Photo : Haidilao founder Zhang Yong GRAHAM UDEN, Haidilao Singapore
จาง หยง (Zhang Yong) เคยเป็นข่าวดังทั่วโลกช่วงปีที่แล้วเมื่อหุ้น “ไห่ตี้เหลา” (Haidilao) พุ่งทะลุเพดานจนทำให้ผู้ก่อตั้งกลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 3 ของสิงคโปร์ ล่าสุดปี 2020 จางเป็นจุดสนใจอีกครั้งเมื่อตัดสินใจเทขายหุ้น Haidilao มูลค่ารวม 1,560 ล้านเหรียญฮ่องกงในวันเดียว กลายเป็นปรากฏการณ์ว่าจางคือบุคคลที่มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น 6,456 ล้านบาทในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
เงินจำนวนนี้เป็นผลมาจากการขายหุ้น Haidilao ราว 0.89% ที่จางและภรรยาถืออยู่ให้กับ Goldman Sachs ตามประกาศชี้ว่าการขายนี้เกิดขึ้นเนื่องจากราคาหุ้นของ Haidilao พุ่งขึ้นเกือบ 20% สู่ระดับ 35.1 เหรียญฮ่องกง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของ Covid-19 ที่ส่งผลกระทบตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2020 โดยหลังการประกาศเทขายหุ้น หุ้น Haidilao ก็ร่วงลง 2.56% สู่ระดับ 34.2 เหรียญฮ่องกงเมื่อสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
SP NP ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมและ LHY NP ก็ขายหุ้นใน Haidilao จำนวน 47 ล้านหุ้น ที่ราคา 33.2 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้นในสัปดาห์เดียวกัน โดย LHY NP นั้นเป็นบริษัทที่หนุนโดยชู ปิง (Shu Ping) ภรรยาของจาง หยง ผู้ร่วมก่อตั้งที่ควบตำแหน่งประธานและหัวหน้าผู้บริหารของ Haidilao ในขณะที่ชิ หยงฮง (Shi Yonghong) ผู้ร่วมก่อตั้งอีกรายและภรรยาชื่อ หลี่ เหลียนยาง (Li Liyanyan) ก็อยู่ในกลุ่ม LHY NP เช่นกัน สัดส่วนการถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัท จะลดลงเหลือบริษัทละ 7.75%
สรุปแล้ว จางและภรรยาจะถือหุ้น Haidilao โดยตรง 57.23% ในบริษัท NP United ซึ่งจะยังคงเป็นเจ้าของ Haidilao ที่ถือหุ้น 34% ของทั้งหมด แม้ว่า Haidilao จะมีแถลงการณ์แสดงความมั่นใจว่าแนวโน้มธุรกิจของบริษัทจะไปได้สวยในระยะยาว และย้ำว่าขณะนี้ Haidilao ค่อยๆเปิดสาขาในจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้งตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมโดยที่ยังคงมีผู้มารอคิวไม่ต่ำกว่าชั่วโมงเช่นเดิม
แต่การขายหุ้นถือเป็นการส่งสัญญาณว่าผู้ถือหุ้นหวั่นใจกับความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะในมุมผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้เกิดการเทขายหุ้นหลายบริษัทที่ปักหลักทำธุรกิจในจีน เช่น SK E&S Co. Ltd. บริษัทเกาหลีใต้ก็ขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดใน China Gas Holdings เมื่อกลางเมษายนที่ผ่านมา
ชีวิตเถ้าแก่ Haidilao ไม่มีง่าย
คำว่า “หยง” ในภาษาจีนกลางแปลว่าความกล้าหาญ “จาง หยง” ผู้ก่อตั้ง Haidilao (อายุ 49 ปี) และภรรยา ชู ปิง (50 ปี) แสดงความกล้าหาญด้วยการเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนสิงคโปร์ในปี 2018 ก่อนจะไปติดอันดับท็อป 3 เศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของสิงคโปร์บ้านใหม่
ชาวสิงคโปร์ที่ร่ำรวยที่สุดรายนี้เกิดและเติบโตในเขตชนบทของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน จางเคยเล่าถึงวัยเด็กให้นักศึกษาจีนฟังว่ามีแต่ความยากจนและความหิวโหย ผู้คนที่บ้านเกิดเป็นชาวชนบทที่เชื่อว่าถ้ารับเงินจากใครโดยที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ คนนั้นถือว่าเป็นคนโกหก
ไอเดียก่อตั้ง Haidilao ผุดขึ้นหลังจากจางเข้าไปรับประทานหม้อไฟแถวบ้านแล้วรู้สึกไม่ปลื้มก็จริง แต่แนวทางบริหารคนที่ Haidilao นั้นมาจากชีวิตจริงของจางตั้งแต่ช่วงอายุ 14 ปี จางยอมรับว่า ”ระบบคุณค่า” ที่ตัวเขาค้นพบในวัยละอ่อน เป็นเหตุผลที่ทำให้เจางเข้าใจความคิดของพนักงาน Haidilao ในจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวจากเมืองในชนบทที่มีการศึกษาจำกัด
เมื่อเป็นวัยรุ่น จางเข้าห้องสมุดมณฑลเพื่อศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองจากการอ่านหนังสือต่างประเทศ ซึ่งเป็นของหายากในประเทศคอมมิวนิสต์อย่างจีน การอ่านนี้เกิดขึ้นเพื่อหลบหนีอาการเข้าสังคมไม่เป็นของจางในช่วงวัยรุ่น จางเล่าว่าเขากังวลที่เสียงของตัวเองยังไม่แตกหนุ่มเหมือนเด็กอายุ 14 คนอื่น ทำให้เขาไม่มั่นใจในตัวเองและประหม่าจนไม่กล้าคุยกับผู้หญิง และแม้อายุปูนนี้ จางก็ยังไม่รู้วิธีเต้นรำแม้แต่นิดเดียว
ช่วงปี 1980 ห้องสมุดของมณฑลเต็มไปด้วยหนังสือโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง แต่มีการนำหนังสือเข้ามาใหม่จากต่างประเทศระหว่างปี 1983 และ 1984 รวมถึงหนังสือประวัติศาสตร์และบทกวีที่เขียนโดยนักเขียนชื่อดังชาวอินเดีย “รพินทรนาถ ฐากุร” หนังสือเล่มนี้เองที่ทำให้เขาตาสว่าง พบว่าตัวเองไร้ความรู้และอับทึบ
จางตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนมัธยม แล้วเข้าศึกษาที่โรงเรียนอาชีวศึกษาในเฉิงตู จากนั้นจึงทำงานเป็นช่างเชื่อมในโรงงานแทรคเตอร์ของรัฐบาลเป็นเวลา 6 ปี รับรายได้ 93 หยวน หรือประมาณ 400 บาทต่อเดือน ก่อนจะได้มีโอกาสรับประทานอาหารที่ร้านหม้อไฟครั้งแรก
วันนั้นจางนึกอะไรไม่รู้ ตัดสินใจที่จะแก้หิวที่ร้านอาหารแทนที่จะเป็นโรงอาหารของบริษัทเหมือนปกติ แต่ปรากฏว่าอาหารไม่ได้เรื่อง และพนักงานก็หยาบคาย เหตุการณ์นี้ทำให้จางเชื่อมั่นในคุณค่าของงานบริการลูกค้าเหนือสิ่งอื่นใด
ก้าวแรกของ Haidilao
หลังจากมีเรื่องไม่เห็นด้วยกับนายจ้าง จางตัดใจลาออกจากงานแล้วยืมเงินจากเพื่อน 3 คน รวมถึงภรรยาของเขาเพื่อเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ
จาง รวมเงินได้ประมาณ 10,000 หยวน ทุกคนเป็นนักลงทุนตัวจริงใน Haidilao เพราะจางไม่มีเงินติดตัวเพื่อลงทุนใน Haidilao เลย จางสัญญากับทุกคนว่าเงินก้อนนี้จะเติบโตเป็น 150,000 หยวน (ราว 750,000 บาท) ภายใน 5 ปี แล้วสาบานว่าถ้าทำไม่ได้ ก็จะชดเชยเงินคืนให้ทุกคน
