อัตตลักษณ์ของบ้านแต่ละหลัง มักขึ้นอยู่กับคาแร็กเตอร์เจ้าของบ้าน หรือบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเป็นสำคัญ
โดยเฉพาะบ้านระดับ Super Luxury ด้วยแล้ว ตัวตนของผู้อาศัยที่สะท้อนผ่านสไตล์ของบ้านและการตกแต่งยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น
และเทรนด์ในปีนี้ ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท Jarken ได้เปิดเผยว่า บ้านหรูแบบบูติก โฮเต็ล กำลังตกอยู่ในความสนใจของลูกค้าระดับซูเปอร์ไฮเอนด์
“การเติบโตของโรงแรมประเภทบูติก ส่งผลให้ตลอดสองสามปีที่ผ่านมา กลุ่มคนระดับไฮเอนด์จะรู้สึกคุ้นชินกับสไตล์ที่พักอาศัยรูปแบบนี้ค่อนข้างมาก เมื่อพวกเขาต้องการสร้างบ้านพักอาศัยของตัวเอง จึงอยากได้บ้านที่มีลักษณะใกล้เคียงกับบูติก โฮเต็ลให้มากที่สุด”
ทาง Jarken ที่เชี่ยวชาญการออกแบบงานที่พักอาศัยในระดับบน ก็ตระหนักถึงความต้องการนี้ จึงพัฒนาซีรี่ส์บ้านแบบใหม่ในชื่อ “Mine” ขึ้นมา
ดร.กุลเดช บอกว่า Mine จะเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดของ Jarken ซึ่งที่ผ่านมาได้นำเสนอแบบบ้าน Metro ที่เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมือง และ Mare บ้านพักตากอากาศริมทะเล ซึ่งทั้งสองซีรีส์ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ได้
คนกลุ่มนี้ คือ กลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตและหน้าที่การงาน พวกเขาต้องการบ้านที่สะท้อนคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ้านต้องมีพื้นที่กว้างกว่าปกติ (Over Space & Over Size) โดยมีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตร และโครงสร้างต้องมีขนาดใหญ่กว่าบ้านทั่วไป (Over Scale)
ผู้อยู่อาศัยต้องสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศของบ้าน และพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในมุมไหน หรือเดินผ่านส่วนไหนของตัวบ้าน ก็สามารถมองเห็น และชื่นชมตัวบ้านส่วนอื่นๆ ได้ เปรียบเหมือนการมองเห็นความสำเร็จที่ได้สร้างมา และทำให้นึกย้อนกลับไปในอดีต และเกิดความภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่สะท้อนผ่านทางตัวบ้าน
แม้ราคาบ้านในซีรี่ส์นี้จะสูงถึง 50 – 100 ล้านบาท แต่ ดร.กุลเดช เปิดเผยว่า ตลาดในระดับ Super Luxury ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจแม้แต่น้อย
ในทางกลับกัน ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับ 10% ต่อปี ซึ่งทำให้ตลาดนี้น่าจับตามองและน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