จีนลุย ‘Clean Cyberspace’ คุมเอเยนซี่ที่ดูเเลอินฟลูเอนเซอร์ จับตาคอนเทนต์-เลี่ยงภาษี

Photo : Shutterstock
รัฐบาลจีน เตรียมกำหนดมาตรการควบคุมเอเยนซี่ที่ดูแลเหล่าอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเเผนการ ‘Clean Cyberspace’

Sheng Ronghua รองผู้อำนวยการ Cyberspace Administration of China (CAC) หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของจีน ระบุว่า จะมีการมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงเเละแก้ไขการดำเนินงานของบรรดาเอเยนซี่ประเภท MCN (Multi-channel Network) ,วิดีโอสั้นและสตรีมมิ่งไลฟ์สด รวมถึงการปราบปรามข่าวลือทางอินเทอร์เน็ต

การเพิ่มการควบคุมเอเยนซี่ MCN ในเเผนการ Clean Cyberspace ถือเป็นการตอกย้ำถึงความกังวลของ CAC เกี่ยวกับบริษัทที่อยู่เบื้องหลังคอนเทนต์ที่เป็นกลายไวรัลบนโซเชียลมีเดียของจีน

จากข้อมูลของ iiMedia Research ที่ปรึกษาด้านการวิจัย พบว่า ในประเทศจีนมีบริษัทที่ทำธุรกิจ MCN มากกว่า 28,000 แห่ง ซึ่งบริหารเเละดูเเลเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์ชื่อดังที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อสังคมหลายราย 

โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อินฟลูเอนเซอร์และบริษัทเอเยนซี่กำลังถูกตรวจสอบอย่างหนักในประเด็นต่างๆ เช่นการหลีกเลี่ยงภาษี

ยกตัวอย่างเช่น ‘Viya’ เจ้าแม่อีคอมเมิร์ซไลฟ์สดของจีน ที่สตรีมมิ่งทำยอดขายได้หลายหมื่นล้าน ถูกสั่งปรับกว่า 1.34 พันล้านหยวน (ราว 7 พันล้านบาท) เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังปกปิดรายได้ส่วนบุคคล รวมถึงยังไม่จ่ายภาษีประเภทอื่น ในปี 2019-2020

Zhang Yongjun เจ้าหน้าที่ของ CAC เปิดเผยว่า ปัจจุบันอเยนซี่ MCN เป็นผู้ดูแลบัญชีของอินฟลูเอนเซอร์กว่า 40% จากทั้งหมด ซึ่งมียอดผู้ติดตามรวมกว่า 10 ล้านคนบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักๆในจีน

สำหรับมาตรการกำกับดูแลในอนาคตในอนาคต จะมุ่งเป้าไปที่บริษัทประเภท MCN ที่มีอินฟลูเอนเซอร์ในสังกัดทำคอนเทนต์ที่เข้าข่ายเป็นภัยต่อสังคมด้วย

โดยแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ของจีนอย่าง Tencent และ iQIYI รวมถึง Douyin ได้เปิดตัวโหมดเยาวชนสำหรับผู้เยาว์แล้ว

ในปีที่ผ่านมา CAC ได้ดำเนินการตรวจสอบอัลกอริธึมของบริษัทอินเทอร์เน็ต สื่อเเละแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และแพลตฟอร์มวิดีโอกว่า 300 แห่ง โดยอธิบายว่านี่เป็นการเรียนรู้เพื่อวางรากฐานสำหรับมาตรการกำกับดูแลเพิ่มเติมในปีนี้

ขณะเดียวกัน CAC ก็ได้สร้างพื้นที่ออนไลน์ที่สะท้อนคุณค่าสังคมนิยมของจีน พร้อมลบบัญชี 1.34 พันล้านบัญชี ข้อมูลออนไลน์ 22 ล้านชิ้น รวมถึงสตรีมเมอร์และเว็บไซต์กว่า 7,200 รายการ

 

ที่มา : Reuters , asiafinancial