เม็ดเงินนี้ถือว่าสูงมากในช่วง 20 ปีก่อน ดังนั้นทุกคนจึงตกใจเล็กน้อย และเงินกู้นี้เองที่ทำให้ภรรยาและเพื่อนอีก 2 คนคือชิ หยงฮง และหลี่ เหลียนยาง กลายเป็นเศรษฐีในเวลาต่อมา
จางดึงดูดลูกค้าเข้าร้านขนาด 4 โต๊ะของเขาด้วยการมอบขนมและส่วนลดฟรี และรับฟังพูดคุยกับลูกค้าอย่างเหมาะสม ความไม่รู้วิธีการปรุงเมนูหม้อไฟในเวลานั้นทำให้จางเน้นที่สุดยอดงานบริการมากกว่าสิ่งอื่น เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะกลับมารับประทานอาหารที่ร้านอีก
ไม่กี่เดือน กิจการ Haidilao แผ่ขยายจนเปิดร้านสาขา 2 ได้ 4 ปีต่อมา Haidilao เปิดสาขาที่ 3 ในซีอาน แต่กลับขาดทุนยับเยิน 300,000 หยวนในครึ่งปี จางยอมรับว่าความล้มเหลวนั้นมาจากการไม่ได้เข้าไปดูแลร้านใหม่อย่างใกล้ชิด และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จางก็ไม่เคยร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นเพื่อเปิดร้าน Haidilao เลย
จางบอกว่าตัวเขาไม่มีกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพียงแต่ต้องการหนีความยากจนที่กัดกินวัยเด็กอย่างร้ายกาจ จางเล่าว่าเพื่อนในวัยเด็กของเขาถูกแม่แท้ๆ วางยาพิษแล้วฆ่าตัวตายตามเพราะสิ้นหวังที่พ่อทิ้งครอบครัวไป เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อจาง ที่มีมุมมองต่อชีวิตเปลี่ยนไปตลอดกาล
จางบอกว่าในเวลานั้น ตัวเขาคิดเพียงว่าต้องการเปลี่ยนโชคชะตาที่เกิดมาเป็นคนจน ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ความคิดนี้กลายเป็นวิสัยทัศน์และค่านิยมของ Haidilao นั่นคือ “จงเปลี่ยนชีวิตคุณด้วยสองมือของคุณเอง”
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จางต้องการหารายได้เป็นสิ่งแรก ระหว่างปี 2011-2012 จางกลับไปเรียนและจบ MBA 2 สาขาจากวิทยาลัย Cheung Kong ในปักกิ่ง ซึ่งจากข้อมูลผู้บริหาร Haidilao ระบุว่าภรรยาของจางก็กลับไปเรียนและได้รับวุฒิ MBA 2 สาขาจาก 2 สถาบัน
ในที่สุด ชื่อเสียงของ Haidilao เรื่องการบริการที่เหลือเชื่อทำให้ลูกค้าอยากทดลองลิ้มรส ทั้งการทำเล็บ (มือ) ฟรี, การแจกผ้าเช็ดหน้าร้อน และมีผ้าอนามัยให้บริการในห้องน้ำหญิง
ปีทอง Haidilao
ผลคือปี 2018 เชนหม้อไฟ Haidilao เปิดร้านอาหารใหม่ทุก 3 วัน จางเชื่อว่าการขยายตัวทั่วโลกนี้เกิดจากความอยากรู้ของชาวต่างชาติในวัฒนธรรมและอาหารจีน จางยังให้เครดิตความสำเร็จของ Haidilao ว่าเป็นเพราะนโยบายส่งเสริมบุคลากรภายใน และการให้ค่าแรงพนักงานอย่างยุติธรรม ตามปริมาณงานของทุกคน
จางย้ำว่า Haidilao จะส่งเสริมพนักงานให้มีบทบาทด้านการจัดการ และจะไม่จ้างบุคลากรภายนอกองค์กรมาบริหาร เช่นกรณีของ Yang Xiaoli ซีอีโอของ.Haidilao ที่เริ่มต้นการทำงานด้วยฐานะพนักงานเสิร์ฟ
พนักงาน Haidilao จะได้รับค่าแรงสูงกว่าร้านทั่วไป ยังมีสิทธิพิเศษ เช่น ที่พักฟรี โครงการฝึกงาน ซึ่งส่งผลให้อัตราการลาออกต่ำมาก ไม่เกิน 10%
ยิ่งในเวลาที่จำนวนลูกค้า Haidilao เพิ่มสูงขึ้น จางมองว่าเป็นเรื่องยุติธรรมที่จะเพิ่มเงินเดือนเนื่องจากพนักงานมีภาระงานมากขึ้น เรียกว่าเข้าใจหัวอกพนักงานเต็มที่
