เริ่มช้าเเต่ฉีดเร็ว! ชาวญี่ปุ่นกว่า 50% ได้รับวัคซีนโควิด ‘ครบโดส’ เเล้ว ภายในเวลา 7 เดือน

เเม้จะออกตัวช้ากว่าประเทศร่ำรวยอื่นๆ เเต่ญี่ปุ่นก็เร่งสปีดฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน ‘ครบโดส’ เกิน 50% เเล้ว ภายในเวลาเพียง 7 เดือนเท่านั้น 

ชาวญี่ปุ่น ‘ครึ่งประเทศ’ หรือกว่า 63 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบ 2 เข็มแล้ว นับเป็นอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังเพิ่งเริ่มฉีดไปเมื่อช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

เเม้ว่าญี่ปุ่นจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนโควิด ‘ตามหลัง’ บรรดาประเทศพัฒนาเเล้วอื่นๆ เเต่ตอนนี้อัตราการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่น ขยับเข้าใกล้กับสหราชอาณาจักร และฝรั่งเศสเเล้ว

สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้กระบวนการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นนั้นล่าช้ากว่าประเทศร่ำรวยอื่นๆ มาจากกฎระเบียบการตรวจสอบความปลอดภัยและการอนุมัติที่ ‘ใช้เวลานานกว่า’

อีกทั้งยังเพิ่งเริ่มฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุในเดือนเม.ย. เพราะเจอปัญหาวัคซีนที่นำเข้าจากต่างชาติล่าช้า ขณะที่ประชาชนอีกจำนวนมาก ลังเลในการฉีดวัคซีน เพราะต้องการ ‘ความชัวร์’ เเต่หลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดรุนเเรงขึ้น ผู้คนก็ออกมาฉีดวัคซีนกันมากขึ้น

ญี่ปุ่นฉีดวัคซีน
(Photo by Behrouz Mehri – Pool/Getty Images)

ในเดือนพ.ค. ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนได้ต่อเนื่องเเละทั่วถึงมากขึ้น เฉลี่ยวันละ 1 ล้านโดส เเละหากความเร็วในการฉีดวัคซีนยังคงเดิม ประเมินว่าภายในสิ้นเดือนนี้ ชาวญี่ปุ่นมากกว่า 60% จะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับชาติในยุโรป ทั้งนี้ ชาวอเมริกันกว่า 53% ได้รับวัคซีนครบโดสเเล้ว ส่วนชาวสิงคโปร์ฉีดวัคซีนครบโดสมากกว่า 80%

“หากอัตราการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 80% คาดว่าจะส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ”

เมื่อผ่านเป้าหมายฉีดวัคซีนครอบคลุมประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเเล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นวางเเผนจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ใน ‘ช่วงเดือนพ.ย.’ เช่น ผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบจะได้รับอนุญาตให้เดินทางท่องเที่ยวได้ หรือเปิดให้มีการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากได้

อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ยังมีการระบาดเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่ม ‘คนหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน’ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องประกาศขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินที่กรุงโตเกียวและอีก 18 พื้นที่ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. โดยร้านอาหารต้องปิดเร็วกว่าปกติ เเละห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิดสะสมของญี่ปุ่น ล่าสุดอยู่ที่ราว 1.65 ล้านคน เสียชีวิต 16,700 คน จากประชากรทั้งหมด 125.4 ล้านคน

ด้านความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น ช่วงไตรมาส 3 (ก.ค-ก.ย.) เริ่มกลับเป็น ‘บวก’ ได้ครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส เนื่องจากฉีดวัคซีนมีความคืบหน้า ทำให้มีความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

ที่มา : Kyodo , AP