กลายเป็นเครื่องมือของเกมการเมืองไปเสียแล้ว สำหรับ ‘TikTok’ แอปวิดีโอสั้นที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหลายประเทศ เพราะล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ประกาศว่าจะแบน TikTok ออกจากสหรัฐฯ เนื่องจากแอปฯ ดังกล่าวอาจเป็นเครื่องมือสำหรับหน่วยข่าวกรองของจีน
ในเดือนมิถุนายน อินเดียได้สั่งแบน 59 แอปพลิเคชันจีน รวมถึง TikTok โดยให้เหตุผลว่า อาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของอินเดีย และเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ เจ้าหน้าที่และสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่าแพลตฟอร์ม TikTok กำลังถูกปักกิ่งนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการจารกรรมข้อมูลให้กับรัฐบาลจีน แต่ทางบริษัทได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิง
ล่าสุด ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศว่าจะแบน TikTok เว้นเสียแต่ว่าแอปฯ นี้จะไม่ได้เป็นของบริษัท ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่อยู่ในจีน พร้อมกับระบุว่า เขาจะสั่งดำเนินการทันที โดยใช้อำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉิน หรือคำสั่งบริหาร แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะบังคับใช้อย่างไร
“ตราบใดที่ TikTok ยังน่ากังวลอยู่ เราจะแบนมันในสหรัฐฯ” ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าว
ทางด้าน Hilary McQuaide โฆษกของ TikTok ยืนยันว่าข้อมูลผู้ใช้ TikTok US ถูกเก็บไว้ในสหรัฐอเมริกา โดยมีการควบคุมอย่างเข้มงวด และบริษัทมุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ระบุว่า ข้อกล่าวหาของ TikTok ส่วนใหญ่เป็นเพียงทฤษฎีและไม่มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าข้อมูลผู้ใช้ของ TikTok นั้นถูกบุกรุกโดยหน่วยข่าวกรองของจีน
อย่างไรก็ตาม ByteDance เองกำลังพิจารณาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร และมีรายงานว่าได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการขายหุ้นใหญ่ใน TikTok โดย Microsoft ยักษ์ใหญ่ไอทีสัญชาติอเมริกาก็กำลังเจรจาเพื่อซื้อ TikTok แต่ ByteDance เองยังไม่ปิดโอกาสที่จะเจรจากับบริษัทอื่น ๆ ที่สนใจ ทั้งนี้ TikTok ถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท
ปัจจุบัน TikTok มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 2 พันล้านครั้ง เติบโตถึง 2 เท่าจากปีที่แล้ว ส่วนในสหรัฐฯ มีผู้ใช้งานมากกว่า 80 ล้านคนต่อวัน