“ร่วมอิสสระ” บริษัทร่วมทุนระหว่าง “เครือสหพัฒน์” กับ “ชาญอิสสระ” ลุยพัฒนาโครงการทำเลตากอากาศ เปิดคอนโดฯ “ศศรา หัวหิน” ติดหาดเขาตะเกียบ ราคาเฉลี่ยตร.ม.ละ 200,000 บาท เจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ข้อมูลจาก “ไนท์แฟรงค์” ประเมินปีนี้ตลาดหัวหินยังซบเซา แต่คอนโดฯ หรูติดหน้าหาดมีโอกาสการขายที่ดีกว่า
บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างเครือสหพัฒน์กับชาญอิสสระ เริ่มขยายพื้นที่พัฒนาโครงการออกนอกเขต “ทิวทะเลเวิลด์” ชะอำ ที่ขึ้นคอนโดฯ ไปแล้วมากกว่า 1,000 ยูนิต และมีโรงแรมบาบา บีช คลับ หัวหินกับพื้นที่พาณิชย์ “หัวหิน วัน” รองรับ
ครั้งนี้บริษัทร่วมอิสสระเลือกแปลงที่ดินข้ามมาทางฝั่งเขาตะเกียบ ห่างจากตลาดซิคาดา 2 กม. เพื่อพัฒนาโครงการหรู “ศศรา หัวหิน” เป็นคอนโดมิเนียมตากอากาศบนที่ดิน 5 ไร่ จำนวนห้องชุด 110 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
โครงการศศรา หัวหิน แบ่งการพัฒนาเป็น 5 อาคาร สูง 4 ชั้น ออกแบบโดย บริษัท แฮบบิตา จำกัด เน้นการออกแบบสไตล์ธรรมชาติ ตกแต่งด้วยอิฐและไม้ พร้อมสระว่ายน้ำ 5 สระ เกมรูม บีชคลับ พูลคลับ ฯลฯ เหมาะกับการมาพักผ่อนและทำกิจกรรมกับครอบครัว
ห้องชุดมีตั้งแต่ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 37 ตร.ม. จนถึง 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยสูงสุด 160 ตร.ม. ราคาเริ่ม 5.5 ล้านบาท สูงสุด 55 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 200,000 บาทต่อตร.ม. เริ่มเปิดแกรนด์ โอเพนนิ่งแล้ว โดยมีช่วงโปรโมชันพรีเซลจนถึง 31 มกราคม 2565 ส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท เริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 2/65 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี (ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาต EIA)
ใช้คาเฟ่ดึงดูด ขายไปแล้ว 40%
โครงการนี้เริ่มซอฟต์ โอเพนนิ่งไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 แต่เนื่องจากเกิดการระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 ทำให้การเปิดตัวเต็มรูปแบบต้องเลื่อนมาจนถึงขณะนี้ อย่างไรก็ตาม “สงกรานต์ อิสสระ” รองประธานกรรมการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ระบุว่า ศศรา หัวหิน มียอดจองแล้ว 40%
“COVID-19 มีผลบ้างต่อการขาย แต่เราก็ยังเห็นว่ามีคนเดินทางมาเยี่ยมชมเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา และทำให้เกิดการจอง” บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด กล่าวเสริม
ทั้งนี้ โครงการมีการก่อสร้างคาเฟ่และโรงเรียนสอนเซิร์ฟอย่าง Pineapple Surf Club ริมหาด ควบคู่ไปกับเซลส์แกลลอรี ทำให้ลูกค้าหลายคนที่แวะมาใช้บริการคาเฟ่ได้เห็นบรรยากาศหน้าหาดของโครงการ เป็นกลยุทธ์การขายอย่างหนึ่ง
“พอ COVID-19 เริ่มซา ที่แรกที่คนกรุงเทพฯ หรือคนไทยจะอยากมาก่อนก็คือหัวหิน เพราะไม่ต้องบินไป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยชอบอยู่แล้ว บางคนบอกเลยว่า หัวหินคือ ‘ผู้ชนะ’ ของช่วง COVID-19” สงกรานต์กล่าว
คอนโดฯ หรูติดหาดยังขายได้
ด้าน “ดิฐวัฒน์ อิสสระ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด กล่าวถึงสภาวะตลาดหัวหิน ย้อนไปช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้เป็นช่วงที่คอนโดฯ หัวหินบูม มีดีเวลอปเปอร์ขึ้นโครงการจำนวนมาก แต่ยอดขายภาพรวมอาจไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ทำเลไม่ติดหน้าหาด ทำให้ขายยาก เทียบกับคอนโดฯ ติดหาดจะมีดีมานด์สูงกว่า
สอดคล้องกับข้อมูลจาก “ไนท์แฟรงค์” สรุปสถานการณ์ตลาดหัวหินช่วงครึ่งปีแรก 2564 ณ เดือนมิถุนายนมีซัพพลายคอนโดฯ ชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า จำนวนกว่า 27,900 หน่วย ซึ่งขายไปแล้ว 85% ทำให้มีหน่วยเหลือขายอีกกว่า 4,300 หน่วย และเฉพาะครึ่งปีแรก 2564 มีการขายใหม่ได้เพียง 280 หน่วย
ในช่วงครึ่งปีแรกมีโครงการเปิดใหม่เพียง 1 แห่งคือ เดอะ ไรน์ หัวหิน จำนวน 350 หน่วย แต่ยังมีโครงการที่ผ่าน EIA แล้วและรอเปิดตัวอีก 2 แห่ง คือ เดอะ แฮมป์ตัน หัวหิน บาย แสนสิริ จำนวน 256 หน่วย และ วานา นาวา เรสซิเดนซ์ หลังสวนน้ำวานา นาวา จำนวน 382 หน่วย
ไนท์แฟรงค์ประเมินว่าปีนี้ตลาดหัวหินน่าจะยังทรงตัวซบเซาเหมือนกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ซื้อหลักที่ยังสนใจตลาดหัวหินคือกลุ่มระดับบนที่ถือเงินเย็น ไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ ดังนั้น สินค้าที่ยังขายได้มักจะเป็นคอนโดฯ ไฮเอนด์ติดหาด มีความน่าเชื่อถือว่าจะสามารถบริหารโครงการหลังขายได้ดี เช่น การันตีด้วยการใช้แบรนด์เชนโรงแรม หรือเป็นคอนโดฯ พร้อมอยู่ที่ลดราคาแรง
ทั้งนี้ คอนโดฯ ติดหาดมักจะมีการแบ่งราคาตามวิวของห้องชุด โซนไม่เห็นวิวทะเลราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ราว 160,000 บาทต่อตร.ม. โซนเห็นวิวทะเลได้ 45 องศาจะตั้งราคา 200,000-250,000 บาทต่อตร.ม. และโซนที่เห็นวิวทะเล 180 องศา อยู่ใกล้ชายหาดที่สุด จะตั้งราคา 300,000-360,000 บาทต่อตร.ม.