AIS เตรียมพร้อมในการต้อนรับพนักงานกลับเข้าทำงานที่สำนักงานเหมือนเดิม แต่ใช้วิธีการแบ่งทีม A, B สลับกันทีมละ 2 สัปดาห์ เพื่อลดความหนาแน่น 50% ทางด้าน CEO สมชัย ลงทุนแพ็กชุด Welcome Back ให้พนักงานด้วยตัวเอง แบ่งทีม
สถานการณ์ดีขึ้น เริ่มกลับเข้าออฟฟิศ
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีการเริ่มคลายล็อกดาวน์ในระยะที่ 2 เพื่อให้เศรษฐกินเริ่มฟื้นตัว แล้วได้ทำธุรกิจกันอีกครั้ง
ทางด้านขององค์กรเอง บางแห่งก็เริ่มมีสัญญาณให้พนักงานกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ หลังจากมีมาตรการ Work from Home กันเป็นเวลา 2 เดือนเต็มๆ แต่ยังคงรักษาระยะห่าง ลดความหนาแน่นของมวลชนอยู่
โดยที่ AIS ได้เริ่มให้พนักงานกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศแล้ว แต่มีมาตรการความปลอดภัย ในหลักการสลับทีมเข้ามาทำงาน แบ่งเป็นทีม A, B สลับเข้าคนละ 2 สัปดาห์ ลดความหนาแน่นลง 50%
กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยาก
“จากสถานการณ์ภาพรวมปัจจุบัน ที่การตรวจพบผู้ติดเชื้ออยู่ในอั
“ในส่วนของเอไอเอสนั้น บริษัทฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์
AIS ให้พนักงานกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศแบบ 50% ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคมเป็นต้นไป ด้วยแนวคิด “FIT FUN FAIR ชนะภัยโควิด” ภายใต้มาตรการดูแลด้านสุขอนามัย
1. แบ่งพนักงานออกเป็นทีม A, B ที่จะสลับกันเข้าทำงานในสำนักงา
2. บริหารรูปแบบการใช้พื้นที่ใหม่ต
3. มีการคัดกรองและดูแลด้านสุขอนามั
4. ยังคงให้พนักงานงดการเดินทางทั้
พนักงานอุ่นใจ CEO แพ็กชุด Welcome Back ด้วยตัวเอง
AIS ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกองค์กรที่มีการดูแลพนักงานอย่างดี และอบอุ่น การต้อนรับพนักงานกลับเข้าทำงานของ AIS คงจะธรรมดาไม่ได้ โดยมีกิมมิกสำคัญอยู่ที่การมีชุด Welcome Back ที่เป็นเหมือนถุงยังชีพเพื่อต้อนรับพนักงาน
งานนี้ CEO สมชัย เลิสสุทธิวงค์ ได้ลงทุนแพ็กชุด Welcome Back เพื่อต้อนรับพนักงานด้วยตัวเอง ภายในประกอบด้วยวิตามินซี และ “กำลังใจ” ในการส่งต่อให้พนักงาน
สมชัยได้โพสต์ความในใจลงในเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาว่า
เกือบ 2 เดือนที่พวกเรา WFH เต็มรูปแบบ ถามว่าทำงานได้มั้ย ตอบเลยว่า ได้ ถามว่า บรรยากาศเหมือนเดิมมั้ย ตอบได้อีกเหมือนกันเลยว่า ก็ไม่เชิง เพราะยังไงการได้ทำงานรวมทีม เจอะหน้าตา (แม้จะใต้หน้ากาก) ก็ย่อมดีกว่าแน่ๆ
ปรากฏการณ์โควิด-19 บอกเราว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน และผลกระทบมหาศาลที่เกิดขึ้นไปทั่วโลกวันนี้กำลังส่งผลเป็น Domino Effect สิ่งที่เราจะทำได้คือ เตรียมพร้อมให้มากที่สุด ทั้งเรื่อง Re Structure และการ Re Skill เพื่อเตรียมตัวในโลกหลัง COVID-19 นี้
แต่ยังไงผมก็คิดว่า COVID-19 ก็มีประโยชน์กับพวกเรา ใน 2-3 เรื่อง
1. เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เราต้องกระโดดออกจาก Comfort Zone ทำในสิ่งที่เมื่อก่อนอาจจะละเลย ไม่ยอมลงมือซะที ให้เกิดขึ้นจริงได้ เกิด new business model แบบเหนือความคาดหมาย เพราะ Digilization มันจะมาเร็วกว่าที่เราคิด
2. เป็นกระดิ่งเตือน ให้เราต้องย้อนกลับมาดูเป้าหมายของชีวิตเราให้ชัดๆ โดยเฉพาะการดูแลตัวเอง และคนที่เรารัก
3. เป็นตัวยืนยันว่า คนไทยไม่เคยทิ้งกัน และจะช่วยเหลือกันเสมอ แม้จะยากลำบากกันอย่างไร
วันนี้ วันที่เอไอเอสเราเริ่มต้อนรับพนักงานกลับเข้ามาทำงาน 50% เพราะแม้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น แต่ต้องขอยืมคำคุณหมอทวีศิลป์มาบอกว่า “การ์ดต้องไม่ตก” มาใช้ เราเลยแบ่งทีมเป็น A,B ตามลักษณะงาน สลับกันเข้า Office คนละ 2 อาทิตย์ พร้อมจัดที่นั่งห่างๆ อย่างห่วงๆ และเน้นใช้ online first ในการทำงานทุกอย่าง
เมื่อวันศุกร์ ผมเลยขอมาช่วยทีม HR ที่เป็นแม่งานหลักในการดูแลพนักงานเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา จัดชุด welcome back ส่งกำลังใจพร้อมวิตามินซี ต้อนรับน้องๆ กลับมาทำงาน เพื่อให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง พร้อมเดินต่อไปด้วยกัน