- บิ๊กซี ชิมลางสาขาแรกในกัมพูชาที่ปอยเปต คาดโตปีละ 5-6% เตรียมขยายต่อพนมเปญ-เสียมเรียบ
- กัมพูชาเป็นประเทศที่ 3 นอกจากไทยที่เครือทีซีซีขยายอาณาจักรห้างค้าปลีก
- ปี 2563 บิ๊กซีและเอ็มเอ็ม เมก้ามาร์เก็ต วางงบลงทุนรวม 1,500 ล้านบาท สำหรับขยายสาขาอย่างน้อย 29 สาขาในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม
- ขณะที่ตลาดประเทศไทยมีแผนลงทุนราว 6,000 ล้านบาท แต่เม็ดเงินลงทุนจำนวนนี้ลดลงเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีก่อนที่บิ๊กซีเคยลงทุนปีละกว่า 8,000 ล้านบาท
- รายได้กลุ่มบีเจซีปี 2562 อาจเติบโตเพียง 5-6% หรือน้อยกว่า หลังพบว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายกำลังซื้อชะลอตัวลงโดยเฉพาะในต่างจังหวัด
“บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี หนึ่งในอาณาจักรธุรกิจของทีซีซีกรุ๊ป เพิ่งเปิดสาขาใหม่อย่างเป็นทางการที่ตำบลปอยเปต เมืองชายแดนติดกับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเปิดเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ต พื้นที่อาคารรวม 8,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุน 300 ล้านบาท ถือเป็นสาขาแรกของบิ๊กซีที่ลงทุนในกัมพูชา
ความสนใจของบิ๊กซีที่ขยายสู่กัมพูชา “อัศวิน เตชะเจริญวิกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า เกิดจากบริษัทเล็งเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่โตปีละ 7% และคนกัมพูชาในปอยเปตข้ามฝั่งมาซื้อสินค้าในบิ๊กซี อรัญประเทศเป็นประจำ จำนวนประชากรในตำบลปอยเปตและจังหวัดบันเตียเมียนเจยเองก็หนาแน่นพอที่บิ๊กซีจะลงสาขาได้
สาขาแรกที่ปอยเปตนี้ บิ๊กซีประมาณการณ์ยอดขายเบื้องต้นวันละ 1 ล้านบาท คาดว่าปี 2563 จะทำยอดขายได้ 365 ล้านบาท และเติบโต 5-6% ต่อเนื่อง 3 ปี
ด้าน “แกรี่ ฮาร์ดี้” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ สายงานต่างประเทศ บมจ.บิ๊กซีฯ เสริมว่า บริษัทกำลังศึกษาพฤติกรรมลูกค้า เบื้องต้นพบว่าประชากรกัมพูชานั้น “เด็กกว่า” คนไทย โดยอยู่ในวัย 20 กลางๆ ขณะที่ไทยอยู่ในวัย 35-45 ปี ทำให้สินค้าจะปรับมาจำหน่ายกลุ่มขนมและเสื้อผ้าวัยรุ่น และกำลังพิจารณาขยายเวลาปิดทำการอีก 1 ชั่วโมงเป็น 23.00 น. เพราะพฤติกรรมคนกัมพูชามีเวลาช้อปปิ้งช่วงเย็นตั้งแต่หลัง 5 โมง คึกคักมากที่สุดในช่วงค่ำถึงดึก
เศรษฐกิจเพื่อนบ้านคึกคัก “ทีซีซี” เร่งลงทุน
กัมพูชาเป็นประเทศที่ 3 นอกประเทศไทยที่ เครือทีซีซี ของเจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี” เข้าไปลงทุนห้างค้าปลีก และเป็นประเทศแรกที่ใช้แบรนด์นี้ตั้งแต่ต้น โดยที่ผ่านมา ในลาวจะใช้ กลุ่มบีเจซี รุกตลาด มีการเจวีกับ เอ็มพ้อยท์มาร์ท และเพิ่งเปลี่ยนชื่อสาขาทั้ง 44 สาขาเป็นมินิ บิ๊กซีทั้งหมด ส่วนเวียดนามนั้นเป็นอีกบริษัทในเครือทีซีซีที่เข้าไป ขณะนี้มี 2 แบรนด์คือ เอ็มเอ็ม เมก้า มาร์เก็ต 18 สาขา เป็นห้างค้าส่งขนาดใหญ่ และ บีส์ มาร์ท 107 สาขา เป็นร้านสะดวกซื้อ (สิทธิแบรนด์บิ๊กซีในเวียดนามอยู่ในมือเครือเซ็นทรัล)
อัศวินฉายภาพว่า ประเทศเพื่อนบ้านไทยต่างมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า ได้แก่ เวียดนาม จีดีพีโตปีละ 8-10% กัมพูชาโตปีละ 7% และลาวโตปีละ 5-7% ทำให้มีความน่าสนใจในการลงทุน
ด้านแกรี่กล่าวว่า บีเจซีและทีซีซีวางงบปี 2563 ไว้อย่างน้อย 1,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนห้างค้าปลีกใน 3 ประเทศ แบ่งตามประเทศดังนี้
- เวียดนาม งบลงทุน 1,000 ล้านบาท สำหรับเอ็มเอ็ม เมก้า มาร์เก็ต 3 สาขา และเปิดโมเดลใหม่ เป็นห้างลักษณะฟู้ดเซอร์วิส 5-10 สาขา พื้นที่สาขาละ 2,000-4,000 ตร.ม. ตอบโจทย์ร้านอาหารและโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ฮาลองเบย์ ดานัง
- ลาว งบลงทุน 500 ล้านบาท จะเปิดบิ๊กซี ไฮเปอร์มาร์เก็ต 1 สาขา และมินิ บิ๊กซี 20 สาขา ทั้งหมดในเมืองเวียงจันทน์
- กัมพูชา ยังไม่สรุปงบลงทุน เนื่องจากกำลังหาพื้นที่เพื่อลงทุนบิ๊กซีแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตในพนมเปญหรือเสียมเรียบ หากมีการลงทุนจะใช้งบ 200-300 ล้านบาทต่อสาขา
นอกจากนี้ กลุ่มบีเจซีเพิ่งเปิดสำนักงานใหญ่ใน เมียนมา เพื่อทำธุรกิจเทรดดิ้งสินค้า และจะต่อยอดไปสู่การหาพื้นที่เปิดห้างค้าปลีกเพิ่ม
ลงทุนในไทยลดลงจาก 2-3 ปีก่อน
ตัดกลับมาที่ประเทศไทย ปี 2562 นี้บิ๊กซีลงทุนเปิดสาขาเพิ่มแบ่งเป็น ไฮเปอร์มาร์เก็ต 4 สาขา บิ๊กซี ฟู้ดเพลส 1 สาขา มินิ บิ๊กซี 300 สาขา และร้านขายยาเพรียว 5 สาขา
ปี 2563 บิ๊กซีจะลงทุนราว 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนห้างสาขาใหม่ราว 5,500 ล้านบาท และงบไอทีวางระบบแอปพลิเคชั่น-บิ๊กดาต้าของบริษัท 500 ล้านบาท โดยบริษัทจะ เน้นเปิดสาขามินิ บิ๊กซีอีก 300-400 สาขา ซึ่งจะรุกตลาดหัวเมืองใหญ่มากขึ้น รวมถึงมี ไฮเปอร์มาร์เก็ตใหม่อีก 5-7 สาขา อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินลงทุนนี้นับว่าลดลงจากช่วง 2-3 ปีก่อนที่บิ๊กซีเคยลงทุนปีละกว่า 8,000 ล้านบาท
“การลงทุนก็ลดลงบ้างในไทย” อัศวินกล่าว “แต่เรายังคงเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย ตัวเลขที่ลดลงเป็นเพราะเราเน้นเปิดมินิ บิ๊กซีซึ่งสาขาเล็กแบบนี้ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า”
- อ่านเพิ่มเติม: ‘Big (BJ) C’ เรื่องบิ๊กๆ ของ “อัศวิน เตชะเจริญวิกุล”
สำหรับยอดขายบิ๊กซีปี 2562 ค่อนข้าง ‘หืดจับ’ อัศวินมองว่าอาจจะไม่ถึงเป้าเติบโต 5-6% จากรายได้ปีก่อนหน้าอยู่ที่ 1.4-1.5 แสนล้านบาท เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังตลาดค่อนข้างฝืดตามสภาวะเศรษฐกิจ
ครึ่งปีหลังโดยเฉพาะไตรมาส 4 เหนื่อย หลังออกพรรษาแล้วท้าทายมาก เกิดจากกำลังซื้อต่างจังหวัด รายได้ของเขาไม่เป็นไปตามที่คาด ต้องลุ้นช่วงสิ้นปีจะดันให้ได้ตามเป้าหรือไม่
อัศวินกล่าวปิดท้าย