‘ซินเน็ค’ มั่นใจตลาดไอที 64 โตแรงกว่า 63 หลังซัพพลายฟื้นแถมได้ 5G และเกมมิ่งช่วยดัน

แม้ภาพรวมสถานการณ์ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แต่ทว่าสินค้าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต ทำให้ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีแม้ในช่วงที่มีการปิดล็อกน์ดาวน์ (Lockdown) ส่งผลให้สินค้าบางรายการกลับมีความต้องการที่สูงขึ้น อาทิ สินค้ากลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก สินค้ากลุ่ม Tablet/iPad เพื่อใช้สำหรับ Work from home อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้าน ‘ซัพพลายเชน’ กลับเป็นตัวฉุดการเติบโตของตลาด

People in Taipei City take photos of Apple’s newly released iPhone 12, 12 mini as well as 12 Pro and visit stores to collect their pre-orders, as Taiwanese market sources show there has been massive pre-orders of the new generation of iPhones, in Taipei City, Taiwan on 23 October 2020. (Photo by Ceng Shou Yi/NurPhoto via Getty Images)

ไตรมาส 2 ปีหน้า ซัพพลายถึงฟื้น

สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอที ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจไอทีปี 2563 มองว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการระบาดของ COVID-19 เนื่องจากสินค้าไอทียังเป็นสิ่งจำเป็น ขณะที่ช่วงสิ้นปีที่มีโครงการของภาครัฐอย่าง ช้อปดีมีคืนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับยังเติบโตไม่เต็มที่เพราะซัพพลายที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ภาพรวมจึงเติบโตไม่ได้เท่าที่ควรจะเป็น

“กำลังซื้อก็มีผลกระทบบ้าง จะเห็นได้จากตลาดล่าง-กลาง แต่กลุ่มบนไม่ได้รับผลกระทบเลย อย่าง iPhone 12 ก็ขายดีมาก โดยเฉพาะตัว Pro และ Pro Max ที่ขาดตลาด”

ขณะที่ปีหน้าคาดว่าซัพพลายจะฟื้นช่วงไตรมาส 2 อีกทั้งกระแส 5G ในปี 63 ยังแค่เริ่มต้น เชื่อว่าผู้บริโภคจะเริ่มตื่นตัวในปีหน้า สินค้าอย่างสมาร์ทโฟนและแกดเจ็ตอื่น ๆ จะยิ่งได้รับความนิยม ดังนั้น ตลาดไอที 64 มองว่าจะบวกกว่าปี 63

ดึง Nintendo ร่วมพอร์ตปีหน้า

ตลาดเกมมิ่งเป็นอีกตลาดที่เห็นการเติบโตอย่างมากรับกระแสการเติบโตของ e-sport ที่ยังคงความร้อนแรง โดยปัจจุบันซินเน็คฯ ครองมาร์เก็ตแชร์ในพอร์ตเกมมิ่งโน้ตบุ๊กรวมกับเกมมิ่งเกียร์อันดับหนึ่งสูงสุดในประเทศไทย โดยในปี 63 ก็ได้แบรนด์อย่าง ‘Razer’ แบรนด์เกมมิ่งเกียร์ระดับโลกและพร้อมที่จะขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้นในปีหน้าโดยได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของ ‘Nintendo’ นอกจากนี้ อีกกลุ่มสินค้าที่น่าจับตามองคือ กลุ่ม ‘สุขภาพ’ ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน ซึ่งซินเน็คฯ เตรียมจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่เป็นไฮเอนด์เทคโนโลยีในเร็ว ๆ นี้

“สินค้ากลุ่มเกมมิ่งยังเติบโตต่อเนื่อง ด้วยระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเกมที่ถูกพัฒนาขึ้น สามารถเล่นเกมร่วมกันจากเครื่องเล่น Console และ PC ทำให้การตอบรับของผู้เล่นมีจำนวนเพิ่มขึ้น และมีความต้องการอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ที่มีความทันสมัย โดยเรายังคงเดินหน้ารุกตลาดนี้ โดยจะได้เห็นการจับมือกับพันธมิตรแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมพอร์ต ควบคู่ไปกับแผนขยายแพลตฟอร์มด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างต่อเนื่อง”

nintendo switch
Photo : Shutterstock

ภาครัฐยังลงทุน

ในปี 64 ซินเน็คฯ ยังเดินหน้าขยายการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงการอัพเกรดระบบ และอุปกรณ์เทคโนโลยีของภาคเอกชน สนับสนุนการเติบโตของสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียล (Commercial)​ และคลาวด์ & ซิเคียวริตี้ (Cloud & Security) ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง

ล่าสุด ซินเน็คฯ เข้ามาดูแลบริการหลังการขายให้ Xiaomi ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระดับโลก ที่มีสมาร์ทโฟนและสินค้าไลฟ์สไตล์หลากหลายประเภท  ซึ่งก็จะมีโอกาสขยายความร่วมมืออื่น ๆ อีกในอนาคต สะท้อนภาพรวมของซินเน็คฯ อยู่ในธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์การเติบโต ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวกต่อยอดขายและอัตรากำไรของซินเน็คฯ ในปี 2564

มั่นใจปี 64 โต 15%

เนื่องจากปี 63 ที่สินค้าขาดตลาดทำให้ไม่มีการแข่งขันทางด้านราคาที่สูงเกินไป อีกทั้ง บริษัทฯ เน้นเจาะสินค้ากลุ่มที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหาร Product Mix อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้คาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้รายได้อาจจะไม่ได้เติบโตจากปีก่อน แต่ในส่วนของกำไรสามารถเติบโตได้มากกว่าเดิม โดยช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมากำไรสามารถเติบโตถึง 18% และในปี 64 ซินเน็คฯ ตั้งเป้าเติบโตทั้งรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ปัจจุบัน ซินเน็คฯ มีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟนอยู่ราว 40% ตามด้วยสินค้าไอทีในกลุ่มคอนซูเมอร์ราว 40% และกลุ่มธุรกิจองค์กรอีกราว 20%

“จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นช่วงที่ให้บริษัทจำหน่ายสินค้าไอทีหลายแห่งได้ปรับตัว จากการที่สินค้าขาดตลาดส่งผลให้มีการเคลียร์สต๊อกสินค้า และสามารถทำกำไรได้ ส่วนการแข่งขันในปีนี้ถ้าบริหารจัดการสินค้าได้ดี เชื่อว่าทั้งอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตได้อย่างแน่นอน”