Travel Bubble ฮ่องกง-สิงคโปร์ฮิตจัด “คาเธ่ย์” ไฟลท์เกือบเต็ม ก่อนภาครัฐเบรกมาตรการ

บุญมีแต่กรรมบัง! ยอดจองตั๋ว คาเธ่ย์ แปซิฟิค ไฟลท์ระหว่างฮ่องกง-สิงคโปร์เกือบเต็มทุกที่นั่งไปอีก 2-3 สัปดาห์ หลังภาครัฐมีมาตรการ Travel Bubble ก่อนเผชิญข่าวร้ายเมื่อภาครัฐตัดสินใจเลื่อนใช้มาตรการ เนื่องจากผู้ติดเชื้อในฮ่องกงพุ่งขึ้นสูง

สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค เพิ่งสื่อสารกับนักลงทุนเมื่อวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มาตรการ Travel Bubble ฮ่องกง-สิงคโปร์ ได้ผลดี และจะเป็นประโยชน์กับงบการเงินบริษัท ก่อนที่รัฐจะประกาศเลื่อนการใช้มาตรการนี้ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2020

“ดีมานด์ไฟลท์ไปกลับสิงคโปร์ของเราล้นทะลัก” โรนัลด์ ลัม ผู้อำนวยการบริหาร คาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าว “ในสองสามสัปดาห์ข้างหน้า ไฟลท์เราเกือบจะเต็มทุกที่นั่ง”

แต่ก่อนที่คาเธ่ย์จะได้บินไฟลท์แรกในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2020 รัฐบาลเกาะฮ่องกงได้ประกาศเลื่อนใช้มาตรการ Travel Bubble กับสิงคโปร์ออกไปก่อนสองสัปดาห์ เนื่องจากการระบาดรอบที่สี่เริ่มพุ่งสูงขึ้นในท้องถิ่นฮ่องกงและมีเคสที่ไม่สามารถติดตามแหล่งที่มาของโรคได้

ก่อนหน้านั้นรัฐบาลประกาศไว้แล้วว่า หากมีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 แบบไม่สามารถติดตามแหล่งที่มาของโรคได้เฉลี่ยเกิน 5 คนต่อวันภายใน 7 วันติดต่อกัน มาตรการ Travel Bubble จะถูกพักการใช้งานทันทีสองสัปดาห์ และในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2020 ฮ่องกงมีค่าเฉลี่ยเคสติดเชื้อที่ติดตามโรคไม่ได้ที่ 5.29 คน

Cathay Pacific

เหตุการณ์สุดวิสัยครั้งนี้ทำให้คาเธ่ย์พลาดโอกาสที่จะรับรู้รายได้จากยอดจองตั๋ว เพราะลูกค้าสามารถขอคืนค่าตั๋วได้ตามนโยบาย โดย Bloomberg Intelligence เปิดเผยในรายงานวิจัยว่า เส้นทาง Travel Bubble สองประเทศจะสร้างรายได้ให้คาเธ่ย์ประมาณ 93 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 364 ล้านบาท) และจะช่วยลดการขาดทุนลงได้สูงสุดราว 6% เมื่อมาตรการต้องเลื่อนออกไปเช่นนี้ ทำให้สายการบินน่าจะยังขาดทุนอย่างรุนแรงต่อไป

อย่างไรก็ตาม ความหวังอยู่ที่ปี 2021 ซึ่งสถานการณ์การระบาดน่าจะดีขึ้นและฮ่องกงมีการเจรจา Travel Bubble กับอีก 10 ประเทศในขณะนี้ ที่อาจจะเริ่มใช้มาตรการได้ปีหน้า

คาเธ่ย์ แปซิฟิคเป็นหนึ่งในสายการบินที่วิกฤตหนักที่สุดจาก COVID-19 เนื่องจากไม่มีไฟลท์ในประเทศให้พึ่งพิงได้เลย ดังนั้นจำนวนผู้โดยสารจึงลดลง 99% เหลือเพียง 1,500 คนต่อวันในขณะนี้ ทำให้สายการบินต้องปรับตัวอย่างหนัก เช่น การปลดพนักงานออก 5,900 ตำแหน่ง การปิดกิจการสายการบินลูก คาเธ่ย์ ดราก้อน

นอกจากรอลุ้น Travel Bubble แล้ว คาเธ่ย์ต้องหันไปพึ่งธุรกิจคาร์โก้อย่างเต็มที่ โดยคาเธ่ย์เป็นสายการบินคาร์โก้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นหนึ่งในสายการบินไม่กี่เจ้าของโลกที่ได้รับการรับรองให้ขนส่งเวชภัณฑ์ที่ต้องรักษาอุณหภูมิ ดังนั้น น่าจะเป็นโอกาสของคาเธ่ย์ในฐานะผู้ขนส่งวัคซีนป้องกัน COVID-19

Source