“ทา–รัน–ทั้น–ทา–รัน–ทั่น” คือทำนองเพลงที่ Mastercard บอกว่าจะเป็น sonic logo หรือโลโก้เสียงซึ่งจะดังทุกครั้งที่ลูกค้าทำการซื้อ ถือเป็นการปรับตัวของบริษัทการเงินที่มีอายุกว่า 53 ปีเพื่อให้ทันกับยุคทองแห่งการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบผู้ช่วยเสียง ซึ่งเชื่อกันว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า
การโชว์ตัวโลโก้เสียงครั้งนี้ทำให้ Mastercard เป็นบริษัทล่าสุดที่เริ่มสร้างแบรนด์ด้วยเสียง ซึ่งที่ผ่านมา มีหลายบริษัทเริ่มเดินกลยุทธ์นี้เพื่อให้แบรนด์มีสิทธิ์สร้างและสงวนทำนองเพลงให้กับแบรนด์ได้ก่อนแบรนด์อื่น โดยที่เพลงเหล่านี้จะใช้บ่งบอกตัวตนของแบรนด์เช่นเดียวกับเครื่องหมายการค้าหรือโลโก้ที่พิมพ์บนกระดาษ
สำหรับโลโก้เสียงของ Mastercard นี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกในโฆษณาภายในรายการถ่ายทอดสดรางวัลแกรมมี่อะวอร์ดส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จุดนี้ Mastercard ระบุว่าโลโก้เสียงของบริษัทจะดังขึ้นหลังจากการทำธุรกรรมบัตรเครดิตที่สำเร็จแล้วทุกครั้ง
แต่งนาน 2 ปี
โลโก้เสียงของ Mastercard ที่จะดังขึ้นหลังการทำธุรกรรมสำเร็จนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเพลงฉบับเต็มที่ Mastercard ระบุว่าพัฒนาขึ้นพร้อมกับศิลปิน นักดนตรี และนักการตลาดหลายคนตลอดระยะเวลา 2 ปี จากเพลงหลักความยาว 90 วินาที Mastercard วางแผนที่จะใช้ทำนองเพลงนี้เป็นเสียงเรียกเข้า, เสียงจิงเกิลโฆษณา, เสียงเพลงรอสาย และอีกหลากหลายรูปแบบที่ต้องใช้เสียงในบริการ
Raja Rajamannar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Mastercard ให้ความเห็นว่า “เสียงนั้นช่วยเพิ่มมิติใหม่ให้แบรนด์ของเรา” Raja Rajamannar เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด Mastercard อย่างเป็นรูปธรรม โดยระบุในแถลงการณ์ว่าโลโก้เสียงจะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้คนรู้จักและจดจำ Mastercard ได้ในปัจจุบันและในอนาคต
โลโก้เสียงยังมีประโยชน์อย่างยิ่ง ณ จุดขายในร้านค้าด้วย จุดนี้ผู้บริหาร Mastercard เชื่อว่าช่วงเวลารูดบัตรที่มักเงียบและได้ยินเสียงรูดการ์ดปกติ เสียงโลโก้ของ Mastercard จะช่วยยืนยันกับลูกค้าที่ยืนอยู่ได้ว่าการชำระเงินสำเร็จ
ปรับตัวรับยุคช้อปปิ้งด้วยเสียง
การสำรวจล่าสุดพบว่า ตลาดการช้อปปิ้งด้วยเสียงจะมีเงินสะพัดเกิน 4 หมื่นล้านเหรียญในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ ทำให้หลายบริษัทเริ่มนึกถึงการสร้างท่วงทำนองเพลงที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับแบรนด์ ซึ่งที่ผ่านมา หลายแบรนด์พยายามยึดกลยุทธ์นี้จนทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ขึ้นใจไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด
Matt Lieber กูรูการตลาดแห่ง Gimlet อธิบายว่า เสียงถือเป็นสื่อที่ยอดเยี่ยมสำหรับการโฆษณา เนื่องจากเสียงทำให้เกิดการสื่อสารแบบส่วนตัว และยังเกิดขึ้นในจินตนาการของทุกคน ดังนั้น ภาพทั่วไปจึงสร้างความรู้สึกหรือย้ำความทรงจำได้ยากกว่าเสียง
การสำรวจที่จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์ของบริษัท PHMG ยังแนะนำว่า 60% ของผู้บริโภคสามารถจดจำเพลงที่เล่นในโฆษณาได้มากกว่าภาพที่พวกเขาเห็นบนหน้าจอ ซึ่งที่ผ่านมาแบรนด์ใหญ่เช่น Intel, Skype, Coca-Cola และ McDonald’s ล้วนมีการสร้างโลโก้เสียงที่ชัดเจนในช่วงก่อนหน้านี้
ที่มา : https://qz.com/1547366/mastercard-has-a-new-sonic-logo/