‘BASE’ ชี้ ‘Hybrid Model’ ฟ้าหลังฝนของตลาด ‘Fitness’ และจะเป็น ‘New Normal’ ในอนาคต

เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ไปเต็ม ๆ สำหรับ ‘ฟิตเนส’ (Fitness) ที่ต้องปิดตัวไปนาน 75 วันเช่นเดียวกันกับโรงภาพยนตร์ และแน่นอนว่าการกลับมาเปิดอีกครั้งนั้น ไม่สามารถให้บริการได้เหมือนเดิม 100% เพราะต้องเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย หรือ Social Distancing

‘BASE’ (เบส) แบรนด์ฟิตเนส พรีเมียมที่มีเพียง 3 สาขา หลังจากเปิดมา 4 ปีก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบ โดยคุณ Jack Thomas ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BASE กล่าวว่า แน่นอนในตลาดฟิตเนสช่วงที่ผ่านมาอาจมีบางแบรนด์ที่ไม่รอดตั้งแต่แรก และจากนี้อาจ หายไปเพราะพิษเศรษฐกิจ แต่ถ้ารอดไปได้ อกาสของตลาดจากนี้จะมีมหาศาล เพราะเทรนด์ผู้บริโภคในตอนนี้คือ ต้องการดูแลสุขภาพตัวเอง ดังนั้นเขาจะมองหาฟิตเนสเพื่อออกกำลังกาย

Jack Thomas ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BASE

ความต้องการไม่เต็ม 100% ดังนั้น ไม่ต้องรีบร้อน

ในไต้หวันความต้องการเข้าฟิตเนสกลับมา 90% ส่วนเวียดนามกลับมา 80% ส่วนไทยระบุว่า 60-70% พร้อมจะกลับมา ที่เหลือรอดูอีกสักนิด แต่ไม่มีใครที่จะยกเลิกคลาส ดังนั้นหลังจากกลับมาเปิดอีกครั้ง สิ่งสำคัญคือการเรียกความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมา ถือเป็นหึ่งในเรื่องที่ท้าทาย โดยเบสเองต้องลดจำนวนคนและคลาสลง 30% และมีการเช็ดล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ทุก 20 นาที ดังนั้น ต้นทุนในการทำความสะอาดมากกว่าเดิม ดังนั้นการเปิดสาขาจึงไม่ทำทีเดียว 3 สาขา แต่เป็นการทยอยเปิดเพื่อประเมินสถานการณ์

“เราเองก็ต้องตัดต้นทุนไปบางส่วนเพื่อให้อยู่รอด แต่เราก็ยังต้องลงทุนในเทคโนโลยีเบสไลน์ (BASE LINE) ที่เป็นเทคโนโลยีในการบันทึกพัฒนาการทางด้านฟิตเนสของลูกค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า เพราะเราเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะทำให้เราแข็งแรง”

Hybrid Model New Normal ใหม่ของฟิตเนส

ในช่วงที่ต้องปิดให้บริการชั่วคราวถึง 75 วัน เบสได้ให้บริการการประชุมสายผ่านแอปพลิเคชัน Zoom หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ และได้สร้างช่องทางออกกำลงกายออนไลน์ชื่อ ‘เบส เอนี่แวร์’ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ผสมผสานระหว่างคลาสออกกำลังกายถ่ายทอดสดและวิดีโอคลาสของเบสที่ลูกค้าสามารถเล่นที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ เพียงภายในเวลาไม่กี่เดือน ฐานสมาชิกของเบส เอนี่แวร์ได้ขยายไปถึง 150 คน นอกจากนี้ เบสยังให้ลูกค้าเช่าอุปกรณ์เพื่อใช้ออกกำลังกายที่บ้าน ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้รับผลตอบรอบดีมาก

“การให้บริการผ่านออนไลน์ในตอนนี้กลายเป็นเรื่องปกติของหลายธุรกิจรวมถึงธุรกิจฟิตเนส ผู้นำตลาดฟิตเนสออนไลน์อย่าง เพโลตันได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงปีนี้ทั้งในแง่ของราคาหุ้นและการขยายตัวของฐานลูกค้า”

อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าการขยายเข้าสู่ออนไลน์นั้นทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับการแข่งขันในตลาดออนไลน์ ซึ่งมีช่องเป็นล้าน ๆ ช่องสอนการออกกำลังกาย ดังนั้น เบสคงไม่สามารถสู้ได้ จึงขอโฟกัสในตลาดออฟไลน์เหมือนเดิม เพราะจากนี้มองว่าคนจะออกกำลังกายทั้ง 2 แบบ จะไม่เทไปส่วนไหนส่วนหนึ่ง เพราะด้วยประสบการณ์แบบออฟไลน์ที่ให้ และอุปกรณ์ที่มี เป็นสิ่งที่ออนไลน์ไม่สามารถให้ได้

โจทย์สุดท้ายทำให้คนมองการออกกำลังกายเป็นเรื่อง สำคัญ

จากนี้ต้องเจอพิษเศรษฐกิจ เพราะกำลังซื้อที่ลดลง แต่เบสไม่สามารถลดค่าบริการได้ เพราะต้องรักษาความพรีเมียมไว้ ดังนั้น โจทย์ใหญ่จากนี้คือ ต้องทำยังไงก็ได้ให้คนไม่ตัดเรื่องออกกำลังกายออกไป แต่ยอมใช้จ่ายในส่วนอื่นลดลง ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำคัญ ทั้งนี้ เบสมีแผนจะขยายสาขาไปต่างประเทศในช่วงต้นปี 2021 เพราะจากนี้ ฟิตเนสสำคัญจะสำคัญยิ่งขึ้น เนื่องจากคนจะหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นพ้น Covid-19 ไป ตลาดนี้จะเป็นตลาดสำคัญแน่ในอนาคต