีโอที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ
2.แนะนำเทคนิคต่างๆ จัดงานให้เกมแคสเตอร์มาเจอกัน หรือจะเป็นรับคำแนะนำจากทีมงาน Facebook ที่บินมาจากสิงคโปร์ โดยเมืองไทยยังไม่ได้มีพนักงานส่วนนี้ประจำอยู่
3.กระตุ้นให้ฐานคนดูเพิ่มมากขึ้น ผ่านการดึงดูดให้เกมแคสเตอร์เข้าร่วม ตอนนี้มีราว 10,000 รายแล้ว
เพื่อกระตุ้นให้เป็นที่รู้จัก และเพิ่มจำนวนเกมแคสเตอร์ให้มากขึ้น ภายในงาน Thailand Game Show ทาง Facebook Gaming Creator ได้มีการเข้าร่วมออกบูธ พร้อมกับให้กมแคสเตอร์ชาวไทย 55 คนและจากทั่วโลกอีก 23 คนมาไลฟ์สตรีมเกมโชว์อีกด้วย
ปัจจุบันนอกเหนือจากในเมืองไทยแล้ว Facebook Gaming Creator ได้ขยายในทวีปเอเชียอีก 5 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย