“แบรนด์เสริมแบรนด์” ด้วย iPad

ต้องบอกว่าเชื่อมือและติดอกติดใจกับผลที่ได้รับจาก App ของiPhone มาก่อน ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต่อไปนี้ไม่รีรอที่จะใช้ iPad เป็น Business Tool ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และยอดขายอย่างชัดเจนเหมือนที่ผ่านมา และยังทำให้แบรนด์นั้นดูคูลขึ้นไปอีกกับอาวุธใหม่ของ Apple นี้

ยานยนต์หรูไม่พลาด Apple Tablet

“เมอร์เซเดส เบนซ์” ขอเป็นเจ้าแรกโดยเป็นธุรกิจด้าน Leasing ในโปรแกรมที่ชื่อว่า “Mercedes-Benz Advantage” เบื้องต้นใช้ในโชว์รูมของดีลเลอร์ 40 แห่งในสหรัฐอเมริกา หวังช่วยในการขายของพนักงานขายให้เร็วขึ้น เข้าถึงข้อมูลการตลาด โปรโมชั่นของแต่ละรุ่นอย่างรวดเร็ว รวมถึงบริการ ต่างๆ โดยเฉพาะการทำธุรกรรมซื้อขาย

สาเหตุที่เบนซ์ตะครุบ iPad ก่อนใครเพื่อนเนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นบริษัทแรกที่ได้ออกโปรแกรมชำระและกู้ผ่านโทรศัพท์มือถือและพบว่ามียอดสูงถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ

ด้าน BMW และ MINI ก็ติดตั้ง App ของตนเองบน iPad เรียบร้อยแล้ว และเอาจริงเอาจังถึงกับออก “iPadvertorial” แคมเปญโฆษณาแบบเต็มสูบ โดยประกอบไปด้วยโฆษณาและเนื้อหารายละเอียดต่างๆ ของ BMW ในรูปแบบของ Interactive Content

ส่วนฮุนได ที่ Re-positioning เป็นแบรนด์รถยนต์ระดับ High-end ก็เปรี้ยวปรี๊ดด้วยการติดตั้ง iPad กับรุ่น Equus (รถราคาราว 1.65 ล้านบาท) ซึ่งเตรียมเปิดตัวในเดือนกันยายน 2553 นี้ แทนคู่มือการใช้รถ โดยiPad นี้จะอัดแน่นไปด้วยคู่มือขนาด 300 หน้า และรูปภาพ Product Line ของฮุนไดอย่างครบครัน

แฟชั่นคึกรับกระแส iPad

ทุกครั้งที่ Apple ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมา อุตสาหกรรมแฟชั่นต่างขานรับเป็นอย่างดี ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันสำหรับ iPad ที่กลายเป็น Big Hit กับ iPad App สำหรับแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้า นอกจากนี้ยังรวมถึงการออกไลน์สินค้าใหม่เพื่อเอาใจ Fashionista ที่คลั่ง iPad ด้วย

Diane von Furstenberg อีกหนึ่งแบรนด์หรูที่ไม่ยอมตกขบวนทำ App บน iPad เนื่องจากติดใจในหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ ภาพคมชัดสูง และ Interactive รวมทั้งคุณสมบัติการพกพาติดตัวไปได้ง่าย ทำให้ DVF ตัดสินใจเข้าสู่โลกของ Digital Markeging อย่างเต็มตัว เพราะโฆษณาที่หรูหราจะได้ส่งต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของมัน

เพราะนักช้อปต้องการภาพที่ High-Resolution กับเทคโนโลยีซูมที่แจ่มแจ๋ว รวมถึงฟีเจอร์ Drag-and-Drop ใส่ใน Shopping Cart ก่อนจะลงมือช้อปออนไลน์ และ iPad ตอบโจทย์นี้ได้

ด้านแบรนด์ Gilt กับ App ที่มีชื่อว่า Gilt for iPad มีผลชัดเจนเพียงแค่วันเดียวหลังจากเปิดใช้พบว่ามียอดขาย2.4% มาจากช่องทาง iPad และตัวเลขที่น่าตกใจคือ ยอดขายของสินค้าผู้ชายใน 10 วันแรกเพิ่มขึ้นถึง 63%

หลุยส์ วิตตอง หรือ LV เฉิดฉายกับผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ iPad โดยเฉพาะ กับ iPad Case ลายโมโนแกรม สัญลักษณ์อันลือลั่นของ LV ใครเป็นทั้งสาวก LV และ Apple คงอดใจแทบไม่ไหว แต่กว่าจะวางจำหน่ายก็คาดว่าจะเป็นในปี 2554 ในราคา 365 เหรียญสหรัฐ หรือราว 12,000 บาท ขณะที่ iPad Case ของ Apple เองจำหน่ายในราคาเพียง 39 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1,300 บาท

Case ใส่ iPad สวย เก๋ สมฐานะ

หลังจาก iPadวางจำหน่ายแล้ว บรรดาธุรกิจที่ทำ Accesseries ก็เร่งออกสินค้าออกมารองรับ โดยเฉพาะเคส กระเป๋า หรือซองที่ในต่างประเทศมีแบบสวย ๆ ให้เลือกจำนวนมาก และครั้งนี้ยังมีบางเคสที่ไม่ใช่ทำเพื่อ iPad เท่านั้น แต่ยังเผื่อมาถึงรุ่นพี่ตัวเล็กอย่าง iPhone อีกด้วย มีจำหน่ายแล้วในต่างประเทศ

Case1
สไตล์ซองผ้าทำด้วยมือแบบย้อนยุค (Blytheking’s iSocket Etsy Cases) ราคา 65-108 เหรียญสหรัฐ

Case 2
ทำจากไม้และไม้ไผ่ หน้า 4 มิลลิเมตร ของ Vers wood case for iPad ราคา 79.99 เหรียญสหรัฐ

Case 3
3 สไตล์ 3 แบบ จาก Belkin แบบ Vue, Max และ Grip ราคา 39.99 เหรรีญสหรัฐ

Case 4
ที่นอกจากช่วยหุ้ม iPad อย่างดีแล้วยังสามารถจัดวางทั้งในแนวนอน และตั้งได้ ของ Quirky Cloak ราคา 42 เหรียญสหรัฐ

Case 5
สำหรับคนรักษ์โลก เลือก Colca Sac ราคา 34.95 เหรียญสหรัฐ

Case 6-1 + 6-2
สำหรับ iPad และ iPhone จาก Cygnett “Glam” ราคา 69.95 และ 29.95 เหรียญสหรัฐ

Case7-1 +7-2
สำหรับคนชอบหรู และทน (แต่คนรักษ์สัตว์คงไม่ชอบนัก) 2 ซองนี้ทำจากหนังลูกแพะ และวัว จำหน่ายที่ร้าน Beautiful Skin ราคา 90 และ 38 เหรียญสหรัฐ