รพ.บำรุงราษฎร์เปิดจอง “โมเดอร์นา” เฉพาะ “ผู้ไม่เคยรับวัคซีน” หรือ “รับ Sinovac ครบ 2 เข็ม”

รพ.บำรุงราษฎร์ เปิดรับจองวัคซีน “โมเดอร์นา” วันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ราคาเข็มละ 1,650 บาท เงื่อนไขการจอง รับเฉพาะผู้ที่ “ไม่เคยรับวัคซีนใดๆ” และ “ผู้ที่รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม” เนื่องจากได้รับจัดสรรวัคซีนน้อยกว่าที่ร้องขอ ต้องจำกัดให้กับผู้ที่จำเป็นก่อน

ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ ผศ.นพ.วิชัย เตชะสาธิต แพทย์ผู้ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ และผู้อำนวยการ ศูนย์บัญชาการสถานการณ์โควิด-19 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงการเปิดรับจองวัคซีน “โมเดอร์นา” (Moderna) ดังนี้

รพ.บำรุงราษฎร์จะเปิดจองวัคซีน “โมเดอร์นา” วันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ในราคาเข็มละ 1,650 บาท วางเงื่อนไขรับเฉพาะ 2 กลุ่มหลักก่อน คือ

  • กลุ่มที่ไม่เคยได้รับวัคซีนใดๆ อนุญาตให้จองได้ 2 เข็ม
  • กลุ่มที่รับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ครบ 2 เข็ม อนุญาตให้จองได้ 1 เข็มเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ขั้นตอนการจอง เปิดจองผ่านเว็บไซต์ https://www.bumrungrad.com/ เท่านั้นจะมีการจำกัดโควตาการจองต่อวัน เมื่อกรอกข้อมูลแล้ว เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลการฉีดวัคซีนของท่านว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่และตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับท่านที่จองไม่ทันสามารถลงทะเบียนในวันถัดๆ ไปได้จนกว่าโควตาจะหมด (รพ.บำรุงราษฎร์ขอไม่เปิดเผยจำนวนวัคซีนที่ได้รับจัดสรร)

นอกจากนี้ รพ.บำรุงราษฎร์ขอชี้แจงในหลายๆ ข้อสงสัย ดังนี้

  • การจองขอสงวนสิทธิ์ให้กับลูกค้าเดิมก่อน เหตุผลเพราะโรงพยาบาลมีข้อมูลประวัติการรักษาอยู่แล้ว
  • ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนชื่อในภายหลัง เพื่อป้องกันการขายช่วงทำธุรกิจ
  • หากระหว่างรอวัคซีนโมเดอร์นา ผู้จองตัดสินใจรับวัคซีนอื่นก่อน ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าจอง
  • ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย สามารถทำการจองได้

แจงเหตุไม่รับจองสำหรับผู้รับวัคซีน AstraZeneca แล้ว

เหตุผลที่ขออนุญาตไม่รับจองสำหรับผู้ที่ได้รับ วัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) แล้วนั้น ผศ.นพ.วิชัย อธิบายข้อมูลเชิงวิชาการว่า เนื่องจากผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca ส่วนใหญ่ในไทยจะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป ขณะที่วัคซีนโมเดอร์นาจะนำเข้ามาในไทยช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 จนถึง มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันของผู้ได้รับวัคซีน AstraZeneca จะยังสูงพอสำหรับป้องกันความรุนแรงของโรคได้ จึงยังไม่จำเป็นต้องกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยเข็มที่ 3

ขณะที่กลุ่มที่รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มในไทยส่วนใหญ่จะเป็นบุคลากรการแพทย์ ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับครบ 2 เข็มไปนานมากกว่า 3 เดือนแล้วเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันกำลังลดลงตามธรรมชาติของวัคซีน และบุคลากรด่านหน้าเป็นส่วนสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วย ควรป้องกันความเสี่ยงทั้งตนเองและผู้มารับการรักษา เป้าหมายของโรงพยาบาลจึงต้องการให้วัคซีนบูสเตอร์กับบุคลากรทางการแพทย์ก่อน รวมถึงประชาชนที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบแล้ว

ภญ.อาทิรัตน์ ชี้แจงด้วยว่า ขณะนี้ทุกโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นาต่ำกว่าที่ได้ยื่นขอจัดสรรไป ทำให้เงื่อนไขการรับจองต้องจำกัดให้ผู้ที่จำเป็นก่อน โดยเป้าหมายรพ.บำรุงราษฎร์ต้องการช่วยให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศไทย วัคซีนจำนวนนี้จึงต้องการให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนใดๆ เป็นหลัก เพื่อให้วัคซีนทั่วถึงทุกคน

ผศ.นพ.วิชัยให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์การพัฒนาวัคซีน ปัจจุบันวัคซีนหลายๆ ชนิดกำลังพัฒนา “เจน 2” เพื่อป้องกัน COVID-19 ได้หลายสายพันธุ์ (multi-variants) ซึ่งคาดว่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนราวปลายปีนี้ และอาจจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 1/65 จึงอยากให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนชุดแรกไปเมื่อเร็วๆ นี้ รอการฉีดบูสเตอร์โดสเป็นวัคซีนเจน 2 มากกว่า