ถือเป็นการเปิดตัวกับสื่อมวลชนครั้งแรกของคณะกรรมการบริหาร (CEO Management Board : CMB) หลังจากแต่งตั้งไปตั้งแต่ปลายปี 2552 โดยมีจิราธิวัฒน์รุ่น 2 อย่างสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ เป็นประธานกรรมการบริหารและทำหน้าที่เชื่อมประสานกับ Supervisory Board (SB) ซึ่งมีสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ เป็นประธานกรรมการ ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับเสมือนตัวแทนผู้ถือหุ้นคอยดูและให้คำปรึกษาอีกต่อหนึ่งCMB อีกต่อหนึ่ง ขณะที่ปริญญ์ จิราธิวัฒน์ ก็ยังคงเป็น CFO ของกลุ่มเซ็นทรัลและควบตำแหน่งกรรมการบริหารของ CMB ด้วย
เป็นอีกครั้งที่กลุ่มเซ็นทรัลผลัดใบเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
นอกจากนี้คณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วยรุ่น 3 อย่าง ทศ จิราธิวัฒน์ (CRC) กอบชัย จิราธิวัฒน์ (CPN) พิชัย จิราธิวัฒน์ (CMG) ธีระเดช จิราธิวัฒน์(CRG) สุทธิลักษณ์ จิราธิวัฒน์ (Landbank ของกลุ่มเซ็นทรัล) และGerd Steep (CHR) โดยมี Steep เป็นบอร์ดที่เป็นคนนอกตระกูลจิราธิวัฒน์เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เขาเป็นมีประสบการณ์ด้านโรงแรมและรีสอร์ทเหมาะกับธุรกิจในช่วงนี้ของ CHR ที่เน้นการรับบริหารโรงแรมทั้งในและต่างประเทศภายใต้แบรนด์เซ็นทารา
แม้กลุ่มเซ็นทรัลจะดำเนินธุรกิจในไทยมานานกว่า 5 รอบแล้วก็ตาม แต่การสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องจัดเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่ต้องดำเนินการ
นอกจากนี้ M&A (Merger & Acquisition) ยังถูกบรรจุเป็นแผนธุรกิจสำคัญของกล่มเซ็นทรัลอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงการ Synergy ที่สมบูรณ์ (กำไรเพิ่มขึ้น ลดค่าใช้จ่ายได้ชัดเจน)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากซีอาร์ซีไปกรุยทางที่ประเทศจีนล่วงหน้าราว 4 ปี ซีพีเอ็นก็ได้ฤกษ์ไปลงทุนที่นั่นด้วยเช่นกัน แต่ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา ล่าสุดเมื่อต้นปี 2553 กอบชัย จิราธิวัฒน์ หัวเรือใหญ่เซ็นทรัลพัฒนาเพิ่งเดินทางกลับจากการไปดูลู่ทางธุรกิจและที่ดินที่เซี่ยงไฮ้
สุทธิธรรมบอกว่า CMB อุดมไปด้วยคนหนุ่มที่ใจกล้ามีหน้าที่ต้องหาเงินมากขึ้น ดังนั้นเราอาจจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของเซ็นทรัลที่ Aggressive มากขึ้น ขณะที่ทศ จิราธิวัฒน์ บอกว่าเป็นการ Transition ขององค์กรตามยุคสมัย ซึ่งก่อนหน้ามีการปรับปลี่ยนในปี 2545
“ทำให้การทำงานราบรื่นชัดเจนขึ้น แต่งบ 200 บาท ส่วนตัวเห็นว่ายังน้อยไป ที่ต้องผ่าน CMB แต่ก็เป็นจำนวนเงินลงทุนที่สามารถยกหูคุยกันก็รู้เรื่อง แต่ถ้า 1,000 ล้านบาทก็ต้องมานั่งคุยกัน”
ไม่สนกีฬาสี ไม่หวั่นภัยการเมือง เพราะเชื่อว่าคนไทยชินเสียแล้ว ดังนั้นปี 2553 นี้เซ็นทรัลจึงประกาศเดินหน้าลงทุนไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท
ปี 2552 ที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลมียอดขายรวมทั้งสิ้น 110,700 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 9%
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามกันอีกทีว่าไอเดียจากเซ็นทรัลผลัดใบยุคล่าสุดนี้จะผลิดอกออกผลน่าชมเพียงใด แต่อย่างน้อยๆ ส่วนผสมระหว่างรุ่น 2 และรุ่น 3 ของเตียง จิราธิวัฒน์ ก็น่าจะทำให้เซ็นทรัลเติบโตต่อไปได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
