“สิงคโปร์” ฉีดวัคซีนครบ 70% ทยอยกลับสู่ “ชีวิตปกติ” พิจารณายอมรับวัคซีนจีนเร็วๆ นี้

street food singapore
Photo : Shutterstock
สิงคโปร์ก้าวไปอีกขั้นในการ “อยู่ร่วมกับ COVID-19” หลังจากประชาชนจะได้รับวัคซีนครบ 70% ของทั้งประเทศภายในวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคมนี้ ทำให้ตั้งแต่วันอังคารที่ 10 สิงหาคมเป็นต้นไป สิงคโปร์จะเริ่มคลายล็อกดาวน์ แต่มีข้อกำหนดแยกระหว่างผู้ที่รับวัคซีนแล้วกับยังไม่ได้รับวัคซีน พร้อมพิจารณาเตรียมยอมรับวัคซีนจีนเร็วๆ นี้

สิงคโปร์ หนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงประเทศหนึ่งของทวีปเอเชีย กำลังจะกลับสู่ชีวิตปกติในวันอังคารที่จะถึงนี้ แม้ว่าอัตราการติดเชื้อจะยังไม่กลับเป็นศูนย์

โดยรัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2021 ถึงแผนที่จะคลายข้อบังคับเกี่ยวกับการท่องเที่ยว รวมกลุ่ม อีเวนต์ และการทานอาหารภายในร้านอาหาร ซึ่งมาตรการใหม่จะมีข้อแตกต่างระหว่างผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว กับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือยังไม่ครบโดส นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเตรียมปรับจุดยืนมาให้การยอมรับวัคซีนที่ผลิตจากจีนมากขึ้น

Photo : Shutterstock

ตัวอย่างมาตรการที่จะเริ่มต้นวันที่ 10 สิงหาคม 2021 ของสิงคโปร์ เช่น

  • การเปิดประเทศ : อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานและฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเข้าประเทศได้ และอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา เกาหลีใต้ สามารถเข้าประเทศได้ แต่ต้องกักตัวภายในที่พักของตนเอง (รัฐบาลอยู่ระหว่างเจรจา Travel Bubble กับประเทศที่ควบคุมสถานการณ์ COVID-19 ได้แล้วและประชากรมีอัตราการฉีดวัคซีนสูง เพื่อเปิดการเดินทางระหว่างกันโดยไม่ต้องกักตัวในอนาคต)
  • การทานอาหารภายในร้านอาหาร : อนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วทานอาหารภายในร้านได้ โดยรวมกลุ่มโต๊ะละไม่เกิน 5 คน สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือยังไม่ครบไม่สามารถทานอาหารในร้านได้
  • การทานอาหารภายในโรงอาหาร : กรณีเป็นโรงอาหารหรือฟู้ดคอร์ทที่มีอยู่ทั่วไปในสิงคโปร์ อนุญาตให้ทุกคนไม่ว่าจะฉีดวัคซีนครบโดสแล้วหรือไม่สามารถนั่งทานได้ แต่นั่งรวมกันได้ไม่เกิน 2 คน (ทั้งนี้ ทางการสิงคโปร์มองว่าโรงอาหารซึ่งไม่ติดแอร์ รับลมธรรมชาติ มีโอกาสการแพร่ของเชื้อโรคน้อยกว่าร้านอาหาร)
  • การรวมกลุ่มของประชาชน : อนุญาตให้รวมตัวกันเพิ่มจากเดิม 2 คนเป็น 5 คน ส่วนการจัดกิจกรรมอีเวนต์อนุญาตสูงสุด 500 คน แต่ผู้เข้าร่วมต้องฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยเตรียมจะเพิ่มเป็น 1,000 คนในอนาคต หากประชากรมีสัดส่วนรับวัคซีนครบเพิ่มมากกว่านี้

แม้ว่าสิงคโปร์จะทยอยกลับสู่ชีวิตปกติ แต่รัฐบาลยังเตือนด้วยว่า การล็อกดาวน์อาจจะกลับมาอีกครั้งหากระบบสาธารณสุขเริ่มตึงเครียด

 

เตรียมพิจารณายอมรับวัคซีนจีน

ประเทศสิงคโปร์มีเป้าหมายต่อไปในการฉีดวัคซีน ต้องการให้ครบ 80% ของประเทศภายในต้นเดือนกันยายนนี้ และระหว่างนี้ รัฐบาลอาจเปลี่ยนนิยามการ “ฉีดวัคซีนครบโดส” แตกต่างจากเดิม

Photo: Ministry of Communications and Information / Singapore

ที่ผ่านมา สิงคโปร์นับเฉพาะประชากรที่ฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์-ไบออนเทค” และ “โมเดอร์นา” ครบโดสเท่านั้น จึงจะถือว่าฉีดวัคซีนครบสมบูรณ์ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางการสิงคโปร์ระบุว่ากำลังจะพิจารณาให้ “ซิโนแวค” และ “ซิโนฟาร์ม” ซึ่งเป็นวัคซีนผลิตในจีน นับเป็นการฉีดวัคซีนที่ครบโดสแล้วเช่นกัน จากเดิมที่ผู้ที่ฉีดวัคซีนสองชนิดนี้จะไม่ถือว่าเป็นการฉีดวัคซีนครบสมบูรณ์

เหตุที่สิงคโปร์อาจเปลี่ยนแปลงการพิจารณา เนื่องจากการฉีดวัคซีนครบ 70% ของประชากร ทำให้การพิจารณาสามารถยืดหยุ่นได้มากขึ้น “สิ่งที่สำคัญขณะนี้คือความแตกต่างระหว่างผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนกับผู้ที่รับวัคซีนแล้ว มากกว่าความแตกต่างระหว่างวัคซีนต่างชนิดกัน” Ong Ye Kung รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์กล่าว

Ong ย้ำด้วยว่ากลยุทธ์ของสิงคโปร์จะ “ไปทีละก้าว” มากกว่าการยกเลิกข้อบังคับทั้งหมดในคราวเดียว โดยการเปลี่ยนแปลงทีละก้าวจะพิจารณาไปทีละขั้นๆ

Source