หลังจากที่บริษัท Nintendo (นินเทนโด) ผู้ผลิตวิดีโอเกมจากญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ได้วางจำหน่ายเครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นฮิตอย่าง Switch 2 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุด บริษัทได้รายงานรายได้ในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายนว่า พุ่งสูงขึ้นถึง 85% เพราะการมาของ Switch 2
Nintendo ได้รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรกว่า ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 5.23 แสนล้านเยน ในช่วงเดียวกันของปี 2024 เป็นเกือบ 1.1 ล้านล้านเยน (หรือประมาณ 234,000 ล้านบาท) ขณะที่ กำไรสุทธิ อยู่ที่ 1.98 แสนล้านเยน (หรือประมาณ 42,328 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 1.08 แสนล้านเยน ในปีงบประมาณที่แล้ว
ปัจจัยในการเติบโตหลัก ๆ จะมาจาก ยอดขายวิดีโอเกม ที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยยอดขายเกมก็สามารถทำยอดขายรวมไปได้ที่ 20.62 ล้านชุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกมจาก Nintendo Switch รุ่นเก่า สามารถนำมาเล่นบนเครื่อง Switch 2 ได้ โดยเกมยอดนิยบน Switch 2 ได้แก่ Mario Kart World ที่ 9.57 ล้านชุด และ Donkey Kong Bananza ทำยอดขายได้ 3.49 ล้านชุด ส่วนรายได้จากธุรกิจคอนเทนต์อื่น ๆ เช่น ภาพยนตร์ จะชะลอตัวลงเนื่องจากไม่มีภาพยนตร์ใหม่ ๆ เข้าฉาย
จากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกทำให้ Nintendo ได้ปรับเพิ่ม คาดการณ์กำไร สำหรับปีงบประมาณนี้ (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2026) เป็น 3.50 แสนล้านเยน (หรือประมาณ 74,888 ล้านบาท) จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 3 แสนล้านเยน (หรือประมาณ 61,864 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มการคาดการณ์ยอดขายเครื่อง Switch 2 เป็น 19 ล้านเครื่อง จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 15 ล้านเครื่อง โดย Nintendo เปิดเผยว่าสามารถขายเครื่อง Switch 2 ไปได้แล้วมากกว่า 10 ล้านเครื่อง ภายในระยะเวลา 4 เดือน นับตั้งแต่วันวางจำหน่ายจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า ที่ทำยอดขายรวมได้ 4.7 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกัน
นักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการของ Nintendo จะยังคง แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทมักจะทำผลงานได้ดี และคาดว่าจะมีเกมใหม่ที่สำคัญในแฟรนไชส์ Pokemon และ Kirby ออกมาด้วย




