ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลัง ‘โอมิครอน’ ทำสายการบินกว่าพันเที่ยวถูกยกเลิก

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากผลของการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ โอมิครอน ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา สายการบินในสหรัฐฯ ถูกยกเลิกกว่า 1 พันเที่ยวบิน นอกจากนี้ หลายประเทศฝั่งยุโรปก็ได้มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยน้ำมันดิบสหรัฐฯ ดิ่งลงมากกว่า 1 ดอลลาร์ หลังจากที่สายการบินต่าง ๆ ระงับเที่ยวบินหลายพันเที่ยวบินในสหรัฐอเมริกาในช่วงวันหยุดคริสต์มาส โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ผู้โดยสารหลายพันคนติดค้างหลังจากสายการบินของสหรัฐฯ เนื่องจากการขาดแคลนพนักงานส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน

โดยสัญญาขายน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ร่วงลง 97 เซนต์หรือ 1.3% อยู่ที่ 72.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากแตะระดับต่ำสุดที่ 72.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงก่อนหน้า ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 24 เซนต์หรือ 0.3% สู่ 75.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากปิดตัวลง 0.92% เมื่อวันศุกร์

เจฟฟรีย์ ฮัลลีย์ นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า การเดินทางที่ลดลงเท่ากับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงในสหรัฐฯ ทำให้น้ำมันดิบ WTI ต่ำลง ซึ่ง WTI ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันของสหรัฐฯ โดยตลาดน้ำมันโดยทั่วไปยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับความต้องการในระยะสั้น นักสังเกตการณ์ตลาดกล่าว

Leona Liu นักวิเคราะห์จาก DailyFX ในสิงคโปร์ กล่าวว่า แม้ว่า โอมิครอน จะแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ของ COVID-19 แต่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อกลับมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ราว 68%

ขณะที่ในฝั่งยุโรป ราคาก๊าซธรรมชาติแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากอุปทานตึงตัว หนุนราคาน้ำมันดิบเบรนท์

ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนพุ่งเป้าไปยังการประชุม OPEC+ ครั้งต่อไปในวันที่ 4 มกราคม โดยองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน จะประชุมกันเพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม รัสเซียเชื่อว่าราคาน้ำมันไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า โดยความต้องการจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดภายในสิ้นปี 2565 รองนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ โนวัก กล่าว

Source