3 วิธีคิด “หยุดเปรียบเทียบ” ตนเองกับผู้อื่น ลดความเครียด-กังวล

หยุดเปรียบเทียบ
(Photo: Freepik)
การเปรียบเทียบหรือแข่งขันเล็กๆ กับเพื่อนร่วมงานอาจเป็นยาดีที่ทำให้เราพัฒนาตนเองได้เร็ว แต่การเปรียบเทียบที่มากเกินไปกลับจะกลายเป็นผลเสีย ทำให้เกิดความเครียดและย้อนมาทำร้ายตนเองแทน ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำวิธีคิด 3 ข้อจากนักจิตวิทยาเพื่อ “หยุดเปรียบเทียบ” ตนเองกับคนอื่น บรรเทาความกังวล

เคยมีความรู้สึกเครียดจากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนรอบข้างไหม? เพราะรู้สึกว่าเมื่อเทียบแล้วตนเองประสบความสำเร็จน้อยกว่าคนอื่นที่อายุใกล้เคียงกัน ทั้งที่ถ้าคิดดูดีๆ แล้ว หน้าที่การงานที่ตนเองมีก็ดี ได้รับการยอมรับนับถือจากเพื่อนร่วมงาน และมีอนาคตเส้นทางอาชีพที่ชัดเจน

“อาร์ต มาร์กแมน” ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาและการตลาดจาก University of Texas at Austin อธิบายว่า การเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นนั้นเป็น “การเปรียบเทียบทางสังคม” ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติของเราที่มักจะต้องการประเมินว่าเราทำได้ดีแค่ไหน

การเทียบตัวเองกับคนที่ดีกว่าเรา มักจะทำให้เรารู้สึกไม่พึงพอใจ และหากเรารู้สึกว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพื่อให้สถานการณ์ของเราเองดีขึ้นกว่านี้ ความรู้สึกไม่พอใจนั้นจะกลายเป็นความหงุดหงิดขมขื่น

กลับกัน หากเราเทียบกับคนที่ด้อยกว่า มักจะทำให้เราพึงพอใจ (หรืออาจถึงกับสบายใจ) แต่ข้อเสียคือมันอาจจะชะลอแรงกระตุ้นที่จะทำงานให้หนักขึ้นได้

ไม่ว่าจะเป็นทางไหน การเปรียบเทียบทางสังคมอาจเป็นผลร้ายกับเราได้ (มีข้อยกเว้นบ้างคือถ้าหากคุณมีการแข่งขันอย่างเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงานที่ความสามารถระดับเดียวกัน เมื่อเทียบกันแล้วแต่ละฝ่ายจะได้แรงกระตุ้นให้พัฒนา และทำให้ทั้งกลุ่มทำงานได้สำเร็จตามเป้า)

ถ้าหากคุณเริ่มรู้ตัวว่าการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเริ่มเป็นผลร้าย ทำให้ชีวิตตกต่ำ นี่คือ 3 ข้อแนะนำวิธีคิดจากศาสตราจารย์มาร์กแมน เพื่อช่วยลดแรงกดดัน

 

1.มุ่งมั่นกับเส้นทางของตัวเอง
(Photo: Freepik)

ปัญหาพื้นฐานของการเปรียบเทียบทางสังคมคือ มันเป็นการยอมรับให้ชีวิตคนอื่นเข้ามากะเกณฑ์เป้าหมายของเรา ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ทำให้การเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดใจ ก็เพราะว่าคนคนนั้นได้บางอย่างมาในขณะที่คุณไม่มี

การไปเฝ้ามองแต่ความสำเร็จของคนอื่นนั้นก่อให้เกิดปัญหา อย่างแรกคือมันจะทำให้เราเริ่มไม่พอใจกับสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันและเคยมีความสุขกับมัน การได้รู้ว่าคนอื่นก้าวไปสู่ความสำเร็จอีกขั้นจะทำให้เราหมดสนุกกับสิ่งที่เคยทำ ปัญหาอีกอย่างคือ ความสำเร็จของคนอื่น แม้ว่าจะดูสวยงามแค่ไหน แต่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เรามีความสุข

