เรื่องกินไม่เข้าใครออกใคร! ตำรวจในนิวซีแลนด์ถูกเรียกให้ไปควบคุมฝูงชนตามสาขาร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง หลังจากประชาชนจำนวนมากรีบออกไปซื้อเบอร์เกอร์ ตั้งแต่วันแรกที่นิวซีแลนด์ประกาศคลายล็อกดาวน์เหลือระดับ 3
ประชาชนนิวซีแลนด์ต้องใช้ชีวิตตามมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 มานานถึง 5 สัปดาห์ จนกระทั่ง “จาซินดา อาร์เดิร์น” นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศลดระดับการล็อกดาวน์เหลือเป็นระดับ 3 เมื่อคืนวันที่ 27 เม.ย. 63 ทำให้นักเรียนสามารถกลับไปโรงเรียนได้และประชาชนกว่า 4 แสนคนได้กลับไปทำงาน
นอกจากนี้ การคลายล็อกดาวน์เหลือระดับ 3 ทำให้ร้านอาหารและร้านกาแฟบางแห่งได้รับอนุญาตให้เปิดสำหรับซื้อกลับบ้าน ประชาชนจำนวนมากที่โหยหาฟาสต์ฟู้ดและกาแฟยี่ห้อโปรดจึงพากันไปต่อคิวที่ร้าน โดยเฉพาะร้านที่มีบริการแบบ ไดรฟ์ทรู เช่น KFC แมคโดนัลด์ ในเมืองโอ๊กแลนด์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ตำรวจเมืองโอ๊กแลนด์กล่าวว่า ตำรวจได้รับแจ้งเหตุร้องเรียนจากลูกค้าที่ต้องการเข้าคิวไดรฟ์ทรูว่า การจราจรบริเวณนั้นติดขัดจนขวางทางเข้าช่องไดรฟ์ทรูร้านอาหาร
“เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ของเราต้องแจ้งพวกเขาว่า นั่นแหละคือคิวไดรฟ์ทรู” โฆษกกรมตำรวจกล่าว
Queue of cars at Mc Donald’s Manukau early this morning Level :3 day 1 #nzlockdown #auckland #level3 pic.twitter.com/IaR81bZO54
— Hemant Parikh (@hemantparikh) April 27, 2020
ขณะที่เชนร้านเบอร์เกอร์ BurgerFuel สาขาเกลนฟิลด์รายงานว่า เมื่อวานนี้ (28 เม.ย. 63) เป็นวันแรกที่ร้านเปิดบริการ และมีลูกค้ามาสั่งอาหารท่วมท้นจนเกิดความโกลาหล ทำให้ร้านต้องโทรฯ เรียกตำรวจให้เข้าควบคุมสถานการณ์ ร้าน BurgerFuel จึงประกาศในเวลาต่อมาว่าร้านจะรับคำสั่งซื้อทางออนไลน์เท่านั้น และทุกสาขาจะมีพนักงานควบคุมฝูงชน ไม่นานหลังจากนั้น ระบบสั่งออนไลน์ของร้านก็ล่มจากลูกค้าจำนวนมากที่เข้ามาพร้อมกัน
นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นรายงานว่า ตำรวจเข้าจับกุมเหตุละเมิดการเว้นระยะห่างทางสังคมไปแล้ว 104 ครั้งใน 18 ชั่วโมงแรกที่มีการลดระดับผ่อนคลายล็อกดาวน์เหลือระดับ 3 และมีประชาชนโทรฯ แจ้งธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมถึง 742 ครั้ง
ด้าน ฟิล กอฟฟ์ นายกเทศมนตรีเมืองโอ๊กแลนด์ ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันทำตามกฎเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไป โดยเฉพาะภายในร้านอาหาร
“ผมรู้ว่าทุกคนตื่นเต้นที่ได้กลับไปทำกิจวัตรปกติบางอย่างแล้ว เช่น ซื้ออาหารหรือกาแฟกลับบ้าน แต่ผมเป็นห่วงเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมที่หย่อนยานลง” กอฟฟ์กล่าวในแถลงการณ์ “เราต้องทำเช่นนี้ต่อไปอีกสักหน่อย”
แม้ว่าจะลดระดับเหลือระดับ 3 แล้ว แต่รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังแนะนำให้ประชาชนรักษาระยะห่างทางสังคม เว้นที่ว่างจากกันไม่ต่ำกว่า 2 เมตรเมื่อออกไปข้างนอก
