“อนันดาฯ” ชิงเปิดแผนปี 2565 ก่อนใคร เตรียมแผนโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ากว่า 28,200 ล้านบาท ปั้นคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ “COCO Parc” ร่วมกับดุสิตธานี และ “Culture” ร่วมกับ “สแครทช์ เฟิร์สท์” ผู้จัดงาน “วันเดอร์ฟรุ๊ต” นอกจากนี้ แย้มว่าอาจจะได้เห็นคอนโดฯ ระดับซูเปอร์ลักชัวรี 2 แห่ง อาคารดีไซน์สุดล้ำวิวสวนลุม และคอนโดฯ แบบสกายพูลวิลล่า เหมือนยกบ้านมาไว้บนอาคาร
“ชานนท์ เรืองกฤตยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดแผนบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2565 จะเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 28,200 ล้านบาท โดยมีหลายโครงการที่จะเป็นแบรนด์ใหม่ และร่วมกันพัฒนาคอนเซปต์กับพันธมิตร ดังนี้
1.อาร์เทล พระราม 9 – โครงการพูลวิลล่ากลางเมือง ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท จำนวน 99 ยูนิต เจาะตลาดบ้านระดับไฮเอนด์ซึ่งยังมีกำลังซื้อสม่ำเสมอแม้เผชิญวิกฤตโรคระบาด
2.COCO Parc (โคโค่ พาร์ค) – คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ทำเลติดสถานี MRT คลองเตย ตรงข้ามสวนเบญจกิตติ คอนโดฯ แบรนด์ใหม่นี้มีการพัฒนาร่วมกับพันธมิตรคือ “ดุสิตธานี” ซึ่งจะเข้ามาดูแลด้านการบริการหลังก่อสร้างเสร็จ โดยใช้การบริการแบบเดียวกับโรงแรม 5 ดาว นอกจากนี้ เป็นคอนโดฯ ที่ใช้วิธีสร้างก่อนเริ่มขาย โครงการจะเปิดขายปีหน้า และสร้างเสร็จภายในไตรมาส 4/65 ทำให้ลูกค้าซื้อแล้วไม่ต้องรอนานก่อนโอน
3.Culture (คัลเจอร์) – คอนโดฯ คอนเซปต์ Eco-Living ซึ่งร่วมพัฒนากับ “สแครทช์ เฟิร์สท์” ผู้จัดงาน “วันเดอร์ฟรุ๊ต” เป้าหมายเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยโครงการจะเน้นการใช้วัสดุก่อสร้างที่คำนึงถึงความยั่งยืน ลดมลพิษและเพิ่มการรีไซเคิลระหว่างการก่อสร้าง แบ่งเป็น 2 ทำเล คือ
– Culture ทองหล่อ ทำเล 250 เมตรจากสถานี BTS ทองหล่อ ราคาประมาณ 150,000 บาทต่อตร.ม.
– Culture จุฬา ทำเล 350 เมตรจากสถานี MRT สามย่าน (ยังไม่เปิดเผยราคา)
4.Ideo (ไอดีโอ) 2 ทำเลใหม่ คือ
– ไอดีโอ สะพานควาย ติดสถานี BTS สะพานควาย ราคา 130,000-150,000 บาทต่อตร.ม.
– ไอดีโอ รามคำแหง-ลำสาลี ทำเล 50 เมตรจากสถานีลำสาลี ราคา 80,000-100,000 บาทต่อตร.ม.