ความร่ำรวยของจางพุ่งปรอทแตกเมื่อ Haidilao สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในเดือนกันยายน 2018 บริษัทสามารถระดมทุนได้ 963 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะตัวเลขที่บันทึกว่าบริษัทมียอดขาย 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017
จางย้ายไปพำนักที่สิงคโปร์ในปีเดียวกัน ความมั่งคั่งโดดเด่นทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจที่นักธุรกิจอพยพออกนอกบ้านเกิด ซึ่งก่อนที่จะย้ายถิ่นฐาน จางติดอันดับเศรษฐีเบอร์ 19 ที่รวยที่สุดในจีน ในปี 2018 นี่เองที่ชื่อ Haidilao ถูกยกเป็นเชนภัตตาคารที่ยิ่งใหญ่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ
หลังจากย้ายไปอยู่ดสิงคโปร์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของจางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าทรัพย์สินรวมมีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ข่าวทรัพย์สินมหาศาลของจางบนเวทีโลกทำให้ชาวเน็ตจีนประหลาดใจ เนื่องจากมีน้อยคนที่ทราบว่าจางอพยพออกมาจากจีนแล้ว โดยชาวจีนหลายคนเรียกร้องให้ร่วมกันคว่ำบาตร Haidilao เพราะรู้สึกเสียใจที่ผู้ก่อตั้งทิ้งบ้านเกิดที่ทำให้เขาร่ำรวยขึ้นมา
ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เชนหม้อไฟ Haidilao เติบโตจากร้านเดียวในบ้านเกิด กลายเป็นร้านหม้อไฟไฮโซที่มีสาขา 460 แห่งทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ซึ่งในภาษาจีนกลาง Haidilao หมายถึงการคว้าสมบัติที่ก้นทะเล ขาไพ่นกกระจอกในมณฑลเสฉวนยังใช้คำนี้กับผู้โชคดีที่เล่นชนะรอบวงโดยใช้ไพ่ใบสุดท้าย ตรงนี้จางเคยให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีจีน ว่าเลือกชื่อนี้หลังจากภรรยาทำคะแนน Haidilao ได้
สำหรับ Haidilao นั้นถือว่าเกมยังไม่จบ และไม่ว่าเศรษฐกิจยุคหลังโควิดจะทำให้อนาคตของ Haidilao เป็นเช่นไร แต่เชื่อว่ามหาเศรษฐีหม้อไฟอย่างจาง ย่อมไม่หมดหวังที่จะทำคะแนน Haidilao เช่นกัน (ถึงแม้ว่าจะชิงเทขายหุ้นบางส่วนไปแล้วก็เถอะ).
ที่มา :
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-05-07/haidilao-founders-sell-stake-when-stock-is-hot-ecm-watch
- https://www.thestandard.com.hk/section-news/section/2/218804/Haidilao-bosses-make-$1.5b-on-stake-sale
- https://www.businessinsider.sg/meet-zhang-yong-the-chinese-billionaire-behind-cult-hotpot-chain-haidilao-who-started-life-as-a-factory-worker-and-is-now-singapores-richest-man
- https://www.scmp.com/magazines/style/news-trends/article/3027049/how-did-hotpot-billionaire-zhang-yong-hit-jackpot
- https://www.forbes.com/sites/pamelaambler/2018/09/12/meet-chinas-richest-restauranteur-a-high-school-dropout-who-became-a-hotpot-billionaire-2/#432cce121468
- https://vulcanpost.com/659450/haidilao-founder-chinese-hotpot-chain/