การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเเละยาวนานเกินไปของ ‘เวียดนาม’ จุดชนวนการขาดแคลนสินค้าเเบรนด์ดังทั่วโลก ตั้งแต่รองเท้า เสื้อกันหนาว ไปจนถึงชิ้นส่วนรถยนต์และกาแฟ
โรงงานเวียดนามต่างๆ ในเวียดนาม เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น และสร้างความกังวลต่อเนื่องไปถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
การระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดในเวียดนามที่มีความรุนเเรง ทำให้รัฐบาลต้องประกาศมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด ทำให้กำลังผลิตของโรงงานต่างๆ ลดลงถึง 50%
เหล่านี้ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอเเละเเบรนด์เเฟชั่นยักษ์ใหญ่อย่าง Nike และ Gap ที่ต่างพึ่งพาผู้ผลิตในประเทศเเถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความล่าช้าและข้อจำกัดต่างๆ ในการเดินทาง ทั้งการนำเข้าสินค้าและส่งออก สร้างความปวดหัวครั้งใหญ่ให้กับ ‘ธุรกิจต่างชาติ’ ที่หลายเจ้าได้ย้ายฐานผลิตจากจีน มายังอาเซียนมากขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ
Nike กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปกรณ์กีฬาและได้ปรับลดการคาดการณ์ยอดขายลงมา จากสาเหตุหลักๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโรงงานผลิตในเวียดนามกว่า 80% ในภาคใต้ และเกือบครึ่งหนึ่งของโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่ต้องปิดทำการชั่วคราว
แม้ว่าโรงงานบางเเห่งจะปรับระบบให้พนักงานสามารถกิน–ทำงานและนอนค้างคืน ในพื้นที่โรงงานได้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการล็อกดาวน์ เเต่ก็ยังมีกำลังผลิตที่น้อยกว่าเดิมมาก
เเละถึงแม้ว่ามาตรการล็อกดาวน์จะค่อยๆ คลี่คลายลงเเล้ว เเต่เเบรนด์ต่างๆ ก็ยังกังวลกับผลกระทบ ‘ระยะยาว’ ต่อการผลิตในเวียดนาม โดย Nike และ Adidas ยอมรับว่าพวกเขาต้องการโรงงานผลิตแห่งอื่นชั่วคราว
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปยังซัพพลายของวงการ ‘กาแฟ’ ด้วย
โดยเวียดนามเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มักใช้ใน ‘กาแฟสำเร็จรูป’ ทำให้ตอนนี้ราคากาแฟขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี
ด้านบริษัทรถยนต์ก็มีการปรับลดการผลิตลงเช่นกัน โดยยักษ์ใหญ่อย่าง ‘โตโยต้า’ เพิ่งลดการผลิตประจำเดือน ก.ย.และต.ค.ลง โดยส่วนหนึ่งมาจากปัญหาโรครบะบาดที่ส่งผลกระทบหนักในเวียดนาม มาเลเซีย รวมถึงไทย
- ปรับอีก! ‘โตโยต้า’ จำใจลดการผลิตอีก 4 แสนคัน เซ่นพิษโควิดและปัญหาขาดเเคลนชิป
- ‘ชิปขาดตลาด’ ทำผู้ผลิตรถยนต์เสียหาย 2.1 แสนล้านเหรียญ ลุ้น ‘โช้คอัพ’ ของขาดชิ้นต่อไป
ที่มา : AFP , news.com.au