Socializta เปิดข้อมูล Top 5 Influencer จากทุกแพลตฟอร์มยอดนิยม โดยนำเสนอหมวดที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไปในแต่ละเดือน ในเดือนกุมภาพันธ์เป็น Influencer สายสุขภาพ และฟิตเนส พบว่า ชุมชนคนสร้างซิกแพค ครองแชมป์บนเฟซบุ๊ก และ thisisbebe ครองแชมป์บน Instagram
Influencer Marketing ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับแบรนด์ด้านอุปโภคบริโภคที่มีประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบัน เพราะสามารถสร้างทั้งเอ็นเกจเมนต์และคอนเทนต์ที่หลากหลายสำหรับแบรนด์
อ้างอิงจากคนที่ทำงานในแวดวงมีเดียเอเจนซี่ ประมาณการตัวเลขว่ากว่า 30% ของงบโฆษณาที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภค บริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ถูกแบ่งไปที่การทำ Influencer Marketing
แม้ว่า Influencer Marketing ในสายสุขภาพ และฟิตเนสจะยังค่อนข้างเป็นสายเฉพาะ ไม่ได้แมสเหมือนกลุ่มอื่นๆ แต่ความคิดเห็นของคนเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ติดตามให้ความเชื่อถือ พวกเขาถูกมองว่าเป็นคนที่มีความรู้และเชี่ยวชาญจึงทำให้ผู้ติดตามเชื่อมั่นในสิ่งที่พูดถึง จึงเป็นโอกาสทองของแบรนด์ต่างๆ ที่จะเข้ามาร่วมงานกับ Influencer ในสายสุขภาพ และฟิตเนสนี้เพื่อชิงความได้เปรียบ
ในทุกๆ เดือน Positioning จะจับมือกับ Socializta เพื่อเผยแพร่ข้อมูล Top 5 จากทุกแพลตฟอร์มยอดนิยม โดยนำเสนอหมวดที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไปในแต่ละเดือน และสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นี้ ได้นำเสนอ Top 5 Creators ในหมวดสุขภาพ และฟิตเนส จากทั้ง Youtube, Facebook และ Instagram
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเป็นการจัดอันดับของ Influencer สายบิวตี้ไปหมาดๆ
เมื่อแบ่งตามแพลตฟอร์ม
อันดับ 1 ได้แก่ ชุมชนคนสร้างซิกแพค sixpackclub.net ด้วยการทำ 602,838 เอ็นเกจเมนต์
อันดับ 1 ได้แก่ thisisbebe มีเอ็นเกจเมนต์รวมกว่า 1,168,496
Youtube
อันดับ 1 ได้แก่ 10kcalmuscle ที่ทำยอดวิวสูงถึง 7,784,772 วิว
ในส่วนของคนที่มีเอ็นเกจเมนต์เรตสูงสุดบน Facebook ได้แก่ Forcejun ที่ 2.4 % บน Instagram ได้แก่ naefit ที่ 9.2% บน Youtube ได้แก่ Fit Kab Dao ที่ 5.7%
ขั้นตอนและวิธีทำรีพอร์ต
คำจำกัดความ
เอ็นเกจเมนต์ – บน Facebook วัดจากยอดไลค์ คอมเมนต์ รีแอคชั่นและแชร์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลาที่เก็บข้อมูล สำหรับ Instagram วัดจากไลค์ และคอมเมนต์ ในส่วนของ Youtube วัดจากไลค์ และคอมเมนต์เช่นกัน
เอ็นเกจเมนต์เรต – บน Facebook และ Instagram คำนวณจากเอ็นเกจเมนต์ที่เกิดขึ้นในแต่ละโพสต์หารด้วยจำนวนผู้ติดตาม สำหรับ Youtube คำนวณจากเอ็นเกจเมนต์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวิดีโอหารด้วยยอดวิวของวิดีโอ
