ธนาคารกลางแห่งเวเนซุเอลาเตรียมออกธนบัตรใบละ 1,000,000 โบลิวาร์ในสัปดาห์หน้า หลังประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตเงินเฟ้อขั้นรุนแรงต่อเนื่องหลายปี ซึ่งทำให้เงินสกุลท้องถิ่นมีมูลค่าตกต่ำลงเรื่อยๆ
ธนบัตรราคา 1,000,000 โบลิวาร์นี้จะมีค่าเทียบเท่ากับเงินเพียง 52 เซนต์สหรัฐ หรือประมาณ 16 บาท ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อระหว่างปีซึ่งอยู่ที่ 2,665% ในเดือน ม.ค.
เวเนซุเอลาเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกที่เคยมีเศรษฐกิจรุ่งเรืองมาก ก่อนจะมาประสบวิกฤตหนักในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา อันเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำทำให้การนำเข้าสินค้าลดลง และเกิดภาวะขาดดุลงบประมาณมาโดยตลอด ซึ่งธนาคารกลางก็พยายามแก้ปัญหาด้วยการพิมพ์แบงก์โบลิวาร์ออกมาเพิ่มขึ้น
“ธนบัตรใหม่นี้จะเป็นตัวช่วยเสริมธนบัตรที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันเพื่อตอบสนองความจำเป็นทางเศรษฐกิจ” ธนาคารกลางเวเนซุเอลาระบุในถ้อยแถลง
นอกจากธนบัตรใบละล้าน ธนาคารกลางเวเนซุเอลายังเตรียมที่จะนำธนบัตรชนิด 200,000 และ 500,000 โบลิวาร์ ออกหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ จากเดิมที่มีเพียงธนบัตรใบละ 10,000 โบลิวาร์, 20,000 โบลิวาร์ และ 50,000 โบลิวาร์
ภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงส่งผลให้เงินโบลิวาร์แทบจะมีค่าไม่ต่างจากเศษกระดาษ และทำให้ชาวเวเนซุเอลาส่วนใหญ่หันไปใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร เรียกกระบวนการ Dollarization แบบไม่เป็นทางการนี้ว่าเป็นเสมือน “วาล์วระบาย” (escape valve)
ผู้นำเวเนฯ เอ่ยโทษสหรัฐฯ ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เวเนซุเอลาต้องเผชิญพิษเศรษฐกิจหนักหนาสาหัสอย่างที่เป็นอยู่ ขณะที่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชี้ว่าภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจนี้เป็นผลมาจากนโยบายแทรกแซงของ มาดูโร ที่รับสานต่อมาจากยุคของอดีตประธานาธิบดี อูโก ชาเบซ