เศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวได้ดี รอดพ้นภาวะถดถอย ขณะที่หลายประเทศทั่วโลก ยังคงต้องหาทางออกจากความวุ่นวายของผลกระทบจาก COVID-19
ล่าสุด สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 3/2020 ระบุว่า เศรษฐกิจประเทศจีนเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย GDP ในไตรมาส 3 เติบโต 4.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการขยายตัวต่อเนื่องไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากไตรมาส 2/2020 ขยายตัว 3.2% เเต่ในไตรมาสแรกของปีนี้ติดลบ 6.8% ทำให้ GDP โดยรวมงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัวอยู่ที่ 0.7%
อย่างไรก็ตาม การขยายตัว 4.9% ของ GDP จีน ก็เป็นการขยายตัวที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของเหล่านักวิเคราะห์ที่ประเมินไว้ว่าจะขยายตัว 5.2% ในไตรมาส 3 สะท้อนว่าจีนยังต้องจัดการกับปัญหาที่ท้าทายเเละมีปัจจัยไม่แน่นอนจำนวนมาก
“กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าจีนจะเป็นเศรษฐกิจใหญ่ของโลกเพียงแห่งเดียวที่ GDP เป็นบวกได้ในปีนี้ โดยประเมินว่าจะขยายตัวที่ 1.9% ก่อนที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 26.8% ในปี 2021”
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวเป็นบวกนั้น เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ผ่านพ้นวิกฤตโระระบาด โดยภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนกันยายนและปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% ในไตรมาส 3 ด้านภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 6.9% ส่งผลให้การผลิตภาคอุตฯ 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโต 1.2% ส่วนภาคบริการ เพิ่มขึ้น 4.3% อัตราว่างงานลดลงเหลือ 5.4%
- ตลาด “ลักชัวรี” จีนฟื้นเร็ว คนรวยแห่ซื้อเเบรนด์เนม ยอดขาย Prada กลับมาโตกว่าปีก่อน COVID-19
- มองอนาคต Uniqlo ในจีน “โตเร็ว” มีร้านค้าแซงญี่ปุ่น รุกโมเดลธุรกิจใหม่ ขยายได้ถึง 1,300 สาขา
จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ หลังจากการเเพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มขึ้นในจีนเมื่อช่วงปลายปี 2019 ตอนนี้หลายประเทศก็ยังคงต้องต่อสู้กับวิกฤตไวรัส เเละได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างเเสนสาหัส
เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวค่อนข้างรวดเร็ว หลังรัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้นโยบายการล็อกดาวน์และการติดตามประชากรที่เข้มงวด โดยปัจจุบันสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศมียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลกเเละกำลังเผชิญกับวิกฤตเเรงงาน ขณะที่ยุโรปก็มีการเเพร่ระบาดระลอกสอง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจยิ่งทรุดลงไปอีก
- สงครามยังไม่จบ! ยุโรปบางส่วน “ล็อกดาวน์” อีกรอบ หลังอัตราติดเชื้อไวรัสโคโรนาสูงขึ้น
- วิกฤตเเรงงานสหรัฐฯ “ผู้หญิง” ต้องออกจากงานมา “ดูเเลลูก” ว่างงานสูงกว่าผู้ชายถึง 8 เท่า