จะเป็นประโยชน์กว่าถ้าคิดถึงสิ่งที่ทำให้ ‘ตัวเราเอง’ มีความสุขและพึงพอใจ อาจจะเขียนรายการสิ่งสำคัญๆ ที่เราอยากจะทำหรืออยากจะประสบความสำเร็จ การใช้ชีวิตที่ตรงกับความเป็นตัวเอง ตรงกับเป้าหมายของตนเองนั้นจะมีคุณค่ามากกว่า

การมุ่งมั่นกับเป้าหมายของตนเอง จะทำให้เราสร้างเส้นทางของตัวเองในชีวิตได้ เหมือนกับการ “เลือกเส้นทางผจญภัยของตัวเอง”

 

2.ยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น
(Photo: Freepik)

เมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังอิจฉาความสำเร็จของคนอื่นอยู่ จงพยายามจัดกรอบปฏิกิริยาของตัวเราเองเสียใหม่

ความอิจฉาเป็นอารมณ์ที่เรามีเมื่อใครสักคนมีหรือได้ทำในสิ่งที่คุณคาดหวังว่าตัวเราเองจะได้มาหรือได้ทำบ้าง หากเพื่อนร่วมงานได้เลื่อนตำแหน่งหรือได้รางวัลที่เราอยากจะได้ เป็นเรื่องธรรมชาติที่ความอิจฉาจะผลุบเข้ามา แต่แทนที่จะปล่อยอารมณ์ไว้อย่างนั้น ลองเปลี่ยนมายินดีกับเพื่อนอย่างจริงใจแทน

มีเหตุผลสองสามข้อที่ควรฝึกตัวเองให้ยินดีกับคนอื่น ข้อแรกคือ จริงๆ แล้วสถานการณ์ที่ความสำเร็จของคนอื่นจะมาขัดขวางเป้าหมายของเราเองนั้นมีน้อยมาก เหตุการณ์ที่เป็นไปได้คือเมื่อเราไปแข่งขันกีฬาแล้วจะมีแค่คนคนเดียวที่ได้เหรียญทอง แต่ในสายอาชีพการงานทั่วไป มีทางอื่นที่เดินไปเพื่อความสำเร็จได้เหมือนกัน และถ้าหากเราแสดงออกถึงความเจ็บใจอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แต่ถ้าหากเราแสดงออกถึงความยินดี คนอื่นจะคิดถึงเราในฐานะสมาชิกที่ดีของสังคมการงาน และเมื่อเราประสบความสำเร็จบ้าง คนอื่นก็จะยินดีกับเรากลับคืน

อีกข้อดีหนึ่งคือ นิสัยหลายๆ อย่างเป็นการฝึกจากภายนอกสู่ภายใน ในช่วงแรกๆ ที่เราฝึกยินดีกับคนอื่นอาจจะรู้สึกเหมือนไม่จริงใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราจะรู้สึกว่ามันง่ายขึ้นในการยินดีกับคนอื่น เพราะเราได้ฝึกการแยกแยะความสำเร็จของเขากับของเราออกจากกันแล้ว

 

3.ซาบซึ้งกับความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง

การจะเพิกเฉยไม่สนใจคนอื่นโดยสิ้นเชิงนั้นยากมาก เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ดังนั้น สิ่งที่เราจะทำได้คือเปลี่ยนธรรมชาติของความรู้สึกที่มีต่อคนอื่น

วิธีที่ดีในการฝึกความคิดใหม่คือ การเขียนลิสต์รายการความรู้สึกขอบคุณหรือซาบซึ้งกับความช่วยเหลือของคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนที่คอยดูแลเรา เคยสั่งสอนเรา หรือสนับสนุนเราในที่ทำงาน

ความรู้สึกซาบซึ้งใจจะเป็นเหมือนยาต้านการเปรียบเทียบเชิงลบทั้งหลาย เพราะความรู้สึกนี้จะคอยย้ำเตือนว่าคนรอบตัวเรานี่แหละที่มีส่วนช่วยให้เราไปสู่ความสำเร็จ

Source

อ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม