ตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 ยอดขายของออนไลน์ทั่วโลกก็เพิ่มสูงขึ้น สำหรับประเทศไทยเองคาดว่าอีคอมเมิร์ซจะเติบโตถึง 35% มีมูลค่าสูงถึง 2.2 แสนล้านบาท และแม้ว่าในบางประเทศจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ หรือบางประเทศที่กำลังระบาดหนัก แต่แนวโน้มการช้อปออนไลน์จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเทศกาลช้อปปิ้งที่กำลังใกล้เข้ามา เช่น Black Friday, Cyber Monday, 12.12, เทศกาลคริสต์มาส จนถึงตรุษจีนปีหน้า
เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้น 21% ในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดย 85% ของผู้คนทั่วโลกใช้เวลาช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ 45% ของคนรุ่นมิลเลนเนียล (Millennial) ยังคงช้อปออนไลน์อย่างต่อเนื่องถึงแม้จะเป็นช่วงหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ยอดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเรากำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปีซึ่งจะมีความต้องการใช้บริการขนส่งสูงขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคต้องการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลมากขึ้นหลังจากที่ต้องเก็บตัวอยู่บ้านมานานในช่วงแพร่ระบาด ประสบการณ์การช้อปปิ้งของผู้บริโภคในปีนี้จึงเปลี่ยนไปจากเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบทั้งธุรกิจค้าปลีก B2C และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ B2B ที่ต้องปรับตัวสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว”
และเพื่อให้การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นไปอย่างราบรื่น ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสเองได้เสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการ โดยระหว่างปี 2020 – 2022 บริษัทได้ลงทุน 690 ล้านยูโร เพื่อสร้างและขยายศูนย์บริการ ฮับและเกต์เวย์ในการดำเนินงานในตลาดที่สำคัญ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเกาหลีใต้ อีกทั้งยังลงทุนมูลค่ากว่า 60 ล้านยูโร เสริมเครือข่ายทางอากาศของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ยังซื้อเครื่องบินขนส่งสินค้าโบอิ้ง 777F แบบ Wide Body จำนวน 6 ลำ เพื่อเพิ่มเที่ยวบินระหว่างทวีปได้มากขึ้น 3,000 เที่ยวต่อปี
ปัจจุบัน ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส มีเครื่องบินขนส่ง 260 ลำทั่วโลก ครอบคลุมสนามบินกว่า 500 แห่ง โดยมีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้ลูกค้ากว่า 2.7 ล้านราย คิดเป็นการขนส่งประเภทขนส่งด่วนภายในเวลาที่กำหนด (Time Definite) จำนวน 262 ล้านชิ้นต่อปี ครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลก