“เชอรีล แซนด์เบิร์ก” ซีโอโอ Meta ประกาศ “ลาออก” หลังอยู่กับบริษัทมานานถึง 14 ปี

เชอรีล แซนด์เบิร์ก ลาออก
เชอรีล แซนด์เบิร์ก ซีโอโอ Facebook เมื่อปี 2019 (Photo by Matt Winkelmeyer/Getty Images for Vanity Fair)
ถึงจุดอิ่มตัว… “เชอรีล แซนด์เบิร์ก” ซีโอโอ Meta Platforms Inc. บริษัทเจ้าของโซเชียลมีเดีย Facebook ประกาศการ “ลาออก” ของเธอ หลังจากอยู่กับบริษัทมานานถึง 14 ปี และนับได้ว่าเป็นมือขวาที่ร่วมกันสร้างบริษัทนี้กับ “มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก”

เชอรีล แซนด์เบิร์ก ประกาศการลาออกดังกล่าวผ่านทางโพสต์บน Facebook วันที่ 1 มิถุนายน 2022 หลังการประกาศลาออก ราคาหุ้นของ Meta ร่วงทันที 4% แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นถือว่ายังทรงตัว

“เมื่อครั้งที่ฉันตอบรับทำงานนี้ในปี 2008 ฉันหวังว่าฉันจะได้อยู่ในตำแหน่งสัก 5 ปี แต่หลังจากนั้น 14 ปี ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องเขียนบทใหม่ในชีวิตของตัวเอง” แซนด์เบิร์กเขียนในโพสต์ลาออก

ฮาเวียร์ โอลิแวน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเติบโต จะขึ้นมาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการแทนเธอ อ้างอิงจากโพสต์ของมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก

โอลิแวนเองก็อยู่กับ Meta มานานมากกว่า 14 ปี และเป็นหัวหน้านำทีมที่ดูแลทั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp และ Messenger

การลาออกของแซนด์เบิร์กนับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของยุคสมัยในบริษัท Meta เพราะบริษัทนี้กำลังเปลี่ยนทิศทางธุรกิจจากซอฟต์แวร์ไปเป็นฮาร์ดแวร์และ “เมตาเวิร์ส” มากขึ้น

 

มือขวาร่วมหัวจมท้ายกับซักเกอร์เบิร์ก

สำหรับประวัติของแซนด์เบิร์ก เธอจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ขณะที่ซักเกอร์เบิร์กในวัย 23 ปีมาชักชวนให้เธอเข้าร่วมงานนั้น เธอนั่งตำแหน่งรองประธานฝ่ายขายและปฏิบัติการออนไลน์ทั่วโลกของ Google อยู่ และอดีตเคยเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงการคลังในยุคประธานาธิบดี บิล คลินตัน

เชอรีล แซนด์เบิร์ก ลาออก
เชอรีล แซนด์เบิร์ก และ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 (Photo by Kevin Dietsch/Getty Images)

หลังจากเธอเป็นมือขวาของซักเกอร์เบิร์ก ในวันนั้น Facebook ยังทำรายได้เพียง 272 ล้านเหรียญสหรัฐ และขาดทุน 56 ล้านเหรียญ เธอใช้ประสบการณ์ด้านการบริหารและองค์ความรู้ด้านอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล มาช่วยปั้น Facebook จากสตาร์ทอัพสู่ยักษ์ใหญ่ที่ทำรายได้มหาศาล เมื่อปี 2021 บริษัท Meta ทำรายได้ 1.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และทำกำไร 3.94 หมื่นล้านเหรียญ

ในระหว่างการทำงานของแซนด์เบิร์ก เธอถือเป็นศูนย์กลางข้อวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ เกี่ยวกับ Facebook ร่วมกับซักเกอร์เบิร์ก โดยเธอเป็นคนออกหน้าในการต่อสู้คำวิจารณ์ว่าบริษัทกำลังเรียนรู้ข้อผิดพลาด และเครื่องมือของแพลตฟอร์มกำลังตรวจสอบคอนเทนต์อันตรายให้ดียิ่งขึ้น เมื่อปีก่อนนี้เอง เธอยอมรับกับ Reuters ว่าตัวเธอและซักเกอร์เบิร์กมีความรับผิดชอบในการแก้ไขระบบเหล่านี้

ข้อวิจารณ์และฟ้องร้องต่อ Facebook นั้นมากมาย ทั้งคดีความการอนุญาตให้ Cambridge Analytica นำข้อมูลชาวอเมริกันไปใช้เพื่อโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งในยุคที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง และนักวิจัยพบว่า Facebook คือจุดรวมพลของผู้สนับสนุนทรัมป์ นัดแนะกันบุกรุก The Capitol หรืออาคารรัฐสภา

สนามบินโรนัลด์ เรแกน กรุงวอชิงตัน ดีซี มองเห็นวิวอาคารรัฐสภา (The Capitol) (Photo : Shutterstock)

จนถึงข้อกล่าวหาจากนักสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ (U.N.) ซึ่งพบว่า Facebook คือกุญแจสำคัญที่ช่วยเผยแพร่ข้อความแสดงความเกลียดชัง (hate speech) โหมไฟความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาในเมียนมา ข้อครหาเหล่านี้แซนด์เบิร์กล้วนตกเป็นจำเลยหรือถูกเพ่งเล็งร่วมกันกับซักเกอร์เบิร์ก ในฐานะมือขวาวงในของการบริหาร

อย่างไรก็ตาม ในด้านบทบาทการบริหาร เมื่อปีก่อนนี้เธอปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้ถูกลดบทบาทลงในบริษัท หลังจากมีข่าวว่าเธอถูกลดบทบาทเพราะความเป็น “ผู้หญิง”

ตัวแซนด์เบิร์กเองเป็น “ผู้บริหารหญิง” แนวหน้าของวงการเทคอเมริกัน โดยวางตัวเองเป็นเฟมินิสต์ในโลกเอกชนของสหรัฐฯ แม้ว่าเธอจะยังอยู่ในคณะกรรมการบริษัท Meta ต่อไป แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงก้าวต่อไปของเธอ แซนด์เบิร์กระบุว่าเธอจะหันไปทำงานการกุศล เพราะนี่เป็น “ห้วงเวลาสำคัญยิ่งของผู้หญิง”

Source