ซีอีโอ ‘Flash Express’ ส่งจดหมายขอโทษลูกค้า เหตุค้างส่งพัสดุ ตั้งงบ 200 ล้าน ออกมาตรการ ‘ชดเชย’ ความเสียหาย

ซีอีโอ ‘Flash Express’ ส่งจดหมายขอโทษลูกค้า หลังศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อย ต้องปิดชั่วคราว เนื่องจากพนักงานติดโควิด-19 ทำให้มีพัสดุค้างส่งจำนวนมาก พร้อมตั้งงบ 200 ล้าน ‘ชดเชย-เยียวยา’ ความเสียหาย

วันนี้ (23 ก.ค. 64) คมสันต์ ลี ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) ส่งจดหมายถึงลูกค้า Flash Express ถึงกรณีปิดศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อย ตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมชี้เเจงรายละเอียดการเยียวยาต่างๆ โดยระบุว่า

“จากผลกระทบการปิดศูนย์กระจายพัสดุ (Hub) ที่วังน้อย และเพื่อนร่วมงานของเราหลายคนติดเชื้อโควิดในสาขาต่างๆ ทำให้พัสดุของท่านได้รับการจัดส่งล่าช้า หรือเสียหายจากความล่าช้าในช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้

ผมและเพื่อนร่วมงานแฟลชทุกคนเสียใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น และอยากชี้แจงว่าพวกเราไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะเร่งแก้ไขปัญหาครับ

ผมและเพื่อนร่วมงานต่างทราบดีว่าการขนส่งคือหน้าที่ของเรา เพราะเราคือโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเราทราบมาตลอดว่า ยิ่งเวลานี้ลูกค้าของเราทุกท่านต่างได้รับผลกระทบจากโควิดไม่น้อยกว่าเรา

แต่ภาพเพื่อนร่วมงานที่ต้องติดเชื้อจำนวนมากและหลายท่านที่ต้องแยกกักตัว รวมถึงทีมงานที่เร่งติดต่อหน่วยงานในท้องที่เพื่อให้พวกเขาได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เป็นภาพที่ผมไม่อยากให้เกิดครับ

ยิ่งไปกว่านั้นภาพที่ผมเห็นพัสดุของทุกท่านคงค้างอยู่ในคลังสินค้า และเราไม่สามารถกระจายออกไปได้ (เนื่องจากเราจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการของหน่วยงานต่างๆ ในท้องที่) เป็นภาพที่ผมปวดใจเกินกว่าจะอธิบายได้ในช่วงเวลานี้ครับ

ผมจึงอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เรายังทำได้ไม่ดีพอในการป้องกันผลกระทบจากโรคร้ายนี้ จนทำให้เกิดความเสียหายต่อลูกค้าของเราและเพื่อนร่วมงานครับ

ก่อนหน้าที่เราจะต้องปิดศูนย์กลางกระจายพัสดุ เราพยายามเร่งระบายพัสดุอย่างเต็มกำลัง และหลังจากที่ศูนย์ฯ วังน้อยของเราถูกปิดพื้นที่ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา เราได้แก้ไขปัญหาของพัสดุที่ถูกส่งใหม่ด้วยการส่งพัสดุไปคัดแยกและกระจายต่อในพื้นที่ศูนย์อื่นๆ แทน รวมถึงจัดเตรียมศูนย์ฯ ใหม่เพิ่มเติมเพื่อรองรับพัสดุ

เราพยายามจัดหาผู้คัดแยกและทำงานในศูนย์ฯ เพิ่มเพื่อแทนเพื่อนร่วมงานของเราที่ถูกกักตัว แต่เป็นไปได้ยากมากครับ เพราะพี่น้องทั้งชาวไทยและต่างชาติที่จะมาร่วมงานต่างติดเชื้อมากเหลือเกิน และเรายังรีบจัดหารถขนส่งและถ่ายสินค้าเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน เพื่อระบายสินค้าในศูนย์กระจายสินค้าอื่นๆ ครับ อยากให้ทุกท่านเข้าใจว่าเราได้ทำงานอย่างเต็มกำลังครับ
.
สำหรับความกังวล ความเดือดร้อนใจของทุกท่านในพัสดุที่คงค้างที่ศูนย์ฯ วังน้อย และผลกระทบจากความล่าช้าจากสถานการณ์นี้ ผมขอดูแลและชดเชยด้วยงบประมาณมากกว่า 200 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเสียหายที่ท่านได้รับไม่มากก็น้อย จากความจริงใจของเรา ตามนโยบายดังนี้ครับ

1. สำหรับผู้ส่งพัสดุ-สินค้าที่ถูกจัดส่งระหว่างวันที่ 16 – 31 กรกฎาคม 2564 หากเป็นปัญหาที่พัสดุอยู่ที่ศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) (ยกเว้น ช่วงขารับและขานำส่งพัสดุ) เกินกว่า 3 วัน ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินค่าขนส่ง 100%