5.ทาวน์เฮาส์แบรนด์ใหม่ ทำเลติวานนท์-แจ้งวัฒนะ – โครงการนี้ยังไม่เปิดชื่อแบรนด์ แต่จะเป็นทาวน์เฮาส์ดีไซน์อิสระเหมาะกับโลกยุคใหม่ ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.5 ล้านบาท
ไม่เพียง 7 โครงการนี้ ชานนท์ยังกล่าวด้วยว่า บริษัทมี 2 โครงการซูเปอร์ลักชัวรี ที่รอการออกแบบเสร็จและจังหวะการเปิดตัวอยู่ โดยโครงการแรกจะเป็น “คอนโดฯ วิวสวนลุมพินีที่มีเพียง 20 ยูนิต” ความน่าสนใจคือดีไซน์กระจกห้องชุดเป็นวงกลมทรงโค้งยื่นออกไปในอากาศ ดูแปลกตาอย่างมาก ส่วนอีกโครงการหนึ่งจะเป็น “คอนโดฯ สกายพูลวิลล่า” จำนวนเพียง 30-40 ยูนิต ตอบสนองลูกค้าไลฟ์สไตล์คนเมืองแต่ต้องการพื้นที่มากและสระว่ายน้ำส่วนตัว
ปี 2565 อนันดาฯ วางเป้าหมายรายได้ที่ 12,000 ล้านบาท เติบโตจากเป้ารายได้ปีนี้ 20% บริษัทมีแบ็กล็อกรอโอนปีหน้าแล้ว 6,220 ล้านบาท และยังมีโครงการพร้อมอยู่เป็นสต็อกมูลค่ารวมกว่า 28,000 ล้านบาทที่จะลุยขายต่อปีหน้าเพื่อดันรายได้ให้ได้ตามเป้า
ลุย “เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์” ธุรกิจเสถียรกว่าโรงแรม
นอกจากโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ปีหน้าอนันดาฯ จะมี “รายได้ประจำ” (Recurring Income) เข้ามาจาก “เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์” 5 แห่ง ซึ่งใช้แบรนด์ระดับโลกเข้ามาบริหาร และจะพร้อมเปิดดำเนินการทั้งหมดในปี 2565 ดังนี้
- ซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9
- แอสคอทท์ แอมบาสซี่ สาทร
- แอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก
- ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก
- ซัมเมอร์เซ็ต พัทยา
ชานนท์ระบุว่า บริษัทสนใจธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์เพราะพบว่าเสถียรกว่าโรงแรมในช่วงที่มีโรคระบาด ยังมีอัตราเข้าพักสูงถึง 55% เทียบกับโรงแรมมีเพียง 20% เนื่องจากธุรกิจนี้จับกลุ่ม expat ต่างชาติซึ่งยังต้องอาศัยอยู่ในประเทศต่อเพื่อทำงาน
ตลาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ต่างชาติกลับมาซื้อ
สำหรับสถานการณ์อสังหาฯ ปีนี้ “ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บมจ.อนันดาฯ กล่าวว่า เป้ารายได้ 10,000 ล้านบาทของบริษัทในปีนี้ใกล้จะแตะเป้า โดยจะมีการโอนแบ็กล็อกเพิ่มอีก 1,400 ล้านบาท และมีเป้าขายโครงการพร้อมอยู่อีก 1,100 ล้านบาท
“ตลาดอสังหาฯ bottom out ไปแล้ว จากจุดต่ำสุดคือเมื่อเดือนกรกฎาคมซึ่งอสังหาฯ ถูกปิดไซต์ จนเมื่อเดือนตุลาคม ยอดขายของอนันดาฯ กลับมาโต 30% เทียบเดือนต่อเดือน สะท้อนตลาดที่ดีขึ้น” ประเสริฐกล่าว
นอกจากนี้ พบว่ากลุ่มผู้ซื้อต่างชาติก็กลับมาแล้วเช่นกัน โดยเมื่อเดือนก่อนปิดการขายลูกค้าต่างชาติได้ 280 ล้านบาท
อนันดาฯ เป็นบริษัทที่ชูจุดขายพัฒนาโครงการ “คอนโดฯ ติดรถไฟฟ้า” มาตลอด หลังจากเกิดโรคระบาดขึ้นและหลายบริษัทปรับไปทำงานแบบ hybrid work หรือ remote work ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า คอนโดฯ ติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก จะยังจำเป็นหรือไม่ ต่อประเด็นนี้ แม่ทัพอนันดาฯ ยังวางวิสัยทัศน์ว่าที่อยู่อาศัยที่เดินทางสะดวกจะยังจำเป็น
“เราทำงานแบบ hybrid model ทำงาน ประชุมผ่านจอกันได้ก็จริง แต่คนเราจะยังอยากเจอตัวกันบ้าง เรายังอยากนัดกันไป hang out ทองหล่อหลังเลิกงานเหมือนเดิม” ชานนท์กล่าว “ตอนนี้ กทม. เปิดเมืองแล้ว รถเริ่มกลับมาติด เพราะถนนใน กทม. ไม่เพียงพอ การเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้ายังตอบโจทย์เมืองนี้มากที่สุด เพียงแต่เราต้องปรับดีไซน์คอนโดฯ ใหม่ให้เหมาะกับโลกยุคใหม่”
สิ่งที่จะได้เห็นในคอนโดฯ อนันดาฯ โครงการใหม่ๆ จะเหมาะกับการเป็นโลกที่ทำงานจากบ้านได้ เช่น ห้องทำงานส่วนกลางที่เก็บเสียงได้เป็นส่วนตัวสำหรับประชุม ห้องสำหรับ ‘Live’ เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หรือยูทูปเบอร์จัดรายการ เป็นต้น