ไขข้อสงสัย “ไทยเอ็นวีดีอาร์” คือใคร…ทำไม “ถือหุ้นใหญ่” บริษัทในตลาดหุ้นไทย?

จากกระเเสการ #เเบน ต่างๆ ทำให้ช่วงนี้หลายคนเข้าไปเช็กรายชื่อ “ผู้ถือหุ้นใหญ่” ตามบริษัททั้งหลายในตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย หรือ SET กันบ้าง หรือถ้าใครเป็นมือใหม่ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยมาสักพักเเล้ว จะสังเกตเห็นว่าเหล่าองค์กรบิ๊กๆ จะมีรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ คือบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (ThaiNVDR) กันทั้งนั้น เกิดความสงสัยว่าบริษัทนี้ คือใครกันเเน่ ทำไมมีเงินลงทุนมากมายขนาดนั้น

วันนี้ Positioning พามาไขข้อสงสัยนี้เเละรู้จัก ThaiNVDR ให้มากขึ้นกัน

บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด” คือใคร?

ไทยเอ็นวีดีอาร์ เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษว่า Thai Non-Voting Depository Receipt : ThaiNVDR หรือ ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงของไทย

อธิบายง่ายๆ ว่า “บริษัทนี้มีหน้าที่เดียวคือการออกใบแสดงสิทธิของหุ้นตัวนั้น” เช่น หากเราซื้อ NVDR ของหุ้นตัวหนึ่ง ก็จะมีสิทธิได้รับผลประโยชน์จากหุ้นตัวที่ซื้อไปเหมือนกับการซื้อหุ้นทั่วไปใน SET ไม่ว่าจะเป็น ได้รับเงินปันผล กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน

เเต่สิ่งที่เเตกต่างของสิทธิ NVDR กับสิทธิของผู้ถือหุ้นทั่วไปคือ ผู้ถือ NVDR จะไม่มีสิทธิในการออกเสียงโหวตในที่ประชุมผู้ถือหุ้น (ตามความหมายตรงๆ ของ Non-Voting )

โหวตไม่ได้…จะลงทุนผ่าน NVDR ทำไมกัน? 

ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของ บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัดก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2543 มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งสิ้น 10 ล้านบาท โดยมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน

ช่วงนั้นเป็นภาวะหลังวิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มยำกุ้ง” ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงตั้งไทยเอ็นวีดีอาร์ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นการลงทุนเเละเสริมสภาพคล่องให้กับตลาดหุ้นไทย โดยการซื้อ-ขาย NVDR ทำได้เหมือนหุ้นทั่วไป คือซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ และซื้อที่ราคาเท่ากับราคาตลาด “ซื้อเป็น NVDR ขายก็เป็น NVDR”

ข้อมูลจาก www.set.or.th ณ วันที่ 22 กันยายน 2563

โดยกลุ่มเป้าหมายเป็น “นักลงทุนต่างชาติ” เป็นหลัก เพราะคนต่างชาติติดปัญหาไม่สามารถถือหุ้นเกินเกณฑ์ที่กำหนด เเละถ้าชาวต่างชาติซื้อขายบนกระดานทั่วไป (Local Share) จะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล ดังนั้นจึงมีทางเลือกให้ซื้อขายผ่านกระดานต่างประเทศ (Foreign) หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR) แทน

ข้อมูลจาก www.set.or.th

รวมไปถึง “คนไทยที่ไม่ประสงค์ออกนาม” ไม่อยากจะแสดงชื่อว่าตัวเองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ก็ลงทุน NVDR ได้เช่นกัน ซึ่งก็จะได้ใบแสดงสิทธิมาแทนหุ้น แล้วไทยเอ็นวีดีอาร์ก็จะไปซื้อหุ้นตัวนั้นแทนให้

ดังนั้น บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด” จึงมีเงินลงทุนจำนวนมาก ที่มาจากเงินของนักลงทุนที่ซื้อขายผ่านบริษัท มักเข้าซื้อหุ้น “บริษัทใหญ่ในไทย” ในทุกอุตสาหกรรม เเละเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ตามที่เราได้เห็นกันบ่อยๆ ใน SET

โดยจะเคลื่อนไหวมากในกลุ่มหุ้นใหญ่ๆ อย่าง SET50 หรือ SET100 เช่น หุ้นที่ NDVR ซื้อมากในปี 2562 ได้แก่ CPALL, BDMS, SCC, SCB, CPF ส่วนหุ้นที่ NDVR ขายมากในปี 2562 ได้แก่ PTTGC, KBANK, TOP, PTT, PTTEP เป็นต้น  

ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้คาดการณ์ว่าถ้าบริษัทไหนมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นไทยเอ็นวีดีอาร์อยู่ด้วยเเล้ว ก็อนุมานได้ว่านักลงทุนต่างชาติกำลังสนใจหุ้นตัวนี้

โดยการที่นักลงทุนต่างชาติ มีจำนวนเงินมหาศาลในการซื้อขายหุ้น ทำให้มีแนวโน้มจะดันราคาหรือกดดันราคาหุ้นได้ เราจึงสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดจากข้อมูลของ NVDR เพื่อดูแนวโน้มราคาหุ้นว่าจะไปในทิศทางใดได้

สรุปเเล้ว คนที่ซื้อขายผ่าน “บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด” ก็เป็นได้ทั้ง นิติบุคคล-นักลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติเเละชาวไทย เป็นนักลงทุนใหญ่ที่ไม่ประสงค์ออกนาม เป็นคนที่เราเห็นบ่อยๆในทีวี เป็นเพื่อน หัวหน้างาน หรือเพื่อนบ้านของเรา ก็อาจจะเป็นได้…