Uniqlo เเบรนด์เเฟชั่นยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ต้องจำใจปิดสาขา “เมียงดง” ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ เเม้จะเคยทำยอดขายสูงสุดมากถึง 2,000 ล้านวอนต่อวัน (ราว 55 ล้านบาท) ก็ตาม โดยสาเหตุหลัก ๆ จากพิษกระเเส “บอยคอตสินค้าญี่ปุ่น” ที่ยังลุกลามไม่หยุด เเละนักท่องเที่ยวที่ลดลงจาก COVID-19
Uniqlo (ยูนิโคล่) เปิดให้บริการสาขาในเมียงดง เเหล่งช้อปปิ้งสุดฮิตใจกลางกรุงโซลของเกาหลีใต้ มาตั้งเเต่ปี 2011 ตอนนี้ได้ขึ้นป้ายเเจ้งถึงการปิดร้านว่า “ขอบคุณที่อุดหนุน” โดยมีกำหนดปิดอย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นเดือนม.ค. ปีหน้านี้
การคว่ำบาตรสินค้าญี่ปุ่นของเกาหลีใต้ ปะทุขึ้นในช่วงฤดูร้อน 2019 เเม้ที่ผ่านมากระเเสดังกล่าวจะซาลงไปบ้าง เเต่ความเคลื่อนไหวยังไม่จางหายไป
เรื่องราวความบาดหมางของทั้งสองประเทศ ต้องย้อนกลับไปที่เหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเวลานั้นญี่ปุ่นเป็นฝ่ายบุกเข้าไปในดินแดนของเกาหลีใต้ มีการกดขี่เเละใช้ความรุนเเรงต่าง ๆ ซึ่งกลายเป็นเเผลในใจของคนเกาหลีเรื่อยมา
เกาหลีใต้ มีการเรียกร้องให้ทางการญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยเเละเเสดงความรับผิดชอบในหลายประเด็น เช่น ความรุนเเรงต่อผู้หญิงในช่วงสงคราม เเละการใช้เเรงงานท้องถิ่น โดยในส่วนค่าชดเชยให้เเรงงานนั้นญี่ปุ่นตกลงที่จะจ่ายให้ เเต่ทางเกาหลีใต้ต้องจ่ายค่าชดเชยเพิ่มจากเดิม เพราะเงินก้อนแรกที่จ่ายคือของแรงงานไม่ใช่ของรัฐบาล
ในปี 2019 ญี่ปุ่นตอบโต้ด้วยการระงับการส่งออกวัตถุดิบของสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงต่อเกาหลีใต้ นี่เป็นจุดที่ทำให้เกิดกระเเส Boycotts of Japanese Products บอยคอตสินค้าญี่ปุ่นขึ้น “อย่างจริงจัง” ในเกาหลีใต้ ส่งผลกระทบต่อแบรนด์สินค้าญี่ปุ่นที่เข้ามาทำตลาดในเเดนกิมจิหลายแบรนด์ ทั้งรถยนต์ เครื่องดื่ม เบียร์ เกมเเละเสื้อผ้าเเฟชั่น ฯลฯ
เเละการที่ Uniqlo นำเสนอภาพยนตร์โฆษณาชุดหนึ่งที่มีการตีความจนกระทบจิตใจคนเกาหลี เเละทางบริษัทต้องถอดโฆษณาดังกล่าวออกไปนั้น ก็ยิ่งทำให้ Uniqlo เป็นเเบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ติดลิสต์บอยคอตลำดับต้น ๆ
พิษจากการ “คว่ำบาตร” เเละผลกระทบจาก COVID-19 ที่นักท่องเที่ยวหายไปเกือบทั้งหมด ทำให้ Uniqlo ซึ่งมีบริษัทเเม่คือ Fast Retailing มีรายได้ในเกาหลีใต้ “ลดลงครึ่งหนึ่ง” สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนสิงหาคม โดยขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 8.83 หมื่นล้านวอน (ราว 2.4 พันล้านบาท)
การปิดสาขาของ Uniqlo ในเมียงดง ไม่ได้เป็นสาขาแรกของเกาหลีใต้ที่ปิดสาขาลงจากพิษการบอยคอต โดยตั้งเเต่เดือน ส.ค. 2019 – ส.ค. 2020 บริษัทได้ปิดสาขาเกาหลีใต้ไปมากถึง 22 สาขา
- มองอนาคต Uniqlo ในจีน “โตเร็ว” มีร้านค้าแซงญี่ปุ่น รุกโมเดลธุรกิจใหม่ ขยายได้ถึง 1,300 สาขา
- นายใหญ่ UNIQLO เปิดใจ : COVID-19 เร่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน 10 ปีอยู่ในปีเดียว
Selective Boycotting : ไม่ได้แบนทุกอย่าง
เเม้สินค้าญี่ปุ่นหลายชนิดจะถูกเเบนจนได้รับผลกระทบ เเต่ก็มีสินค้าบางประเภทที่ยัง “ขายดี”
Asia Nikkei Review วิเคราะห์ว่า ชาวเกาหลีบางส่วนมีการ “เลือกที่จะคว่ำบาตร” (Selective Boycotting) เป็นรายสินค้าไป เเละจะไม่เเบนสินค้าญี่ปุ่นที่หามา “ทดเเทนไม่ได้” เช่น ทามาก็อตจิ (Tamagotchi) ของเล่นสุดฮิตจากยุค 90 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของญี่ปุ่น ซึ่งทำยอดขายถล่มทลายหลังนำมาเปิดตัวอีกครั้งเมื่อปีที่เเล้ว
อีกสินค้าที่รอดพ้นคือ PlayStation 5 เกมคอนโซลยอดนิยมของ Sony ที่วางจำหน่ายในเกาหลีใต้เพียงไม่นานก็ “ขาดตลาด” เป็นสินค้าหายากแม้แต่ในช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงอุปกรณ์ตกปลาที่ผลิตโดย Daiwa และ Shimano ของญี่ปุ่นยังคงได้รับความนิยมเช่นกัน
โดยกระเเส “บอยคอตสินค้าญี่ปุ่น” ของคนเกาหลีใต้ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการ “แบนเชิงสัญลักษณ์” ให้เห็นว่ามีความไม่พอใจต่อเเบรนด์หรือประเทศผู้ผลิตสินค้า ซึ่งไม่ได้ตั้งเป้าไปที่ยอดขายจริง ๆ เเต่เป็นไปเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวทางสังคมเเละธุรกิจนั่นเอง
ที่มา : Asia Nikkei Review , Yonhap