Starbucks ประกาศขึ้นค่าแรง 2 รอบภายในปี 2022 เพื่อสู้ศึกชิงตัวพนักงาน หลังจากตลาดแรงงานภาคบริการโดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหารขาดแคลนพนักงานอย่างหนัก นอกจากนี้ บริษัทจะให้ค่าแนะนำ 200 เหรียญหากพนักงานสามารถดึงเพื่อนมาสมัครงานได้
ร้านกาแฟดัง Starbucks ในสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2021 ว่า บริษัทเตรียมขึ้นค่าแรงให้บาริสต้าอย่างน้อย 2 รอบภายในปี 2022
กลุ่มพนักงานที่จะได้รับการขึ้นค่าแรง ได้แก่กลุ่มบาริสต้าที่ทำงานมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี จะได้ขึ้นค่าแรงสูงสุด 5% ภายในปลายเดือนมกราคมนี้ และบาริสต้าที่ทำงานมาอย่างน้อย 5 ปี จะได้ขึ้นค่าแรงสูงสุด 10%
ส่วนค่าแรงทั่วไป Starbucks จะปรับขึ้นครั้งแรกภายในช่วงฤดูร้อนปีหน้า ซึ่งจะทำให้ค่าแรงขั้นต่ำของพนักงานอยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐต่อชั่วโมง (ประมาณ 499 บาทต่อชั่วโมง) ในบางพื้นที่อาจจะได้ขั้นต่ำถึง 23 เหรียญต่อชั่วโมง และจะทำให้ค่าแรงโดยเฉลี่ยปรับเพิ่มจาก 14 เหรียญต่อชั่วโมง เป็น 17 เหรียญต่อชั่วโมง
บริษัทเพิ่งจะขึ้นค่าแรงไปรอบหนึ่งเมื่อเดือนธันวาคม 2020 ขณะนั้น เควิน จอห์นสัน ซีอีโอ Starbucks ระบุว่าบริษัทจะมีการขึ้นค่าแรงอีก ทำให้ขั้นต่ำไปอยู่ที่ 15 เหรียญต่อชั่วโมงภายใน 3 ปี ดังนั้น การประกาศขึ้นค่าแรงปี 2022 จึงเป็นการขึ้นค่าแรงที่เร็วกว่าแผนเดิม
นอกจากขึ้นค่าแรงแล้ว บริษัทยังมีโปรแกรมให้ “โบนัสพิเศษ” 200 เหรียญสหรัฐ สำหรับการแนะนำเพื่อนเข้ามาสมัครงาน รวมถึงจะเพิ่มเจ้าหน้าที่ชักชวนสมัครงานทั่วประเทศด้วย
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตของกลุ่มธุรกิจร้านอาหารและบาร์ทั่วประเทศที่ไม่สามารถหาพนักงานได้เพียงพอ ระหว่างที่กำลังซื้อจากผู้บริโภคฟื้นตัว เชนร้านอาหารหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Domino’s Pizza, McDonald’s, Chipotle Mexican Grill ฯลฯ ต่างระบุเมื่อไตรมาส 3 ที่ผ่านมาว่าบริษัทกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งทำให้เร่งยอดขายไม่ได้มากเท่าที่ต้องการ
- แรงงานสหรัฐฯ แห่ลาออก แม้ประกาศงานลดลง เพราะยังกลัว COVID-19
- หยุดไม่อยู่! ‘Amazon’ เล็งจ้างงานอีก 33,000 ตำแหน่ง ค่าแรงเริ่ม 480 บาท/ชั่วโมง
นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้มองว่า ปัจจัยที่ทำให้พนักงานในกลุ่มธุรกิจนี้ขาดแคลน เกิดจากความกังวลต่อโรคระบาด COVID-19 ทำให้งานที่ต้องพบปะคนจำนวนมากมีพนักงานสนใจสมัครงานน้อยลง ไม่ใช่แค่ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นลักษณะเดียวกัน เช่น ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก ก็ขาดแคลนแรงงานเช่นกัน หนำซ้ำงานประเภทอื่นที่ให้ค่าแรงสูงกว่า เช่น คลังสินค้าของ Amazon ก็ดึงดูดแรงงานไปแทบหมด
นอกจากหาแรงงานยากแล้ว Starbucks กำลังเผชิญความท้าทายด้านแรงงานอีกส่วนหนึ่งคือ พนักงานกลุ่มหนึ่งในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก พยายามจัดตั้งสหภาพแรงงานอยู่ขณะนี้ เพราะพนักงานต้องการรวมเป็นหนึ่งเพื่อเรียกร้องให้บริษัทแก้ปัญหาพนักงานในร้านไม่เพียงพอที่มีมาอย่างต่อเนื่อง