2. หากลูกค้าปลายทางปฏิเสธการรับพัสดุเนื่องจากความล่าช้าของปัญหาจากศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) ข้างต้น ทางบริษัทฯ รับผิดชอบค่าตีกลับไปยังผู้ส่งต้นทาง และบริษัทฯ จะคืนเงินค่าขนส่ง 100%

3. หากผู้รับปลายทางที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการส่งล่าช้าจากปัญหาของศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) ข้างต้น ทางบริษัทฯ จะมอบคูปองของแฟลช เอ็กซ์เพรสมูลค่ารวม 50 บาท

4. หากพัสดุเสียหายหรือสูญหายเนื่องจากปัญหาของศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) ข้างต้นทางบริษัทฯจะชดเชยค่าเสียหายเต็มจำนวนอย่างเร็วที่สุด (ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทฯ ที่กำหนด)

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดอื่นได้เพิ่มเติม ที่ www.flashexpress.co.th หรือผ่านแอปพลิเคชัน แฟลชเอ็กซ์เพลส รวมถึงติดต่อทีม Customer Support ที่พร้อมแก้ไขปัญหานี้ให้ท่านอย่างเต็มความสามารถครับ

ผมเข้าใจอย่างดีครับว่า การชดเชยเท่าใดก็ไม่เพียงพอต่อความไว้วางใจที่ทุกท่านเคยให้เราดูแลพัสดุของท่านครับ ในช่วงที่ผ่านมาเราได้พยายามกระจายพัสดุที่คงค้างภายในศูนย์ฯ วังน้อยอย่างเต็มที่ แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ทำให้ยังมีพัสดุคงค้างอยู่ เมื่อบริษัทฯ ได้รับการอนุญาตให้กลับเข้าไปทำงานในพื้นที่จากคณะกรรมการควบคุมโรคแล้วเราจะเร่งดำเนินการจัดส่งในส่วนที่เหลือไปยังผู้รับปลายทางให้เร็วที่สุด

ผมหวังว่าทุกท่านจะยังเปิดโอกาสให้เราได้แสดงคำขอโทษด้วยการให้เราได้รับใช้ทุกท่านเหมือนเคยครับ
สุดท้ายนี้ สถานการณ์โควิดในครั้งนี้เป็นปัญหาหนักที่สุดที่บริษัทของเราเคยเจอ และเป็นเรื่องที่พี่น้องคนไทยไม่อยากให้เกิดขึ้น ผมอยากขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องคนไทยทุกคน ทุกภาคส่วนของสังคม ร่วมกันแก้ไขและผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้

ผมขอบคุณทุกท่าน ทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือเราในด้านต่างๆ เพื่อให้เราแก้ไขความเดือดร้อนของลูกค้าของเราให้ได้เร็วที่สุดครับ

ผมขอขอบคุณทุกความเข้าใจและกำลังใจ ที่ส่งถึงเพื่อนพนักงานของผมที่ยังคงตั้งใจทำงานบริการทุกท่านครับ พวกเราเข้าใจว่างานของเราคือภารกิจสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคสมัยนี้ และที่สำคัญที่สุดคือ ผมขอน้อมรับทุกคำติเตียนที่ลูกค้าทุกท่านมีต่อผมและบริษัทแฟลช เอ็กซ์เพรสครับ ผมน้อบรับทั้งหมดเพื่อจะแก้ไขและปรับปรุงต่อไปครับ

“ขอโทษและขอบคุณจากใจครับ” คมสันต์ ลี

สำหรับ ‘Flash Express’ เป็นบริษัทขนส่งพัสดุที่เพิ่งขึ้นเเท่นสตาร์ทอัพ ‘ยูนิคอร์น’ รายแรกของคนไทย ด้วยมูลค่ากิจการเกิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 31,000 ล้านบาท) เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมมีบริษัทยักษ์ใหญ่เป็น ‘เเบ็กอัพ’ ร่วมลงทุนด้วยอย่าง SCB 10X , OR บริษัทลูกของ ปตท. , กรุงศรีฟินโนเวต เเละ Durbell ฯลฯ

โดยในปี 2563 บริษัทมี ‘ยอดส่ง’ มากกว่า 300 ล้านชิ้น ส่วนในปี 2564 บริษัทมีจำนวนพัสดุเฉลี่ยต่อวันประมาณ 2 ล้านชิ้น เติบโตจากเดิมที่มียอดส่งพัสดุเฉลี่ยอยู่ 1.3 ล้านชิ้นต่อวัน

‘Flash Express’ ใช้กลยุทธ์เรื่อง ‘ราคา’ มาจับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการลดต้นทุนการส่ง ด้วยการเป็นเจ้าเเรกที่ ‘รับพัสดุฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรก’ พร้อมขยายสาขาไปตามชุมชน เเละธุรกิจ Drop-Off มากขึ้น