ยอดวิว – จำนวนวิวจริงที่แสดงให้เห็นในแต่ละวิดีโอ
ขั้นตอนการจัดเก็บข้อมูล เริ่มต้นจากการจัดอันดับท็อป 150 โปรไฟล์ในดาต้าเบสของหมวดสุขภาพและฟิตเนส โดยวัดจากยอดวิว และเอ็นเกจเมนต์สูงสุดที่โพสต์ หรืออัพโหลดในช่วงวันที่ 1-29 กุมภาพันธ์ 2563 และคัดเอา Top 5 ที่ทำเพอร์ฟอร์แมนซ์สูงสุดของแต่ละแพลตฟอร์มมาจัดทำรีพอร์ตชิ้นนี้
มูดิท สวารูพ CEO ของ Socializta กล่าวว่า
“นักการตลาดทั้งคนที่ดูแลแบรนด์ใหญ่ๆ ระดับโลก หรือสินค้าแบรนด์ไทย ให้ความไว้วางใจ Socializta ในการทำแคมเปญที่เกี่ยวกับ Influencer Marketing เพราะเรามีดาต้าเบสของครีเอเตอร์กว่า 250,000 โปรไฟล์เฉพาะในประเทศไทย และกว่า 10 ล้านโปรไฟล์ของครีเอเตอร์จากทั่วโลก
เทรนด์การบริโภคปัจจุบัน เทความสนใจไปให้กับอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารคลีนกันมากขึ้น ผู้บริโภคระมัดระวังกับอาหารที่เลือกทานว่ากินเข้าไปแล้วจะมีผลยังไงต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นธรรมดาที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหรือมีความรู้ในด้านนี้มาให้ความคิดเห็นหรือบอกเล่าสรรพคุณ และเป็นเหตุผลว่าทำไมสินค้าอุปโภคบริโภคถึงต้องการใช้คนเหล่านี้สื่อสารแทนแบรนด์ นอกจากการเป็นตัวยืนในสายสุขภาพและฟิตเนสแล้ว เรายังได้เห็นทั้งแบรนด์อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า รองเท้ากีฬาหรือแม้แต่เครื่องสำอางใช้ Influencer ในสายนี้เช่นกัน“
ทางด้าน สุทธิชา ทองโรย Content Entertainment Supervisor, บริษัท Wavemaker Thailand ได้ให้ความเห็นว่า
“การโฆษณาสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพและฟิตเนสในปัจจุบันต่างกับเมื่อก่อนค่อนข้างมาก เมื่อก่อนจะเน้นลงโฆษณาในนิตยสารผู้ชายหรือที่เกี่ยวกับสุขภาพโดยตรงเพราะมีทางเลือกให้นักการตลาดไม่มาก แต่พอเรื่องสุขภาพกลายเป็นเทรนด์ จากที่เคยเห็นว่าผู้ชายเข้ายิม เข้าฟิตเนสมากกว่าผู้หญิง เดี๋ยวนี้จำนวนน่าจะใกล้เคียงกัน หรือผู้หญิงอาจจะมากกว่าผู้ชายด้วยซ้ำไป
พอคนหันมาให้ความสนใจสุขภาพ ก็จะเริ่มหาความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ดาราหรือเทรนเนอร์ก็เปิดช่องทางให้ความรู้ตามแพลตฟอร์มในโซเชียลมีเดีย จึงดึงความสนใจจากคนรักสุขภาพได้เยอะ และกลายเป็นทางเลือกใหม่ของนักการตลาด เพราะผู้ติดตามของคนเหล่านี้ คือคนที่ใส่ใจและรักสุขภาพจริงๆ
พอเห็นว่า Influencer เหล่านี้ใช้เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์หรือสปอร์ตแกดเจ็ต แบรนด์ไหน ทานอะไร ก็จะมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นี้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพจริงๆ ส่วนเวลาเลือก Influencer สื่อสารแทนแบรนด์ เราไม่ได้มองแค่ว่าเขามีผู้ติดตามเท่าไหร่ แต่เราจะคำนึงถึงเพอร์ฟอร์แมนซ์และเอ็นเกจเมนต์ที่เกิดขึ้นมากกว่า เพราะแสดงให้เห็นว่ามีคนสนใจในสิ่งนั้นจริงๆ”